ปกติทุกเดือน บริษัทจะมีหน้าที่ต้องไปชำระภาษี 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภายในทุกวันที่ 7 ของเดือน) และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภายในทุกวันที่ 15 ของเดือน)
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายนั้น คือภาษีที่นิติบุคคลจะต้องหัก เมื่อมีการจ่ายค่าบริการใดๆ ให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น และเมื่อหักแล้ว ก็ต้องทำเงินที่หักไว้ นำส่งสรรพากรทุกเดือนๆ ไป โดยมีการออกใบรับ (หนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย) ให้กับผู้รับเงินเสมอ, และอีกส่วนเกิดจากการนำส่งภาษีเงินได้ของพนักงานบริษัทให้กับกรมสรรพากร (แปลง่ายๆ คือ สรรพากรกลัวพนักงานบริษัท ไม่ยอมมาคำนวนภาษีสิ้นปี อาจจะเพราะไม่อยากทำด้วยความขี้เกียจ หรือขี้ลืม หรืออื่นๆ ก็แล้วแต่) ภาษีนี้ จะต้องส่งภายในวันที่ 7 ของทุกเดือน ถ้าวันที่ 7 ตรงกับเสาร์หรือาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ ก็อะลุ้มอะล่วยให้ไปจ่ายในวันทำการถัดไปได้
ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะเป็นการนำส่งภาษีของนิติบุคคล (หรือบุคคล) ที่มีการเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ในบางเดือนอาจจะต้องมีการชำระเพิ่ม หรือในบางเดือนอาจจะไม่ต้องชำระเพิ่ม ขึ้นอยู่กับว่า มีเครดิตภาษีหลงเหลืออยู่หรือไม่ การชำระภาษีนี้ ต้องทำภายในวันที่ 15 ของทุกเดือนค่ะ แม้จะไม่มีภาษีซื้อหรือขายเลย ก็ยังต้องยื่นภาษีเป็นแบบรายงานเปล่าค่ะ
ที่เอาเรื่องภาษีมาเล่านี้ เพราะว่า ในขณะนี้กรมสรรพากรก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการเปิดช่องทางให้มีการชำระภาษีด้วยบัตรเครดิต ธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2550 เป็นต้นมา
(เหตุที่รับเฉพาะบัตรเครดิต ธ.กรุงไทยนั้น ดิฉันเดาว่า คงเพราะเป็นการอุดหนุนองค์กรรัฐด้วยกัน)
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และไม่ได้ไปยื่นภาษีด้วยตนเองมานานมาแล้ว (เคยทำสมัยที่ยังเป็นพนักงานบัญชีประมาณสิบปีก่อน นายให้หัดทำ นายบอกว่า คุณต้องทำเป็น มิเช่นนั้น คุณจะสั่งพนักงานคนอื่นไปทำแทนไม่ได้ ดิฉันจำคำนี้แม่นมาก จนกระทั่งงานเล็กงานน้อย ถ้าดิฉันต้องหาคนทำแทน ดิฉันต้องทำเป็นก่อน จึงจะสอนงานเขาได้ ทำจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว) ก็เลยตัดสินไปลองไปยื่นภาษีด้วยตนเอง เพื่อจะลองใช้บริการชำระภาษีด้วยบัตรเครดิต
ผลสำเร็จของการไปคือ ได้จ่ายค่าภาษีด้วยบัตรสมใจอยาก แต่ มีปัญหาไม่น่าเชื่อดังนี้
สวัสดีค่ะ
สรรพากรไทยนี่ยังไม่ค่อยพัฒนาเลยนะ ถ้าเทียบกับหน่วยงานราชการอย่างกระทรวงต่างประเทศ ฝ่ายหนังสือเดินทาง
ใช่ค่ะ สงสารเขาเถอะ ข้างบนให้นโยบายลงไป แต่ลืมสอนคนของตัวเองให้ทำเป็นก่อน เห็นมาหลายแห่งแล้ว บางทีเราต้องแนะนำเขาด้วยค่ะ
ไม่มีบัตรให้ลองครับ
^-^
ทุกวันนี้รายงานภาษีผ่านอินเตอร์เนท และพิมพ์ slip ไปจ่ายเงินสดที่เคาน์เตอร์ธนาคาร มีข้อจำกัดที่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
1. ต้องเป็นเงินสด ไม่รับเช็ค ทั้งๆ ที่เช็คเราก็ซื้อมาจากธนาคาร เห้อ...ทำไมมันไม่ทำเหมือนโอนเงินธรรมดา ก็ไม่รู้
2. ต้องเสียค่าธรรมเนียม 15 บาท / แบบฟอร์ม (เทียบกับค่ารถไปจ่ายที่สาขาใกล้เคียง ก็เข้าธนาคารดีกว่า
เคาน์เตอร์เซอร์วิส นะได้เห็นๆ เพราะได้ค่าธรรมเนียม คนไปชำระ ก็รับภาระจ่ายค่าเสียเวลาน่ะแหละ
ชำระด้วยบัตรเครดิต ได้ point ด้วยหรือเปล่า เผื่อสร้างความเร้าใจ ให้น่าเปลี่ยนแนวทางมาใช้บัตรเครดิต (ทีนี้ คนที่รูดปื๊ดๆ คงได้สะสมยอดหนี้ไปอีกน่ะสิ) ดาบ สาม คม หรือเปล่า มิน่า หัวหน้าธนาคารถึงได้ ไม่อยากรับ บัตรน่ะสิ