วันที่ 25 ธันวาคม 2550 ผมได้รับซองเอกสารไปรษณีย์ขนาดบรรจุเล่มเอกสารเอ 4 เปิดดูจึงรู้ว่าเป็นท่าน paleeyon ผู้มากล้นน้ำใจจัดส่งให้ เป็นสิ่งที่ผมพบได้ในโลกแห่งการแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ G2k แห่งนี้ จึงขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูงในโอกาสนี้ เอกสารดังกล่าวคือ "คำพีโพสะราดและสังคะปะกอน กดหมายบูฮานลาว ลดจะนาโดย สำลิด บัวสีสะหวัด 1996 อุบปะถำโดยมูนนิทิโตโยตาแห่งปะเทดยี่ปุ่น"
แม้ผมไม่ค่อยสันทัดในเรื่องทางกฎหมาย แต่ด้วยความที่ชอบฝึกอ่านภาษาลาวมาตั้งแต่เด็ก ๆ จากฉลากยาและฉลากสินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตในไทยแล้วส่งไปขายประเทศลาว จึงพออ่านภาษาลาวได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการขอบคุณท่านpaleeyon ที่แบ่งปันเอกสารมาให้ และความอยากพูดอยากคุยอันเกี่ยวแก่เรื่องภาษาอีสาน ภาษาลาวซึ่งผมได้มีโอกาสบันทึกที่เวทีแห่งนี้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท่านที่สนใจร่วมกันมาระยะหนึ่ง
ผมจึงขอเปิดบล็อกขึ้นมาใหม่ชื่อ "ศึกษาจากภาษาลาว " เพื่อการคุยแลกเปลี่ยนทางภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาลาวในเอกสารของทางการลาวจริง ๆ หรือภาษาอีสานโบราณ เป็นการเฉพาะเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านนี้ให้กว้างขวางขึ้นต่อไป
เมื่อผมไม่ถนัดเรื่องกฎหมาย จึงเป็นการศึกษาเอกสารในลักษณะการใช้ภาษาลาว ซึ่งตรงกันกับภาษาอีสาน และปัจจุบันพบว่าภาษาอีสานแบบที่ผมเคยได้ยินเคยใช้ ได้ห่างหายไปจากการพูดของคนอีสาน แต่ยังมีใช้กันอยู่เป็นปกติในประเทศลาว บางศัพท์บางคำพูดที่ทางภาคอีสานไม่ค่อยใช้ เพราะความแตกต่างของแต่ละภาษาเฉพาะถิ่นของคนลาวและคนภาคอีสาน (เหมือนภาษาถิ่นไทยกรุงเทพฯ เพชรบุรี ระยอง ที่มีส่วนที่แตกต่างกันออกไป) ก็ได้พบในเอกสารนี้เช่นกัน
ในคำนำซึ่งลาวเรียกว่า "คำเห็น" ของท่านบัวบาน วอละขุน รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวไว้ว่า "ชาดลาวแม่นชาดที่มีอาลิยะทำ อันจบงามมาตั้งแต่ดนนาน อาลิยะทำดังก่าว แม่นส่องแสงให้เห็นได้ในกานออกแฮงงานทำมาหากิน กานต่อสู้กับสัดตูและทำมะชาด เพื่อปกปักฮักสาชาด และเพื่อส้างบ้านแปงเมืองของตนด้วยความทอละหดอดทน ในปะหวัดสาดอันยาวไก ของปะชาชนลาวบันดาเผ่า"
ศัพท์ที่ควรทราบ 1) อาลิยะทำ : อารยธรรม 2) อันจบงาม : อันงดงาม(งามคำเดียวคืองามธรรมดา ถ้า จบงามคืองามมาก ความหมายอีกอย่างคือแปลว่า ดี) 3) ดน : นาน
ท่านบัวบาน วอละขุน กล่าวเพิ่มอีกว่านอกจากการร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองจาก "การเป็นเผ่าชน กายมาเป็นกุ่มชน และเต้าโฮมเอาหลายกุ่มชนของวงคะนายาดผูกพันกันเข้าเป็นวงคะนายาดแห่งชาด และส้างตั้งเป็นปะเทดหนึ่ง" แล้วยังได้รับความรู้จากชาติอื่น ๆ มาประกอบให้เกิดความรู้ความสามารถของชนชาติลาวขึ้นมาอีกด้วย
"ความฮู้ทางด้านวิชากานต่าง ๆ ที่บ่มซ้อนก็ได้ถืกขุดค้นมาจากกานออกแฮงงานของตนเอง นับทั้งความฮู้ที่นำเอาวงคะนายาดของชาดอื่นมาปะดิดส้างขึ้น ในขะบวนวิวัดแห่งการเคื่อนไหว"
ศัพท์ที่ควรทราบ เต้าโฮม : รวม, เต้า หรือ โฮม คำเดียวก็หมายถึงรวม.. เช่น การทำบุญใด ๆ ของภาคอีสานวันก่อนถวายทานเรียกว่า มื้อโฮม หรือวันโฮม ก็คือวันรวมจตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องจากญาติพี่น้อง/ ชาวอีสานจัดงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ตอนเย็นมีการดื่มกินรื่นเริงก็มักตั้งชื่องานว่า "โฮมพาแลง" แยกศัพท์ได้ว่า โฮม : รวม, พา : พาข้าว ถาดอาหาร, แลง : เวลาค่ำ, ชื่ออาหารมื้อเย็นเรียกข้าวแลง (คนอีสานบางคนตั้งชื่อร้าน/ผับดื่มกินแบบคันทรีฝรั่งว่า "โฮมกัน...Home Gun" ก็ได้ความหมายและบรรยากาศคาวบอยผสมนายฮ้อยได้ดีเหมือนกัน)
ความสำคัญของการจัดทำคัมภีร์ซึ่งเรียกว่าการชำระและปริววรรตครั้งนี้ ท่านบัวบาน กล่าวว่า "เพื่อสึกสาค้นคว้า แนใส่ให้พวกเฮาเห็นได้ ความเป็นมาของกานบอลิหาน และกานปกคองปะเทดชาด ในสะไหมบูฮานของลาวเวลานั้น" ทั้งนี้แม้ท่านจะทราบว่ามีการนำใช้ในพฤติกรรมจริงในปัจจุบันน้อยก็ตาม "แต่มันยังคุนปะโหยดหลายให้แก่กานการสึกสาวิไจ สำหลับนักค้นคว้ากดหมาย"
ในตอนท้ายของ "คำเห็น" ท่านได้สรุปไว้ว่า "บันดาท่านจะได้ฮับฮู้อย่างเป็นละบบว่าคนลาว ชาดลาวเวลาใดก็เป็นคนที่ละเบียบ มีกานจัดวางให้สังคมมีละเบียบ มีความยุดติทำ ทังได้ส่องแสงให้บันดาท่านเห็นว่า แนวคิดของปะชาชนลาวบันดาเผ่า ในสะไหมบูฮานคือแนวใด อันนี้ แม่นได้กายมาเป็นมูนเชื้ออันหนึ่งของคนลาว...สืบต่อกันมาเถิงทุกวันนี้"
ศัพท์ที่ควรทราบ 1) แน : เล็ง, มุ่ง เช่น การยิง การขว้างอาวุธต้อง แน ทุกครั้ง 2) บูฮาน : โบราณ 3) มูนเชื้อ : ความเป็นมา (มูน : มรดก)
สำนวนภาษาในคำนำนี้ ผมสังเกตุได้ว่าเป็นสำนวนภาษาลาวที่งดงามไพเราะ อันชี้ถึงจิตใจของผู้กล่าวได้ดี เช่น "ความรู้ทางด้านวิชาการที่บ่มซ้อน... นับทั้งความรู้ที่นำเอาวงคณาญาติของชาติอื่นมาประดิษฐ์สร้างขึ้น ในขบวนวิวัฒน์แห่งการเคลื่อนไหว" การนำคำว่า "ส่องแสง" มาใช้ซึ่งได้ทั้งจินตนภาพ และอารมณ์ของบริบทภาษา เป็นต้น
ประเด็นซึ่งกล่าวถึงความมีระเบียบวินัย ความยุติธรรม ความสามัคคี รวมความว่าเป็นความมีอารยะ ดังที่ท่านบัวบาน วอละขุน กล่าว"คำเห็น" ไว้ในคัมภีร์ "โพสะราดและสังคะปะกอน" ครั้งนี้เป็นสิ่งที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง ผมขอเสนอในตอนต่อ ๆ ไปครับ
อ้างอิง
สำลิด บัวสีสะหวัด. 1996. คำพีโพสะราดและสังคะปะกอน กฎหมายบูฮานลาว. เวียงจัน : มูนนิทิโตโยตาแห่งปะเทดยี่ปุ่น.
สวัสดีครับ
เมื่อคืนแวะมาดูแล้ว แต่สงสัยว่าจะยังไม่ได้เพิ่มรายละเอียด ท่าทางน่าสนใจไม่น้อยเลย ผมเก็บใส่แพลนเน็ตเรียบร้อยแล้ว ผมมีหนังสือลาว ชำระขุนทึงขุนเทืือง ได้ทุนมูลนิธิโตโยต้าเหมือนกัน ไม่ทราบว่าครูชาเคยอ่านหรือยัง ถ้ายังไว้โอกาสหน้าจะมาแลกกันดูครับ
ครูชาเล่าเรื่องและอธิบายศัพท์ได้ละเอียดลออมากครับ ทำให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นเยอะ
ตัวหนังสือที่ยกมา เล็กกว่าปกติ เลยอ่านยากไปหน่อย ถ้าจะขยายขนาด หรือไว้ขนาดเดิม แต่เปลี่ยนสี (จะได้ไม่ต้องเอน) น่าจะทำให้อ่านง่ายกว่านี้ครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
โดยในถ้านะข้าพะเจ้าเป็นคนลาว ข้าพะเจ้าเชื่อว่าสีงสักสีดในดีนแดนล้านช้างยังคงรักสาดีนแดนล้านช้างอยู่ และอีกปะกานอันหนื่งอยากให้รับรู้ทัวหน้าว่าปะเทดลาวงามหลายวัดวาอารามกางามเหนือนดังบันพะบุรุดได้ส้างไว
ขอขอบใจ ขอบคุณ ท่านหลอดแก้ว ผู้เข้ามายามและแสดงความเห็น ผมเกิดและโตที่ขอนแก่นฮีตคองต่าง ๆ วิถีชีวิตมาแต่พ่อแม่ก็เป็นต่อนด้ามเดียวกัน จะผิดก็แต่วันเวลาที่หมุนไป การสื่อสารของโลกปัจจุบันทำให้มีความเปลี่ยนแปลงของคนเกิดใหม่ใหญ่ลุน คิด พูด อยู่กินตามสมัยกันไปไม่เว้นแม้แต่บ้านเมืองของเราท่าน ... แต่เชื่อเถอะครับว่าตราบที่เรากินข้าวเหนียว กินปลาร้าปลาแดก ว่าแซบอร่อย ตราบนั้น สองฟากฝั่งของ/โขง ก็ยังมีจิตใจอันจบงามฮักแพงกันอยู่ และอ่าวคะนิงหาในใจต่อกันมาตลอดมา..