ผังเศรษฐกิจพอเพียงทาบลงบนใบหน้าคุณ จะเกิดอะไรขึ้น?


สวัสดีครับทุกท่าน

           วันนี้ได้ไปอ่านอาหารสมองของเพื่อน กสิกรรมธรรมชาติ ครับ http://gotoknow.org/blog/agri-nature/103078 ของ

P

โสทร (http://www.sothorn.org)

พร้อมได้ภาพจากที่เพื่อนโสได้เขียนเอาไว้ ซึ่งทำให้ผมเอามามองใหม่อีกรอบวันนี้ เลยได้อะไรให้ชวนคิดเพิ่มเติมครับ

ให้คุณลองจ้องภาพด้านล่างนี้ดูนะครับ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงนะครับ ว่าคุณเห็นอะไรหรือเปล่าครับ ลองนั่งจ้องมองดูซักห้านาทีก็ได้นะครับ   แล้วมาดูกันว่าสิ่งที่คุณเห็นเหมือนที่ผมเห็นไหมครับ

ภาพนี้ด้านบนที่ผมมองเห็น สิ่งที่ผมมองเห็น ผมเขียนไว้ด้านล่างนี้นะครับ

----------------------------------------------------------------------------------

  •  ผมมองเห็นเป็นรูปใบหน้าของคนนะครับ นั่นคือลักษณะโครงสร้างของตัวเรานะครับ มาเริ่มกันทีละส่วนๆ กันเลยครับ

  • บนสุด มีคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) ผมมองตรงนี้เป็นบริเวณบนสุดของคนเราก็คือ ผมของคนเรานั่นเองครับ ซึ่งผมของคนเราก็ต้องมีอย่างพอเพียง ใช่ไหมครับ

  • ถัดลงมา คือ คำว่า ความรู้ ซึ่งผมเปรียบเหมือนตาซ้าย หรือ สมองซีกซ้ายของคน ซึ่งจะเก็บสะสม พิจารณาสิ่งที่เป็นความรู้เชิงตรรกะทางเหตุผลและวิทยาศาสตร์

  • ในด้านขวามีคำว่า คุณธรรม อันนี้ก็เทียบง่ายๆ เป็นตาขวาหรือสมองซีกขวานั่นเอง ก็จะเก็บสิ่งดีๆ ในด้านสังคม คุณธรรม จิตใจ

  • ถัดลงมาด้านล่าง ชุดของคำว่า รอบรู้เท่าทัน พึ่งตนเอง รอบคอบ รู้จักพอ ระมัดระวัง ทาน  ในส่วนนี้ผมมองเห็นเป็น จมูก ซึ่ง จะต้องมีความรอบรู้ พึ่งตนเองในการจับกลิ่นได้ มีความรอบคอบ ระมัดระวัง ควบคุมความพอเพียง หายใจเข้าและออกให้ปอดได้รับอากาศที่พอเพียง ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปครับ

  • ถัดมาทางด้านซ้ายมือ ผมมองเห็นว่าควรจะเป็นหูซ้าย ว่าด้วยเรื่องของสังคม รับฟังเรื่องของสังคม ว่าด้วยเรื่องของ สุดโต่ง ทำกิน อัตตา อนุรักษ์ หรือว่าด้วย สังคมนิยมนั่นเองครับ

  • แล้วด้านขวาสุดก็ว่าด้วยเรื่องของ หูขวา ที่รับฟังเรื่องราวทางด้านสุดโต่งไปทางทุนนิยมครับ ได้แก่ เงิน รวย เอาเปรียบ บุกรุก

  • จะเห็นว่าทั้งหูซ้ายและหูขวาต่างสุดโต่งของใบหน้าของคนเรา คือหูซ้ายก็อยู่ซ้ายสุด หรือหูขวาก็รับเรื่องขวาสุดครับ ดังนั้นเราน่าจะมีจุดตรงกลางใช่ไหมครับ ดังนั้น ผมขยับเข้ามาอีกหน่อยดีกว่าครับ มาถึง แก้มสองแก้มนะครับ

  • วงกลมด้านซ้ายมือ ให้เป็นแก้มซ้าย เป็นชุมชนนิยม ว่าด้วยเรื่องของชุมชน เพราะอยู่ใกล้หูซ้าย

  • วงกลมด้านขวามือก็เป็นแก้มขวา รับข้อมูลจากหูขวา ว่าด้วยเรื่อง ทุนนิยม

  • โดยแก้มทั้งสองก็ต้องเชื่อมต่อกัน ซึ่งนับว่าอยู่ที่จุดตรงกลางสุดของใบหน้า ไม่ว่าจะมองจากขนลงล่าง หรือ ซ้ายไปขวา ซึ่งตรงนี้คือจุดสมดุล เป็นเพื่อนที่สมดุลของใบหน้า ซึ่งน่าจะตรงกับ เศรษฐกิจพอเพียง มีการเชื่อมโยงของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ใช้ข้อมูลหลายๆ ส่วน ประกอบกันอย่างชาญฉลาด

  • ถัดลงมาด้านล่างนี้ ผมมองเห็นเป็นหนวด หรือเปลือกปากด้านบนของเราครับ เป็นภูมิคุ้มกัน พอประมาณ มีเหตุผล

  • และล่างลงมาคือ ปากของเรานั่นเองครับ ซึ่งปากนี่จะสำคัญมากๆ ครับ คือ ทางสายกลาง ไม่ว่าจะกิน จะพูด จะอ่าน จะนำเข้า หรือนำออก ปากก็สำคัญครับ ดังนั้น จะสมดุลได้ทั้งระบบใบหน้า ก็ต้อง เดินทางสายกลาง เชื่อมโยงทั้งใบหน้า ประสานสมองซ้ายความ ความรู้คู่คุณธรรมให้ได้

  • หากเราประสานเข้ากันไม่ได้ เราก็จะกลายเป็นคนเมา...เพราะไม่หนักไปทางซ้ายก็ทางขวา เราเดินโทงเทงตลอดเวลา แต่หากเราปรับสภาพได้แล้ว เราจะเดินได้ตรง ตามหลักของเศรษฐกิจพอเพียง

  • ส่วนด้านล่างสุดเป็น คางหรือเครา ซึ่งเป็นส่วนของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ซึ่งนำประชาชนไปยังทางเดินหนึ่งที่จะกลับไปสู่ความพอเพียงด้วยแนวทางการเกษตรกรรม

----------------------------------------------------------------------------------

หากคุณเห็นอะไร เพิ่มเติม เหมือนหรือต่างไป ก็เชิญร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

จะเห็นว่าเราเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาไว้ที่ใบหน้าของเรา จะได้อยู่กับตัวเรา เวลาเราส่องกระจกแต่ละวัน เราจะได้เห็นความพอเพียงในกระจกด้วยครับ เวลามองด้วยตาซ้ายเราจะได้รับรู้ ตาขวาก็ต้องช่วยด้วยครับ จมูก หู แก้ม ปาก ก็สำคัญหมดครับ

ขอบพระคุณมากครับ

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

หมายเลขบันทึก: 112299เขียนเมื่อ 17 กรกฎาคม 2007 17:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
เห็นวงกลมสามวงแล้วทำให้นึกได้ว่าโลกเรานี้หนอช่างกลมจริงหรือ  ไฉนชีวิตเราจึงหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ดั่งธรรมจักร ที่เป็นบรรทัดฐานชาวพุทธมากว่า 2500 ปีล่วงมาแล้วธรรมชาติหรือธรรมมะเป็นวิถีมนุษย์มานมนาน  นานจนบางครั้งก็ลืมตนเหมือนกัน ตามกระแสโลก วงกลมวงแรกชุมชนนิยมเหมือนพยามจะบอกว่าต้องพึ่งตนเอง วงที่สองก็จัดระเบียบความคิดใช้หลักการองค์ความรู้ใหม่ๆและประยุกต์ส่วนวงที่สามแข่งขันก่อนลงสนามต้องฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเก่งและมั่นใจว่าดีแล้ว ประเสริฐแล้วสู้ได้ไม่อายเขาตรงนี้ทำแล้วมีผลพลอยได้คือภูมคุ้มกันยิ่งทำยิ่งเข้มแข็งด้วยองค์ความรู้ด้วยภูมิปัญญา นึกแล้วชวนคิดถึงคนจีนโพ้นทะเลหากจะนำเข้าสู่กระบวนการศึกษา ที่เหมาะสมกับคนไทยแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปูพื้นฐานคู่กับระบบการเมือง วางยุทธศาสตร์ไว้สำหรับลูกหลาน รุ่นต่อไป คนรุ่นเราอาจต้องลำบาก ตายไปแล้วอาจไม่เห็นผลที่ว่าอย่างนี้ใช่ว่าจะทำไม่ได้เสียทีเดียว  ต้องมีผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ฟ้าส่งมาจริงๆ ไม่รู้จะมีหรือเปล่า สำหรับเมืองไทยวันนี้ ได้แค่พึ่งตนเองไม่ไหลไปตามกระแสมากก็ดีแล้วครับ เป็นโมเดลที่ดีมากๆครับขอแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจคนของแผ่นดิน
  • ตามไปเยี่ยมและทักทายคุณโสทรตามลิงค์มาแล้วครับ
  • ขอบพระคุณมากครับที่นำมาแลกเปลี่ยน
ไม่มีรูป
ปิยวุฒิ  

สวัสดีครับพี่ปิยวุฒิ

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ สำหรับความเห็นดีๆ ครับ หากเรามียุทธศาสตร์ของระบบที่ดี คู่กับระบบการเมืองที่มีทั้งความรู้คู่คุณธรรมได้ ก็คงดีไม่น้อยครับ ออกแบบแล้ววางแผนนโยบายพร้อมลงถึงประชาชนแบบจริงใจ ไม่หวังผลใดๆ นอกจากคนมีรอยยิ้มและสุขใจในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะเป็นพื้นที่ฐานที่สำคัญของประเทศ

การพัฒนาที่แท้จริง คงต้องช่วยกันพัฒนาเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนใช่ไหมครับ แม้เราจะทราบว่าไม่มีอะไรยั่งยืนก็ตาม แต่หากสร้างได้ เช่นความดี หากทำดีก็จะได้ดี ทำไม่ดีก็คงได้ไม่ดีตอบแทนเช่นกัน คนทำดีหรือไม่ดี คนที่ทำเท่านั้นที่จะรู้จริงๆ ด้วยเจตนาภายใน

การพัฒนาประเทศก็ควรสร้างให้เกิดการรับช่วงต่อเนื่องเกี่ยวข้องกันเป็นวัฎจักร การทำให้คนพึ่งตนเองได้ รู้ว่าอะไรควรและรับทราบสั่งสมประสบการณ์จากสิ่งดีๆ จากรุ่นบรรพบุรุษแล้วสืบทอดต่อไปหากเป็นเรื่องที่ดี ทำต่อไปก็น่าจะอยู่ได้ใช่หรือเปล่าครับ

ขอบคุณมากๆ นะครับ สนุกในการทำงานนะครับ

P

สวัสดีครับพี่ยุทธ

สบายดีไหมครับพี่ ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่แวะมาทักทาย มีอะไรเพิ่มเติมได้นะครับ ผมมือสมัครเล่นครับมองเท่าที่พอจะมองได้นะครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครัับ เม้ง 

ผมมองต่างกันข้อหนึ่งครับ

บนสุด​ ​มีคำ​ว่า​ ​เศรษฐกิจพอเพียง​ (Sufficiency Economy) ​ผมมองตรงนี้​เป็น​บริ​เวณบนสุดของคนเราก็คือ​ ​ผมของคนเรานั่นเองครับ​ ​ซึ่ง​ผมของคนเราก็​ต้อง​มีอย่างพอเพียง​ ​ใช่​ไหมครับ

ผมมองว่าเป็นหน้าผากนะ ไม่ใช่เส้นผม เพราะการดูโหงวเง้งของคน ดูจากหน้าผากได้ด้วย คนที่จะมีความพอเพียงหรือไม่ก็ดูจากหน้าผาก(ไม่รู้ดูยังไงนะคิดเล่นๆ เฉยๆ)   ผมไม่มองว่าเป็นผม เพราะผมเริ่มหัวล้าน นั่นหมายความผมของผมเริ่มไม่เพียงพอ คนหัวล้านทุกคนมีผมไม่เพียงพอ แต่พอใจกับที่เป็นอยู่ ผมมองตื้นๆ คิดตื้นๆนะ

 

P

สวัสดีครับโส

ขอบคุณมากครับที่เค้ามาแลกเปลี่ยนกันนะครับ

หน้าผากจริงๆ ก็ถูกต้องครับ เพราะเป็นจุดที่แข็งจุดหนึ่งในใบหน้าเลยครับ ใช้ในการโหม่งบอล ตะกร้อ แต่ไม่ใช่ลูกทุ่มน้ำหนักครับ จะต้องแข็งพอเพียงและเพียงพอที่จะทำให้ใบหน้าประกอบกันอยู่ได้เป็นหน้าด้วยครับ

สำหรับเรื่องเส้นผม นั้นจริงๆ แล้วควรจะพอเพียงและเพียงพอถึงจะเป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดครับ ลองมองผมเป็นป่าไม้ซิครับ ที่งอกบนศีรษะเรา เหมือนกับป่าไม้บนประเทศไทย ฝนตกลงมาแต่ละครั้งกับการอาบน้ำด้วยฝักบัวหรือด้วยขันน้ำก็ตาม เส้นผมเป็นเหมือนฟองน้ำที่ช่วยซับน้ำครับ เหมือนป่าไม้ที่เป็นฟองน้ำช่วยซับน้ำไม่ให้เกิดการชะล้างก็เช่นกันครับ

อิๆๆ มองต่อๆ ไปได้เยอะครับ เดี๋ยวให้อ่านบทความหนึ่งครับ เกี่ยวกับป่าไม้เป็นฟองน้ำ ครับ

มีป่าไม้ เสมือนมีฟองน้ำไว้ดูดซับน้ำ ที่บ่าไหล จริงหรือ

ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท