งานมหกรรม R2R ครั้งที่ 4 ; สิ่งที่ได้ฟังจาก อ.หมอวิจารณ์ พานิช


ข้าพเจ้าไปทัน VTR ที่เปิดในงานมหกรรม R2R ครั้งที่ 4 นี้ซึ่งเป็นเรื่องราวของเครือข่าย และเป็นภาพแห่งคนหน้างานในเครือข่ายภาคใต้ จากนั้นพิธีเปิดก็ได้เริ่มขึ้น ข้าพเจ้านั่งห่างจากเวทีออกมาท่ามกลางผู้เข้าร่วมงานท่านอื่น...ได้ฟังแนวคิดหรือจะเรียกว่าวิธีการคิดของอาจารย์หมอวิจารณ์ ...ในการบรรยายพิเศษ เรื่อง "เชื่อมพลังเครือข่าย ขยายคุณค่างานประจำ"...

20 กค
อ.วิจารณ์

กระบวนการ R2R ปลดปล่อยศักยภาพแห่งความเป็นมนุษย์
รวบรวมข้อมูลดีๆ สังเคราะห์ข้อมูลดีๆ นำไปสู่การพัฒนางานประจำผ่านจินตนาการที่คิดว่า อืมทำอย่างนี้มันน่าจะดีขึ้น และลงมือทำ ด้วยใจที่กล้าหาญ นี่จะนำไปสู่การเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ นานเข้าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้น

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกิดการรวมตัวกันเป็นเครือข่าย เพื่อการกระตุ้นซึ่งกันและกันเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน ยิ่งทำไปจะเห็นว่างานประจำคือตัวประโยชน์ที่ทำให้เรามีความสุข และเกิดการเผื่อแผ่เสียสละไปสู่ผู้อื่น

พิธีเปิดเริ่มขึ้นด้วยบรรยากาศที่ดี ปีนี้อาจารย์หมอวิจารณ์เป็นประธานเปิดงานและบรรยายพิเศษ"เชื่อมพลังเครือข่าย ขยายคุณค่างานประจำ"

...

กระบวนการR2R คือการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนมุมมอง ทำให้เราตระหนักเห็นชัดจากที่มองว่าเป็นภาระแปรเปลี่ยนเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ทำเพื่อผู้อื่นมากขึ้น ที่สำคัญคือเป็นโอกาสของการเปิดศักยภาพของตัวเราเอง R2R คือเครื่องมือ ที่ผ่านการลงมือทำเป็นการทำเพื่อผู้อื่น ถ้าใครสามารถฝึกจิตใจเพื่อการทำเพื่อผู้อื่นจะเป็นผู้ที่มีความสุข

จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ทำไปเรื่อยๆ จะเกิดสิ่งที่ดีมีมุมมองที่กว้างขวาง

จากภาระที่บีบคั้นให้กลายเป็นว่าเป็นงานที่เป็นอิสระ ออกจากการถูกจำกัดด้วยคู่มือเป็นการเปลี่ยนมุมมองนำไปสู่การมีคุณค่า คนที่ไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองได้นี่เป็นคนที่น่าสงสาร

เห็นคุณค่าในตัวเราเองและทำให้คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเราด้วย


Form routine to learning จากงานประจำสู่การเรียนรู้ ท้าทายจากเจ้ามาตรฐานเดิมผ่านการตั้งคำถาม ค้นคว้าหาความรู้ ปรึกษาคนอื่นลงมือทำ

การเรียนรู้ที่สำคัญทำให้เรามีความเชื่อมั่นและมีทัศนคติในเรื่องของ CQI ใครที่ฝังชิพเรื่องนี้ได้จะทำให้เป็นคนที่มีความสุข เป็นชิพที่ฝังอยู่ในโครงสร้างโยงใยสมอง

เป็นขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยากไม่ยึดติดในทฤษฎี จาก CQI  life long learning
"เรียนรู้วิธีการเรียนรู้"

การทำงาน R2R ต้องช่วยกันหลายๆ ฝ่าย ถ้าที่ทำงานมีการหารือพูดคุยจะเกิดวัฒนธรรมของการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน ความมีใจร่วมกันช่วยเหลือ การเรียนรู้นี้เป็นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาชีวิตแห่งความเป็นมนุษย์

การทำไม่ใช่การถูกสั่งให้ทำ หากแต่ทำด้วยจิตวิญญานแห่งการทำเพื่อผู้อื่นด้วยพลังแห่งความเป็นอิสระ ไม่ใช่การบังคับบัญชา และผู้บริหารควรเข้ามาแสดงบทบาทหนุนไม่ใช่การบ่งการหรือสั่งการ ให้คนทำงานทำงานด้วยความเป็นผู้มีจิตสำนึก

บางคนอาจเข้าใจผิดไปหลงติดเรื่อง research อย่ายึดมั่นถือมั่นเรื่อง research มากเกินไปแต้ให้มองเป็นเรื่องการเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์เชิงแนวระนาบ

"เป็นผู้สร้างความรู้เพื่อพัฒนาวิชาชีพนั้น"
PLC  ได้มาจากการทดลองในอเมริกา ซึ่งคล้ายๆ กับR2R มี concept หรือหลักการว่า เปิดการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง

PLC , COP, R2R คืออันเดียวกัน งานสามวันนี้คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ KM
นี่คือการเรียนรู้ชีวิตแบบสมัยใหม่ คนที่ฝึก R2R ทักษะคุณอำนวย คือ การฟังคนอื่น ฟังให้ได้ยินสิ่งที่อยู่ในหัวใจของผู้อื่น

คนที่จะสร้างความรู้ได้คือผู้ที่อยู่กับการเปลี่ยนแปลง

ลองผิดลองถูกแบบมีหลักแบบมีการคิด หากผิดก็เปลี่ยนใหม่

R2R เกิดจากวิญญาญสร้างสรรค์ในมนุษย์ เราปล่อยออกมาเป็นไหมหรือเรากักขังมันไว้ วิธีปลดปล่อยคือ การใช้ SSS สร้างความมั่นใจขึ้นว่ามนุษย์ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ได้ R2R. ไม่ใช่การรวมศูนย์หากแต่เกิดการกระจายเครือข่าย ทำกันด้วยใจอย่างเป็นอิสระ

ลปรร.  ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติ ต้องลงมือปฏิบัติ เป็นวงจรสวนกระแสและเกิดเป็นวงจรแห่งการเรียนรู้ ทำไปเห็นโอกาส พอปฏิบัติได้จะคิดเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นการคิดได้ผ่านการปฏิบัติ การกระทำนำไปสู่ความคิด การเรียนรู้ได้ดีต้องมีการตีความ หรือ AAR ความรู้ที่มาจากการปฏิบัติมาเหนือการเรียนรู้ทฤษฎีแต่ก็ต่างหนุนนำซึ่งกันและกัน

3 วันนี้คือตัวชู อีก 362 วัน ทั้งในกลุ่ม คุณอำนวย คุณกิจ คุณเอื้อ

...

Note; นี่เป็นการบันทึกสดขณะฟังและท่าน อ.หมอวิจารณ์เขียนบันทึกไว้ที่ เชื่อมพลังเครือข่าย ขยายคุณค่างานประจำ

ในขณะนั้นข้าพเจ้าสังเกตว่า ผู้เข้าร่วมประชุมต่างตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์พูดอย่างมาก น้อยคนที่จะลุกออกไป เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นโอกาสที่ดีที่ในหนึ่งปีได้มาร่วมฟังทัศนะที่งดงามที่เป็น ธรรมทางปัญญา...

จากที่ไฟเริ่มอ่อนแรงลง ก็กลับได้พลัง...

นี่คือ บทสะท้อนของคนฟัง การพูดอย่างเรียบง่ายหากแต่ลงไปที่ใจของนักพัฒนางานประจำทั้งหลาย พอทำให้ใจของเขาหรือเธอเหล่านั้นฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง...

สามวันแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้เริ่มต้น... "มหกรรม R2R ครั้งที่ 4" ในปีนี้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมน้อยมากในการเตรียมงานซึ่งอาจสืบเนื่องมาจากการเดินทางไปต่างประเทศและกลับมาก็เดินทางไปทำกระบวนการ R2R ต่อทางภาคใต้...

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่มาร่วมบรรยากาศที่นี่คล้ายครอบครัวใหญ่ที่ต่างมาเจอกันในหนึ่งปี มาเติมเต็มซึ่งกันและกันคล้ายการมาชาร์ทแบตเพื่อกลับไปตลุยการงานต่อในอีกหลายๆ วันที่เหลือ

...

๒๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔

 

 

หมายเลขบันทึก: 450121เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2011 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2013 06:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ถอดบทเรียนได้ดีจังเลยนะคะ
  • ดีใจที่ได้ฟังท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ พานิช  
  • ได้พลังกลับไปขยายเครือข่ายต่อ....

พี่แก้วชอบสิ่งที่อาจารย์พูดวันนี้

ขอบคุณกะปุ๋มที่สรุปให้อีกครั้ง

หลังจากพี่แก้วพยายามจดจำสิ่งดีดีที่ประทับใจและบันทึกบางส่วนไว้แล้วค่ะ

โดนใจเสาว์มากๆ

ได้เข้าร่วมเวที่ R2Rครั้งแรก ค้นพบ R2R ที่แท้จริงแล้ว

ประทับใจและซึ้งใจ มากจริงๆ

 อบอุ่น ด้วยไอรัก ไปทั่วอนูของเมืองทองธานี ขอขอบคุณ ที่ให้โอกาส

 

มาเยือนพี่สาวคนขยันคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท