จากบันทึกที่ผ่านมา ก็จะมาบอกต่อถึงการดูเรื่อง A Beautiful Mind เป็นเรื่องราวของนักคณิตศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลปี 1994 ชื่อ Prof. John Natch ซึ่งเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีWin Win เขาเริ่มป่วยเป็นโรคทางจิตเวชตั้งแต่จบปริญญาตรีแต่อาการรุนแรงมากขึ้นเมื่อเขามาทำงาน เดิมทีกว่าเขาจะเรียนจบปริญญาเอกเขาใช้เวลานานกว่าที่จะมีผลงานวิชาการออกมา(โดยที่ระหว่างการศึกษานั้นเขาได้สร้างภาพเพื่อนขึ้นมาคนหนึ่งที่มีลักษณะตรงข้ามกับตัวเขาคือเสเพล มาเป็นเพื่อนคุย)แต่เมื่อเขาทำขึ้นมาก็ได้รับคัดเลือกเขาทำงานและมีความสำคัญกับกองทัพซึ่งเขาได้ช่วยประเทศชาติให้พ้นวิกฤตสงครามแต่ไม่แค่นั้นเขามีความรู้สึกว่าความสามารถของเขาน่าจะได้ทำอะไรให้ประเทศมากกว่านั้น(เพราะเขาได้เข้าไปในกองทัพแค่2ครั้ง) เขาจึงสร้างภาพของสายลับขึ้นมาและสร้างภาพกองทัพลับ และสร้างคำสั่งให้เขาค้นหารหัสลับตามนิตยาสาร เมื่อเขามีอาการมากขึ้นคือการมองเห็นคนตามล่าเขา ภรรยาเขาสังเกตเห็นจึงได้ติดต่อจิตแพทย์นำเขาไปรักษา ซึ่งเขาต้องทุกข์ทรมานในการรักษาทั้งต้องถูกซ๊อตไฟฟ้าและกินยาตลอด และเมื่อเขากลับไปบ้านและเลิกกินยาอาการก็กำเริบขึ้นมาอีกถึงขั้นที่จะทำร้ายลูก ภรรยาเขาต้องพาเขาพบจิตแพทย์อีกครั้ง พบว่าถ้าหากเขากินยาเขาก็ไม่สามารถกลับไปทำงาน,ให้ความสุขภรรยาไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจไม่กินยาและขอรักษาโรคนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจุดนี้ภรรยาเขาได้ช่วยชี้ให้เขามองความแตกต่างกับความจริงและภาพหลอน กระตุ้นให้เขาไปพบเพื่อนเพื่อของานทำ ซึ่งเพื่อนก็ให้โอกาสในช่วงแรกเขาต้องต่อสู้กับความคิดของตนเองมาก ภาพหลอนยังตามเขาไปตลอดและในที่สุดเขาก็สามารถชนะภาพหลอน ทั้งที่มันยังติดตามเขาแต่เขาเลือกที่จะไม่มีการโต้ตอบกับภาพเหล่านั้น เขากลับมาสอนหนังสือได้ตามปกติ และได้รับเลือกให้รับรางวัลโนเบล

จากเรื่องที่ดูกัน ทีมที่เข้ารับการอบรมก็มีมุมมองกันไปคนละแบบ บางคนก็ว่า  A Beautiful Mind คือภรรยาเขาที่มีจิตใจดีที่ไม่ถอดทิ้งคนป่วย บางคนก็ว่าเพื่อนๆที่ไม่ละทิ้งเขาแต่ให้โอกาสเขา บางคนก็ว่าคือProf.นั้นเองที่สามารถเอาชนะความคิดของตนเองได้ และมีมุมมองตามบริบทของแต่ละคนแต่ก็มีความหลากหลายต่างกันไป แต่เมื่อมองภาพรวม ทั้งหมดเป็นการสื่อสารระหว่างบุคคลที่จะทำให้บุคลล รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงการใช้เวลาในการเยียวยาด้วยซึ่งใช้เวลานานมาก

ดังนั้นจากเรื่องที่ดูก็พบว่าคนเราต้องมีความสมดุลในการดำรงชีวิต

โดย ปิยะวดี ฉาไธสง