คุณเห็นอะไร คิดอะไร เชิญคุณลิขิต คุณบรรเลง
กราบขอบพระคุณครับ
สวัสดีค่ะ คุณเม้ง
ต้นไม้แห่งรัก
* ลงรากหลักปักให้มั่นในกระถาง
พรวนดินพลางอย่างดูแลและถนอม
เมื่อรากหยั่งลึกไปมิแคลนคลอน
จึงค่อยถอนปลูกลงดินถิ่นเพาะพันธุ์
* ให้ลำต้นแข็งแกร่งแรงมากล้น
สูงใหญ่พ้นรอรับแสงแห่งสีสัน
ได้รับแดดแผดเผาของตาวัน
เป็นที่มั่นที่พักพิงของกิ่งใบ
* แตกกิ่งก้านสาขาไปทั่วทิศ
กระจายผลผลิตรักจักสดใส
โอนเอนอ่อนผ่อนตามแรงลมไป
ด้วยห่วงใยอาทรและหวังดี
* ประทับเรียงเคียงคู่อยู่เคียงข้าง
ห่อหุ้มก้านบ้างคลุมรักสมศักดิ์ศรี
ผลัดเก่าผลิใหม่ได้ทุกแรมปี
มิรอรีมิเบื่อหน่ายได้ทุกฤดู
* คือผลิตผลพันธุ์รักจักหอมหวาน
พร้อมเบ่งบานผสานต่อขอเชิดชู
เป็นดอกผลความพากเพียรมิดายดู
พลันพธูฟูเฟื่องรักจักนิรันดร์
แล้วเจ้าของภาพล่ะคะ ต้องการสื่อว่าอย่างไรเอ่ย
.... ขอบคุณค่ะวันนี้คุณปลูกต้นนี้แล้วหรือยังครับ
ปลูกกันสองคนเพื่อเป็นเซลล์เล็กๆ ที่เชื่อมโยงและสร้างความเข้มแข็งให้กับธรรมชาติ และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในโลกใบนี้ อยู่อย่างเข้าใจ มีรากฐานกับธรรมชาติ ที่มาที่อยู่และที่ไป เพราะพ่อแม่มิได้อยู่กับลูกตลอดไป
สวัสดีครับคุณปู
ขอบคุณมากครับ ผมว่าก่อนจะปลูกต้นไม้ หรือต้นอื่นๆ ก็คงว่าบทกลอนของคุณปูแล้วก็ทำตามแบบนั้น บ้านเราคงมีป่าคุณภาพเต็มเลยนะครับ
ไม่ว่าจะป่าไม้ ป่าสิ่งมีชีวิต ป่าอิฐป่าปูน ก็คงเกิดอนุภาพแห่งความรัก พึ่งพาหาสู่กัน
ขอบคุณมากๆ เลยครับ ว่าแต่ว่า แต่งกลอนเร็วจังครับผม นับถือๆ ครับ
สวัสดีครับพี่แท็ฟส์
บายดีหม้ายครับป๋ม
อิๆๆ สนุกดีไหมครับ แต่ผมสนุกครับ อ่านความเห็นพี่ที่ไรสนุกดีครับ บ่หงุดหงิดโต้ยกั๊บ
อรรถรสค้นหา ในป่าดงพงไพร
ที่กว้างใหญ่ไพศาล หวานลิ้นกินใจเมื่อไขกุญแจออกครับ
แล้วผมจะโอ้โห้ กสิกรรมธรรมชาติ ให้นะครับผม
ขอบคุณมากครับผม
สวัสดีค่ะ น้องเม้ง
สวัสดีครับน้องเทพ
เอ่อ ลูกยืนจนรากงอก แล้วพ่อแม่ช่วยกันดึงเปล่าครับ? อิอิ
อืม..น่าคิดครับ บรรเจิดจริงๆ ครับ ยืนจนงอกราก จริงๆ ก็คงดีครับโมเดลนี้ จะได้ไม่ต้องเป็นอย่าง แผนที่ปลา แผนที่ปลา ตอน 2
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับพี่แอมป์
สบายดีไหมครับพี่ พี่เอาไปให้น้องๆ คิดกันแล้ว เอามาบอกเล่ากันบ้างนะครับ เผื่อมีประเด็นอะไรใหม่ๆ น่าสนใจครับ
ขอบคุณมากครับ สำหรับคำว่า "รากแก้วของแผ่นดิน" ครับ
คุณปูแต่งได้พลิ้วไปเลยครับ...สำหรับกลอนครับ
สวัสดีครับคุณซูซาน
ขอบคุณมากๆ นะครับ จริงๆ ครอบครัวที่เป็นดั่งภาพนั้นผมว่าก็ยังมีอยู่ในประเทศไทยเยอะนะครับ เพียงแต่เมื่อครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ไม่ได้มีข่าวไงครับ แต่พอครอบครัวมีปัญหา มักจะเป็นข่าวให้เรารับรู้อยู่ตลอดครับ ตามหลักของการสื่อสารกับการขายข่าวในยุคทุนนิยมใช่ไหมครับ
แต่เมื่อมีการนำออกสื่อมากๆ ก็เปรียบเสมือนกับว่า มีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นออกจะบ่อยไป ทำให้เกิดการอยากรู้อยากเห็น อยากลอง หรือบางที่นำไปสู่การทำตาม เพราะเห็นคนอื่นทำ หากภูมิคุ้มกันที่ครอบครัวให้มาเริ่มเจือจางหรือไม่เข้มข้นพอนะครับ
สำหรับปัญหางูกินหาง หรือปัญหาลูกโซ่ นี่ เราคงต้องหาทางทำให้ข้อต่อตรงที่ข้อใดข้อหนึ่งขาดนะครับ แล้วซ่อมให้เร็วที่สุดครับ อาจจะช่วยได้ แต่ก็ว่าหล่ะครับพูดง่ายทำไม่ง่ายครับ
ผมถึงต้อง หันมาทำความเข้าใจ แล้วรับรู้ ทำในส่วนที่ทำได้นะครับ ไม่งั้นจะปวดหัวมากครับ เพราะสังคมที่เป็นอยู่มันซับซ้อนยิ่งกว่าสมองเราเสียอีกครับ ที่จะแก้ไขได้ แต่เราต้องค่อยๆ ทำไปอย่างมีเหตุผลและร่วมกันคิดร่วมกันทำครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนต้องการให้คนอื่นเห็นความสำคัญและเอาใจใส่ครับ เมื่อเกิดแบบนี้ ความอบอุ่นจะเกิดขึ้นครับ เมื่อความอบอุ่นเกิดขึ้น เราจะเข้าถึงเค้า เค้าก็จะเข้าถึงเรา ผมพอจะคิดได้แค่นี้หล่ะครับ
คุณซูซานสบายดีนะครับ
สวัสดีครับคุณซูซาน ผมสบายดีครับ งานเยอะหน่อยครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับ ทำให้ผมจินตนาการเห็นภาพครับ ประกอบกับเคยพบเจอบ้างในเรื่อง แว้นซ์ แต่เพิ่งเข้าใจศัพท์วันนี้ครับ ส่วน สก๊อยท์ (ไม่แน่ใจนะครับ หากผมเดา คิดว่าน่าจะมาจาก สเกิร์ท กับ อ่อย) แต่เรื่องบิดแพ้แล้วเป็นอย่างที่คุณว่าหน่ะ โอ้..อัน..เบลอะๆๆๆๆ (อัน บา ลี วา เบิ้ล) หากเป็นแบบนี้แล้ว ขอเอาความเห็นของน้อง ธรรมวุธ มาใช้นะครับ ขอให้งอกรากตามในรูปเถิดครับ จะได้ไม่วิ่งเข้าเมืองครับ
ผมคิดเรื่องนี้อยู่บ่อยเหมือนกันครับ เรื่องความอดทนกับการหย่าร้าง สังเกตไหมครับ ว่าปัจจุบันคนมักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง จริงๆ ดีนะครับ แต่หากเอาไปใช้จนพร่ำเพรื่อในทุกด้าน โดยการขาดการประณีประนอมแล้วละก็ เราจะเจอสภาพหลายๆ อย่างที่มีตัวชี้ให้เราเห็นอย่างที่คุณซูซานเห็นครับ
อะไรไม่ถูกใจ ก็เลิก ทำงานไปไม่สบายใจ ไม่โดนใจ ก็ออก ง่ายเหลือเกิน ง่ายดีแท้ครับ ภาวะคนตกงานเลยสูงดีครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับ