เก็บบันทึกเรื่องราวที่ท่านวิทยากร ดร. อรจรีย์ ณ ตะกั่วทุ่ง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาสนทนากัน ในห้อง KMThesisในงานมหกรรมฯ มีข้อเสนอแนะและข้อมูลเกี่ยวกับการทำวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับการจัดการความรู้ในปัจจุบันที่น่าสนใจ ถ้าใครคิดว่าจะเพิ่มเติมอะไรก็ยินดีนะคะ
ลักษณะงานวิจัยด้าน KM เขาทำอะไรกัน ตามแนวคิดที่จุฬา หรืออาจเป็นที่อื่นด้วยนะคะ ปริญญาโท วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิจ
พัฒนาโมเดล เหมือนปริญญาเอก อันนี้ไม่ต้องทดลองโมเดล
เดลฟายก็ได้ focus group ก็ได้ ชื่อของกรรมการ ทุกคนต้องยอมรับ
อาจพัฒนาชุดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นตัวแปรที่สำคัญของ LO KM จะทดลองก็สามารถทำได้
ถ้าเป็นเทคโนโลยี เครื่องมือ เวป สามารถทดลองได้ ถ้ามีหน่วยงานรองกับก็ทดลองได้
สรุปปริญญาโทสร้างโมเดลก็ได้ สร้างชุดพัฒนาอะไรขึ้นมาก็ได้ อาจจะทดลองหรือไม่ทดลองแล้วแต่ ส่วนมากทำโมเดลจะไม่ทดลอง
ปริญญาเอก วิทยานิพนธ์ 48 หน่วยกิจ
ศึกษาตัวแปร ตัวบ่งชี้ ไม่มีการพิสูจน์ได้ ไม่สามารถทดลองได้ อย่างเช่นของ อ.จิรัชฌา ประโยชน์คือการพิสูจน์ข้อสงสัย มีอะไรบ้างที่ทำให้ KM มีประสิทธิภาพ แต่การนำไปใช้เป็นเรื่องของหน่วยงาน ดังนั้นท่านกำลังมี 2 โลก 2 แนวคิด มีบริบทหน่วยงานกำกับ
อยากทำอะไรเพื่อหน่วยงาน แต่มีปัญหาว่าสิ่งที่ต้องการทำนั้นมันพิสูจน์ได้ด้วยวิธีวิจัยหรือเปล่า มันอาจพิสูจน์ไม่ได้ ต้องเลือกเอาว่าทำวิทยานิพนธ์ให้สามารถควบคุมตัวแปร ให้เกิดความเชื่อถือในผลงานวิจัย ถ้าอยากทำอะไรจริงในชีวิต ก็ค่อยไปทำทีหลัง ตอนนั้นไม่มีกรรมการมากำกับ บางครั้งอยากทำสองอย่างอาจทำไม่ได้ ดังนั้นต้องเลือกเอาในวิทยานิพนธ์ของเราก่อน
พัฒนาโมเดลไปเลย และทดลองจริง อย่าง ดร.วรวรรณ ทดลองและพิสูจน์จริง การจัดการความรู้ต้องไม่กว้างมาก
หาฝั่งเล็กๆ ขึ้น หาตัวแปรที่ชัดเจน หากลวิถีพัฒนาตามกรอบ KM ที่ชัดเจน ยืนอยู่บนโขดหินก้อนเล็กๆ ดีกว่า ทำอะไรที่กว้างขวางในมหาสมุทร
ขึ้นเกาะเล็กๆ และดิ่งลึกลงไปด้วย ตัวแปรต้นต้องชัดเจน
ปริญญาเอกเมื่อทดลอง วัดอย่างไรมีเครื่องมือวัดหรือเปล่า เครื่องมือใคร จับเฉพาะบางประเด็นที่สำคัญ หยิบออกมาและหาวิธี
ปริญญาเอกพัฒนา ค้นคว้า และพัฒนาอีกที จะสมกับ 48 หน่วยกิจ
ปริญญาเอกจะวัดความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะ ไม่ซ้ำกับของคนอื่น
อย่างานวิจัยเชิงทดลอง ปริญญาเอกอยากเห็นโมเดลมากกว่าเพราะคนอื่นหยิบโมเดลนั้นไปใช้ได้ แค่ผลงานวิจัย ทำแล้วเกิด output อะไร แต่คนอื่นไม่เห็นว่าทำอะไรอย่างไร อยากเห็นนำเสนอโมเดลเพื่อคนอื่น และพิสูจน์ตามการวิจัยเชิงทดลอง