อย่างที่บอกจากบันทึกซึ่งเป็นผลงานของพี่ไปรวินเป็นหัวหน้าโครงการ  คราวนี้ก็เป็นเรื่องของพี่รีเป็นหัวหน้าบ้าง อ้อ ! ลืมบอกไปว่าทั้งสองเป็นคู่หู Duo นั่นคือผลัดกันเป็นห้วหน้าโครงการและผู้ร่วมโครงการนั่นเอง อย่างที่บอก(อีกครั้ง)ในบันทึกก่อน ว่างานของพี่ทั้งสองเป็นงานเก็บ เช็ด ถู เตรียม ล้าง อบ นับ แล้วก็ Pack ส่ง สุดล้าน ๆ ๆๆ สาหัส เพราะปริมาณงานที่มีมั่กมาก ๆๆๆ แล้ว

โดยเฉพาะขั้นตอนการล้าง ยังแบ่งเป็นการล้างธรรมดาทั่วไป และการล้างแบบพิเศษ ซึ่งอุปกรณ์ทุกชิ้นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น หลอดเก็บเลือด  Cup Tip เครื่องแก้วอย่าง pipette เป็นต้น

ทำไมต้องล้างพิเศษ ??? (นั่นน๊ะสิ)

เพราะ....หลอดแก้วที่ใช้สำหรับตรวจ serum iron, TIBC จะต้องเป็นหลอดแก้วที่ปราศจากการปนเปื้อนของเหล็กจากสิ่งแวดล้อม เช่น จากน้ำ, ผงซักฟอก จึงจำเป็นต้องกำจัดออกไปนั่นเอง

การล้างพิเศษ ชื่อก็บอกว่ามันน่าจะแพง เอ๊ย ! มีขั้นตอนมากกว่าธรรมดา ใช้เวลามากกว่า นั่นก็คือหลังจากแปรง ล้างทำความสะอาดกับผงหรือน้ำยาแล้ว ต้องนำอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องการล้าง ไปแช่ด้วยกรด 2 N HCl  เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากต้องะมัดระวังจากการสัมผัสแล้ว ยังต้องนำไปล้างด้วยน้ำกลั่นหลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะหมดความลื่นทีเดียว

ปัญหาก็คือ          

• ใช้วิธีนำหลอดแก้วที่สะอาดแล้วทั้งหมดใส่ลงไปในถังโดยไม่ได้จัดเรียง จึงทำให้ไม่สะดวกในการเก็บขึ้นมาล้างต่อไป หรือต้องเสียเวลาเก็บทีละหลอด ๆ
• เสียพื้นที่ในการแช่หลอด เพราะหลอดอยู่กันกระจัดกระจาย
• มีปัญหาว่าบางหลอดมีอากาศอยู่ด้านใน ทำให้กรดเข้าไปไม่ถึงก้นหลอด จึงต้องใช้ forcept หรือมือ (ที่ใส่ถุงมือ) กด เพื่อให้ทุกหลอดได้รับการแช่อย่างทั่วถึง 

ฟังปัญหาแล้ว เราได้แต่เห็นใจ แต่คงไม่สามารถไปช่วยหรือไปทำได้ (เฮ้อ !) แต่เมื่อได้ฟังการแก้ปัญหาของพี่ ๆ เขา เราก็ได้แต่....นิ่ง เงียบ และทึ่ง

การแก้ปัญหาเพียงแค่การใช้ "หนังยาง หรือหนังรัด หรือหนังสติ๊กรัดของ" ทั่วไปนี่เอง มาปรับปรุงวิธีการจัดวางหลอดลงในถัง โดยนำหลอดมามัดเป็นชุดๆ ประมาณชุดละ 20 หลอดด้วยหนังยางแล้วจุ่มลงในถังที่มีน้ำยากรด 2 N HCl จนน้ำยาเต็มหลอดทุกหลอด

ผลที่ได้ก็คือ

• สามารถบรรจุหลอดในถังได้มากขึ้น
• สะดวกในการเก็บขึ้นมาล้างในขั้นตอนต่อไป สามารถยกขึ้นมาผ่านน้ำได้เลย                          
• ลดเวลาการจัดหลอดให้หันไปทางเดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการล้างด้วยน้ำที่ปราศจากประจุ (deionized water)

ถ้าไม่มีโครงการ "งานดี คิดง่าย ทำได้" ก็อาจจะเป็น "ความลับ" หรือ ความรู้ฝังลึก "Tacit knowledge "(รึเปล่า?) ที่ลึกซะจนไม่มีใครล่วงรู้ กับปัญหาและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น  !!!! เพราะพี่เขาไม่เคยบอกใคร