คุณอนงค์ ทันตาภิบาลจากอำเภอเมือง มาเล่าให้ฟังถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากให้ผู้สูงอายุที่เขตอำเภอเมืองค่ะ ว่า ที่นี่ทำกันอย่างไร
"ทำในชุมชนเทศบาลนครก่อน" ... โดยมีเป้าหมายหลัก 62 ชุมชน แต่ละชุมชนจะมีชมรมผู้สูงอายุ มีกิจกรรมของตัวเอง ทีมทันตฯ ไปตรวจสุขภาพช่องปากปีละครั้ง โดย ทีมงานเทศบาล และ รพ.เชียงราย มีการให้คำแนะนำ ฝึกทักษะการดูแลสุขภาพช่องปาก ทาฟลูออไรด์วานิช และแนะนำให้ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์เชียงราย โดยเปิดช่องทางด่วนให้สำหรับผู้สูงอายุ
ในส่วนของการพัฒนาเครือข่าย สนับสนุนการดูแลสุขภาพช่องปาก มีกิจกรรมก็คือ
การดำเนินงานครั้งแรก (ปี 2550) รพ.เชียงรายออกทำกิจกรรมร่วมกับเวชกรรมสังคม ตรวจฟันผู้สูงอายุ 2 ชมรม ได้แก่ ชมรมที่วัดเชียงยืน สันโค้งหลวง และสันโค้งน้อย ติดกับ รพ.เชียงราย
ปี 2551 ดำเนินการเพิ่มอีก 1 ชมรม เข้าไปดำเนินการให้ชมรมฯ ทำกิจกรรมเรื่องสุขภาพช่องปากด้วย
ปี 2552 จัดอบรมแกนนำ 60 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงราย แต่มาสมัครเข้าอบรม 32 ชมรม เป็นการอบรมแกนนำ หลังอบรมแล้ว ก็มีคนสนใจ เชิญให้เจ้าหน้าที่เป็นวิทยากรอีก
ปี 2553 เพิ่มอีก 9 ชมรม โดยการจัดกิจกรรมขอรับการสนับสนุนจากงบฯ กองทุนตำบล จากเทศบาล โดยทำโครงการ ผู้สูงวัยสุขภาพฟันดี วิทยากรให้ความรู้จากโรงพยาบาล และเทศบาล
กิจกรรมที่มีการดำเนินงาน เช่น
นอกจากนั้น กิจกรรมของชมรมฯ จะมีการทำที่หลากหลาย เช่น การฟังเทศน์ ฟังธรรม ทุกวันพระ วันเทศกาลทางศาสนา การตรวจฟัน และชมรมฯ จะมีการรำวงย้อนยุคทุกวัน
รอบนี้ คณะเราได้ไปเยี่ยมชุมชนเกาะทองด้วย ได้ฟังคุณพ่อทวี ทิพยศักดิ์ ประธานชุมชนผู้สูงอายุเกาะทอง ท่านเล่าว่า เราทำงานกันด้วยจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีกิจกรรมทุกวันที่ 15 ของเดือน และมีการพบปะกันทุกวันศุกร์ เพื่อประชุมคณะกรรมการ สมาชิกชมรมฯ มี 144 คน มีกิจกรรมที่ทำกันก็คือ
กิจกรรมอื่นๆ ที่ทำกันมาตลอด คือ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์ ร่วมงานสงเคราะห์บ้าน ชุมชน ประดิษฐ์สิ่งของจากกระดาษสา เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพผู้สูงอายุเสียชีวิต ในคืนวันที่สอง ร่วมงานการแข่งขันกีฬาโรงเรียน ชุมชน เทศบาลนครเชียงราย
วันที่ไปเยี่ยม ชุมชนร่องเสือเต้น เข้ามาร่วมกิจกรรมด้วย อาจารย์ดวงแก้ว อินตาวงศ์ ได้เล่าเรื่องการทำกิจกรรมเรื่องฟันให้ฟัง ... ที่นี่มีสมาชิกชมรมฯ 100 กว่าคนค่ะ
ปี 2552 มีกิจกรรมที่จะทำให้ผู้สูงอายุช่วยเหลือกัน ของบฯ เทศบาล มาดำเนินการ อบรม อผส. 45 คน ช่วยกันดูแล มีหมออนงค์ไปช่วยเป็นวิทยากร
ปี 2553 ของบฯ สปสช. มาอบรมผู้สูงอายุและชาวบ้าน เรื่องโครงการ ความรู้ทางโรคติดต่อ ให้เราได้ป้องกันได้ ซึ่งตอนนั้นเป็นการป้องกันไข้หวัด 2009 ทำให้พี่น้องได้รู้จักดูแลสุขภาพของตนเอง
โครงการเปตองเพื่อสุขภาพ มีการโยนเปตองกัน ที่ริมน้ำกก ที่เราได้ทำให้เป็นลานกีฬา มีการแข่งขัน กีฬา 3 สี
โครงการส่งเสริมสุขภาพและต่อต้นยาเสพติด เชิญเจ้าหน้าที่มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ ยาเสพติดระบาด ร่วมกับ อพปร.
โครงการรำวงย้อนยุคเพื่อสุขภาพ มีการอบรมที่ศาลาวัด
อบรมการนวดแผนไทย บำบัดโรคด้วยตนเอง เพื่อแนะนำผู้สูงอายุ ถึง การนวดคลายเส้น ให้มีความรู้ที่จะช่วยเหลือตนเอง และอธิบายให้ลูกหลานที่บ้านดูแลผู้สูงอายุ
กิจกรรม ชุมชน ทุกปีจะมีการสืบชะตาของวัด ทั้งหมู่บ้าน ผส. ทำด้ายมงคลจำหน่าย หารายได้ให้ชมรมฯ ทำเทียนมงคล ทำตุงปีใหม่ ดอกไม้
มีการเยี่ยมผู้สูงอายุที่โรงพยาบาล จัดผ้าป่าหาเงิน ทัศนศึกษา ครั้งที่แล้วไปดูศูนย์การเรียนรู้บ้านแม่ไร่ ที่แม่จัน ที่เชียงแสน บ้านผักน้อย และวัดพระธาตผาเงา
ความประทับใจ ที่ ท่าน ผอ.สุธา กล่าวไว้ ณ ที่นี่ก็คือ
ชุมชนเกาะทองมีการทำกิจกรรมที่เยอะมาก ดูได้ว่ามีคณะกรรมการที่เข้มแข็ง มีคณะกรรมชุดย่อยๆ แต่ละคณะมีกรรมการเยอะ เรียกก็มาพร้อมกัน รวมกรรมการ แล้ว 100 กว่าท่านได้ เพราะฉะนั้น 1 บ้านที่เป็นกรรมการ ก็จะดู 4-5 บ้าน ก็จะเกิดเป็นดาวกระจาย ยุทธศาสตร์นี้ก็จะสามารถเกาะกุมทั้งชุมชนได้
ที่นี่สามารถกำหนดระเบียบของชุมชนได้ กลายเป็นกฎชุมชน ไม่ว่าเป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง งานฉลอง งานเทศบาล กรรมการจึงมีความสำคัญ ที่จะกำหนดกิจกรรมที่มีการส่งเสริมสุขภาพ
ทุกคนมีจิตใจอาสาที่จะทำให้ชุมชนอย่างแท้จริง จึงได้รางวัลมามากมาย
การรำวงอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่า ได้ประโยชน์จากการออกกำลังกาย
และมีเรื่องจิตที่มีพระมาเทศน์ในวันสำคัญ ... มีคำบอกว่า ร่างกายจะแข็งแรงไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดูแลเรื่องจิต มีเรื่องเล่า ...
ผมฟังคำพูดจากพระอาจารย์ ถ้าจะเปรียบกับสามเหลี่ยม ที่มีฐานกว้าง ปกติเราจะออกกำลังกายด้านล่างเยอะๆ คือ เรื่องกาย แต่จิต เราออกกำลังกายนิดเดียว บางคนก็ไม่มี เพราะฉะนั้น เรากลับกันได้ไหม ทำเรื่องของจิตให้เป็นฐาน เสียสละเยอะๆ ทำเรื่องธรรมะเยอะๆ เรื่องกายน้อยลง กินน้อยลง
เรื่องของชุมชน การมีส่วนร่วม ทุนทางสังคมที่นี่มีสูง
และสุดท้าย เรื่องสุขภาพช่องปาก อยากให้ชุมชนดูแลเรื่องช่องปากด้วย พระเจ้าอยู่หัว ตรัสว่า เรื่องในปากเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าเรื่องเล็กๆ มีปัญหา ก็จะเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ตามพระราชดำรัสที่ว่า "เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มึความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง"
ขณะนี้ เรากำลังพยายามส่งเสริมให้ผู้สูงอายุทั้งประเทศ มีสุขภาพช่องปากที่ดี และเป็นที่พึ่งของลูกหลาน
สุดท้ายที่ท่าน ผอ. กล่าวไว้ ก็คือ "... ขอชื่นชมกับกิจกรรมที่นี่ ซึ่งมีภาคีเครือข่ายท้องถิ่นมาช่วย ได้รับงบฯ จากเทศบาล สปสช. และ สสส. รวมทั้งกรรมการ จิตอาสา ที่ทำให้เกิดกิจกรรมตรงนี้ เพราะว่าเราต้องอาศัยแต่ละคน ที่เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ เป็นตะปู เป็นน๊อต เป็นไม้ ที่ช่วยกันสร้างบ้านกันขึ้นมาได้ และมาร้อยกันเป็นบ้านหลังใหญ่ๆ ได้อย่างมั่นคงด้วย ..."
ไม่มีความเห็น