ต่อไปคุณหมอฟัน อาจจะตรวจช่องปากจนถึงปากมดลูก


เป็นที่ทราบกันดีว่า การไปหาคุณหมอฟันแต่ละครั้งนั้นอาจเป็นเรื่องตื่นเต้นมากกว่าที่คิด

เป็นที่ทราบกันดีว่า การไปหาคุณหมอฟันแต่ละครั้งนั้นอาจเป็นเรื่องตื่นเต้นมากกว่าที่คิด

ผู้เขียนเพิ่งไปนมัสการสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาลมาในช่วงวันที่ 24 ธันวาคม 2550 - 2 มกราคม 2551

...

ท่านอาจารย์ "ใหญ่" (ท่านชื่อพระมหา "ใหญ่") ซึ่งกำลังรอการตรวจวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก สาขาปรัชญาในอินเดีย ซึ่งเป็นพระวิทยากรประจำทัวร์คราวนี้เล่าว่า

ท่านมีประสบการณ์ไปทำฟันที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตอนนั้นปวดฟันมากๆ โคนฟันมีหนอง การไปตรวจในโรงพยาบาลอินเดียเป็นที่ทราบกันดีว่า คิวยาวนับชั่วโมง

... 

เมื่อถึงคิว... คุณหมอฟัน(อินเดีย)ท่านทราบอาการแล้วก็ทำการตรวจด้วยการใช้ฆ้อนเล็กๆ ทุบฟัน

"เจ็บตรงนี้แน่นะนาย" หมอถาม ว่าแล้วก็ใช้ฆ้อนทุบฟันอย่างแรง เพื่อยืนยันว่า ปวดตรงนั้นจริง

...

อาจารย์ใหญ่ท่านว่า พิษฆ้อนมีจริงก็คราวนี้เอง เพราะทุบแต่ละครั้งทำเอาปวดจนหน้ามืด แทบเป็นลมไปทันที

แถมยังไม่ได้ทุบทีเดียว มีการทุบหลายครั้ง เพื่อยืนยันว่า ปวดจริง และหาตำแหน่งโรคได้ไม่ผิดที่ผิดทางอีกด้วย

...

แล้วคุณหมอฟัน(อินเดีย)ก็สั่งให้ไปเอกซเรย์ฟันอีกห้องหนึ่ง... "เอก โด ตีน (นับ "1-2-3") พรึบ... เสียงไฟดับ ตกลงต้องรอไฟมา 2 ชั่วโมง จึงจะเอกซเรย์ได้

พอได้ฟีล์มฟันลงมา... คุณหมอท่านก็ใช้ไซริงจ์(หลอดฉีดยา)กับเข็มเล่มใหญ่แทงลงไป "ดูๆๆๆ... ได้หนองออกมาแล้ว" คุณหมอแขกว่า ยาชาก็ไม่มีสักเข็ม... แถมยังไม่มียากินให้สักเม็ด อาจารย์ใหญ่ท่านว่าอย่างนั้น

...

นัดครั้งต่อไป... คุณหมอฟัน(อินเดีย)ใช้เหล็กแหลมๆ เผาไฟจนแดง (คงจะปล่อยให้เย็นก่อนแน่ๆ) ตอกลงไปๆๆ ที่เดิม นัยว่า เพื่อระบายหนองให้แคล้วคลาด

นัดครั้งที่สาม... "อาตมาไม่กล้าไป" ท่านว่าอย่างนั้น แต่การรักษาแบบนี้ก็ได้ผลทันตาเห็น เพราะอาการปวดฟันทุเลาลงทันตาเห็น

...

จบการรักษาแบบแขก... ขอวกกลับไปทางอเมริกาบ้าง ทีมวิจัยด้านทันตกรรมแห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส สหรัฐฯ ทำการศึกษาวิจัยน้ำลาย

ผลการศึกษาพบว่า น้ำลายคนเรามีโปรตีนที่ช่วยแยกแยะว่า คนเราเป็นมะเร็งที่อื่นหรือไม่ แถมมีแนวโน้มจะบอกได้ด้วยว่า เป็นเนื้องอกชนิดดี หรือมะเร็ง(เนื้องอกร้าย)ได้หลายแห่ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ฯลฯ

...

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สเทร็คฟัสให้ความเห็นกับทาง BBC ว่า คนไข้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กไปหาหมอฟันมากกว่าไปหาหมอสาขาอื่นๆ การพัฒนาการตรวจหาโรคต่างๆ ผ่านน้ำลายน่าจะช่วยให้หมอฟันช่วยสืบค้นโรคภัยไข้เจ็บได้แต่เนิ่นๆ

ถ้าคุณหมอฟันตรวจโรคภัยไข้เจ็บสารพัดผ่านการตรวจน้ำลายได้... ต่อไปคนเราอาจจะไปทำฟัน และตรวจโรคสารพัด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ฯลฯ ได้ในคราวเดียวกัน

...

เรียกว่า "ตรวจช่องปากไปจนถึงปากมดลูก" ครบเครื่องในคราวเดียวแบบ one-stop service ทีเดียว

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ และอย่าลืมว่า ถ้าจะเดินทางไปไหนไกลๆ อย่าลืมตรวจสุขภาพช่องปากก่อนเดินทางทุกครั้ง...

...

ที่มา                                              

  • Thank BBC > Dentists' test for breast cancer > [ Click ] > January 10, 2008. / J Cancer Investigation.
  • ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สิทธิโชค บุณยเนตร คณะบุญรักษา > ผู้สนับสนุนการเดินทางไปสังเวชนียสถาน ธันวาคม 2550 > โทรศัพท์ 081-621.5559 & 02-587.4905 & ท่านอาจารย์ระวีวรรณ บุณยเนตร > 083-162.0748 & 02-587.4905. Fax > 02-587.4905.
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี > สนับสนุนเทคนิค iT.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 11 มกราคม 2551.
หมายเลขบันทึก: 158699เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2008 12:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณหมอ น่าสนใจมากค่ะ หมอฟันไทยรักษาไม่น่ากลัวเท่าหมอฟันอินเดียนะคะ รับรองได้ค่ะ

อ๋อค่ะ

วินิจฉัยผ่านน้ำลายเพื่อหาโรคอื่นพ่วงไปด้วยอย่างนี้ดีค่ะ ประหยัดเวลาดี
แต่ตรวจแบบหมอฟันอินเดียนี่ไม่ไหวค่ะ เหมือนหนังสยองขวัญเลย ถ้าเป็นแบบนั้นคนไทยสงสัยจะยอมปวดฟันกันเยอะเพราะไปหาหมอแล้วทรมานกว่า ซาดิสม์มากค่ะ

ขอขอบคุณอาจารย์ nithima / คุณอ๋อ...

  • ก่อนอื่นขอแสดงความยินดี และขอแสดงความชื่นชมกับคุณหมอฟันไทย ซึ่งเก่ง และใจดีมาก (แน่นอนว่า คงจะไม่มาพร้อมกับเหล็กแหลมเผาไฟ....)... สาธุ สาธุ สาธุ

ขอแสดงความชื่นชมคุณหมอฟันไทย ซึ่งมากด้วยเมตตา กรุณา และมีอัธยาศัยดีครับ

การรักษาแบบแขกดูน่ากลัวดีนะครับ  เลยทำให้ครั้งที่ สาม "อาตมาไม่กล้าไป"

แต่ นวัตกรรมการตรงวินิจฉัยผ่านน้ำลายนี่น่าสนใจมากเลยครับ ผมคิดว่าประหยัดดีหากการวินิจฉัยแบบนี้ชัดเจนและเชื่อถือได้

---------------

วันนี้ ผมมารับพรปีใหม่จากอาจารย์หมอด้วยครับ

ขอขอบคุณอาจารย์ LittleJazz...

  • ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ที่ไม่ต้องไปทำฟันที่อินเดีย...

ทางอินเดียนี่...

  • อาจารย์หมอเก่งๆ มีมากมายครับ ส่วนใหญ่จะเก่งเมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ เนื่องจากคนอินเดียขยัน อดทน เก่งภาษาอังกฤษ และเก่งทางด้านปฏิภาณ (ค้นคว้าเก่ง + นำเสนอเก่ง + เถียงด้วยข้อมูลเก่ง) ทำให้หมออินเดียมีชื่อเสียงมากในต่างประเทศ
  • เร็วๆ นี้อาจารย์หมออินเดียเพิ่งผ่าตัดแยกแฝดสยามได้สำเร็จ ออกข่าวดังไปทั่วโลกทีเดียว

ทีนี้...

  • ทีนี้มาดูท่านพระภิกษุรูปหนึ่งบ้าง...
  • ท่านเคยอยู่ที่วัดไทยนาลันทา หกล้มทีเดียวกระดูกต้นขาหัก 2 ข้าง เข้าใจว่า น่าจะมีโรคกระดูกพรุน หรือกระดูกโปร่งบาง

ท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลในอินเดีย...

  • คุณหมอท่านให้ใช้ตุ้มน้ำหนัก(ตุ้มเหล็ก)ดึงขา 2 ข้าง ให้นอนบนเตียงอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้กระดูกเข้าที่ และติดดี ไม่ให้ลุกไปไหน
  • ทำอย่างนี้ได้ 1 เดือน (ยังไม่ครบ 3 เดือนขึ้นไปเลยนี่นา)

และแล้ว...

  • พระท่านก็ทนไม่ไหว บอกให้คนงานแขกผูกตัวท่านติดกับเปล นำขึ้นลงรถไฟ ไปสนามบิน (เมื่อก่อนมักจะต้องไปที่กัลกัตตา ห่างกันหลายร้อยกิโลเมตรแขก)

ขึ้นเครื่องบินกลับไทย

  • อาจารย์หมอกระดูกไทยผ่าให้ใหม่หมดจด...
  • 2-3 วันก็เดินได้เลย
  • ท่านบอกว่า หมอไทยนี่เก่งจริงๆ (ท่านไม่ด่าเหมือนกับหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาไทยเลยนี่)

นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ว่า "หมอแต่ละคนแต่ละที่น่ะ ไม่เหมือนกันดอก ("The common doctor is not common.")

ขอขอบคุณอาจารย์เอก / จตุพร...

  • ปีใหม่นี้ขอคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดปกปัก รักษา คุ้มครอง สนับสนุน เกื้อกูลให้อาจารย์ และพวกเรา (รวมทั้งผู้เขียนด้วยเป็นสำคัญ) มีความสุข ความเจริญ ความสำเร็จที่ได้มาโดยธรรม (ชอบธรรม ไม่คดไม่โกงใคร)

ขอความปรารถนาดีของพวกเราในทางที่ชอบธรรมพึงสำเร็จโดยเร็วพลันเทอญ...

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณหมอP

อยากจะมีโอกาส ไปอินเดีย เพื่อไปนมัสการปูชนียสถานของศาสนาพุทธจังค่ะ

หมอฟันอิเดีย น่าหวาดเสียวค่ะ

ทั้งหมดนี่ หมอไทยเก่งที่สุด จริงๆค่ะ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ Sasinanda...

  • ขอขอบพระคุณสำหรับความปรารถนาดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนที่แวะมาใช้บริการ gotoknow ได้รับความปรารถนาดีจากท่านอาจารย์โดยทั่วหน้ากันเทอญ...

คำชมของอาจารย์คงจะทำให้คุณหมอฟัน และคุณหมอไทยปลื้มใจไปตามๆ กันเลย... สาธุ สาธุ สาธุ

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ท่านมีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้สังคมต่อไป ครับ

  หมอไทยเก่ง ครับ  แต่ผมก็ไม่อยากไปหาหมอ

  อยากอ่านสิ่งที่หมอเขียนมากกว่า ครับ

 

 

ต่อให้ปวดฟันแทบตาย  ก็จะไม่ไปหาหมออินเดียเด็ดขาด อ่านเรื่องนี้แล้วนึกรักหมอไทย การแพทย์ไทยขึ้นอักโข อิอิ

 

  • อยู่คณะทันตแพทยศาสตร์มาก็หลายปี ยังไม่เคยได้พบเรื่องแบบหมออินเดียค่ะ
  • หมอฟันไทย ใจดี ทั้งนั้นค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณหมอ

หมอฟันคนไทยส่วนใหญ่ที่พบใจดีค่ะ แต่เคยหมอฟันวัยรุ่นท่านหนึ่ง พอดีท่านมีนัดท่านเลยหงุดหงิดค่ะ

แต่เจอหมอฟันอินเดีย แบบนี้นักครั้งที่สองก็คงไม่ไปค่ะ

แต่หมอใจดีแค่ไหน ไม่จำเป็นคงไม่ค่อยมีใครอยากไปหาหมอนะค่ะ...

ปีใหม่นี้อขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายดลบันดาลให้คุณหมอ และแฟนคลับมีสุขภาพสมบูรณ์ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอขอบคุณอาจารย์วรชัย...

  • จริงครับ... ผมเองก็ไม่อยากไปหาหมอ และไม่อยากไปหาหมอฟันด้วย
  • เน้นอยู่แบบพอเพียง + ใส่ใจสุขภาพดีกว่า
  • มีข้อยกเว้นอยู่เหมือนกันคือ เรื่องการตรวจสุขภาพช่องปาก ซึ่งเราทำได้ไม่ดีเท่าหมอฟัน และควรให้หมอฟันตรวจช่องปากทุกๆ 6-12 เดือน (ถ้าเป็นไปได้)

ขอขอบพระคุณอาจารย์ครูบาสุทธินันท์...

  • ขอขอบพระคุณที่ให้กำลังใจหมอและหมอฟันไทย
  • ขอแสดงความชื่นชมกับอาจารย์หมอฟัน และคุณหมอฟันไทยครับ... สาธุ สาธุ สาธุ

ขอขอบคุณ... คุณใบบุญ

  • จริงครับ... หมอฟันไทยใจดี (ผมเองก็ยังไม่เคยเจอหมอฟันดุๆ เลยเหมือนกัน)
  • ขอแสดงความชื่นชมกับหมอฟันไทยด้วยคน... สาธุ สาธุ สาธุ

ขอขอบคุณอาจารย์ Paew...

  • ขอขอบคุณมากๆ สำหรับความปรารถนาดีปีใหม่ที่อาจารย์เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่มายังพวกเราทั้งบล็อกเกอร์ และนักอ่าน....
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ ความสุข ความสำเร็จโดยธรรมตามที่อาจารย์ Paew ส่งความปรารถนาดีทุกท่านทุกคนเทอญ...

ผมเองก็เหมือนกันครับ...

  • ไม่จำเป็นไม่อยากไปหาหมอ และไม่อยากไปหาหมอฟันด้วย
  • ขออยู่แบบพอเพียง + ใส่ใจสุขภาพมากหน่อยน่าจะดีกว่า
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท