เมื่อวันที่ ๒๓ – ๒๔ มีนาคม ๕๐ ดิฉันได้มีโอกาสร่วมเป็นวิทยากรกระบวนการให้กับกลุ่มนักวิชาการการศึกษาจากสำนักประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ สำนักนโยบายและแผนการศึกษา สำนักอำนวยการ ของสภาการศึกษา และจากสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ของ สพฐ. รวมทั้งสิ้น ๔๓ คน
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นที่ ภูเขางามรีสอร์ท จ.นครนายก อาจารย์วิจารณ์กล่าวถึงการจัด WS ครั้งนี้เมื่อตอน AAR ว่า เป็นการท้าทายตัวเองของ สคส. และเป็นก้าวกระโดดของการทำงานของ สคส.อย่างมาก และเป็นงานที่จะสร้างประโยชน์แก่การศีกษาของชาติอย่างมาก ส่วนอาจารย์เลขา ปิยะอัจฉริยะ กล่าวว่า WS ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะมากที่สุดตั้งแต่เคยจัดมา
เมื่อดิฉันปะติดปะต่อความคิดโดยตั้งหลักจากคำที่ท่านอาจารย์ทั้งสองได้กล่าวถึง และประมวลเอาจากที่ท่านกล่าวถึงไว้ในวาระอื่นๆแล้วก็ได้ความว่า
สิ่งที่จะได้รับจากการที่ทุกคนซึ่งเป็นนักวิชาการการศึกษามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในครั้งนี้คือ การได้รู้ว่า
"ดี เก่ง และมีความสุขอยู่ที่ไหน จะทำให้ขยายผลและเติบโตได้อย่างไร ที่คิดว่ารู้นั้น บางเรื่องเราก็ไม่รู้จริง ลองตั้งสมมติฐานว่าดี เก่ง และมีความสุข มีอยู่ในตนเป็นร้อยดีพันดีสารพัดแบบ เราลองมาทำความเข้าใจเพื่อที่จะตอบคำถามว่าการศึกษาจะทำให้ผู้เรียนขยาย ดี เก่ง และมีความสุขได้อย่างไร
นักการศึกษาจะวัด และมองเห็นกระบวนการได้อย่างไร การแลกเปลี่ยน คือ กระบวนการจัดการความรู้ เข้าใจ และทำให้งอกงาม ไม่ใช่เฉพาะในเด็กเท่านั้น นี่เป็นเป้าที่ทุกคนจะเรียนรู้ร่วมกันในระยะเวลาวันค่อน
เป้าหมายอยู่ที่ ดี เก่ง และมีความสุข โดยใช้กระบวนการ KM มาช่วยขยายดี เก่ง และ มีความสุข ที่แต่ละคนมีอยู่ในตนอยู่แล้วให้งอกงามวิธีการคือการใช้ เทคนิค storytelling , deep listening และ appreciative inquiry (AI)
ทุกคนต้องมีสมาธิจดจ่อ ฟังเพื่อนได้ดี ซึ่งเมื่อฟังได้ดีก็จะทำให้เพื่อนเล่าออกมาได้ดีด้วย ทุกคนต้องมีจิตของผู้ให้ เพราะความรู้ที่เรียกว่า tacit knowledge นั้น อยู่ในความเชื่อ อยู่ในทักษะของคน อยู่ในประสบการณ์ที่สั่งสม
เคล็ดลับอยู่ที่การเปิดรับเรื่องราว หรือ ความคิด ความเห็นที่แตกต่างจากความเชื่อดั้งเดิมของเราโดยสิ้นเชิงได้ เกิดจากการเปิดใจรับความคิด ความเชื่อ วิธีคิดที่แตกต่าง ไปไตร่ตรอง แม้จะตรงข้ามกับเราแต่ก็ต้องมีดีอะไรสักอย่าง เพราะเรื่องนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว สำเร็จมาแล้ว ดี เก่ง และมีความสุขอยู่ในตน จะขยายตัว และไปกระตุ้นด้านดีซึ่งกันและกันให้เกิดขึ้นในห้องเรียน ในโรงเรียนได้อย่างไร หากโรงเรียนต่างๆนำประสบการณ์มา ลปรร.กันก็จะได้ concept ได้ตำราที่เกิดจากเรื่องจริง และไม่เคยมีมาก่อน "
(อ.วิจารณ์ : เกริ่นนำก่อนเข้ากระบวนการ)
"ความเป็นอิสระทางความคิดเป็นขั้นตอนหนึ่งของการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ ต้องเริ่มที่ความสุขก่อน แล้วจึงเรียนรู้ได้ดี"
(อ.เลขา : เกริ่นนำก่อนเข้ากระบวนการ )
"ในการทำกระบวนการรูปแบบนี้เราได้พบจิตที่เป็นอิสระถึงขนาด ทำให้มีความคิดอิสระพรั่งพรูออกมาจากใจมากมาย และเป็นความเห็นจากใจ"
(อ.วิจารณ์ : ระหว่างการหารือกับคณะผู้จัด)
"เราทำงานกับคน แต่เราไม่รู้จักความดี ความเก่งของเขา ในการทำงานเราเห็นความเก่งของเขาเฉพาะในหน้างานที่ได้รับมอบหมาย แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าเขาเป็นนักบัญชี เป็นคนดี รับผิดชอบต่อครอบครัว จนกระทั่งได้มาฟังเรื่องของเขา "
(อ.เลขา : ระหว่างการหารือกับคณะผู้จัด)
"เรื่องของ KM การศึกษา และการประเมิน เป็นเรื่อง complex เพราะเกิดจากปัจจัยที่ complex ดังนั้นจึงต้องอาศัยการประเมินที่มีความ complex ด้วย ส่วนมากแล้วเรามักใช้การประเมินที่เป็นlinear ซึ่งทำให้เราตอบอะไรที่ต้องการไม่ได้"
(อ.วิจารณ์ : บนรถตู้ขณะเดินทางกลับ)
ชื่นชม "ยอดคุณลิขิต" ครับ คำสนทนาเชิงคุณค่า เชิงเป้าหมายลึกๆ เหล่านี้ คนพูดพูดไปแล้วก็ลืม การที่มีคนจดไว้ และนำมาเผยแพร่ทำให้เกิดพลังมากครับ
วิจารณ์
ครูใหม่ เล่าแล้วทำให้เห็นถึงบรรยากาศของ ws และคิดว่า KM ในวงการศึกษาจะเดินหน้าไปได้ไกล เพราะนักวิชาการจากหลายสำนักที่ร่วมกระบวนการ ws ในครั้งนี้ เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนที่สำคัญในวงการศึกษาทั้งสิ้น วิทยากรกระบวนการก็สุดยอดฝีมือในวงการ KM ต้องขออนุญาตครูใหม่ด้วยที่ Link web. krumaimai ไว้ในชุมชนแห่งการเรียนรู้ ของ www.boraiwit.ac.th เพื่อให้คณะครูของโรงเรียนใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้