ทำได้อย่างนี้ อาชีพครูก็จะยังคงเป็น อาชีพแห่งความรัก และความสุข ต่อไปอีกนานเท่านานครับ.
อยากให้ท่านที่สนใจเรื่อง
ครูดี ได้เข้าไปอ่านบันทึกชื่อ
ครูที่ดี มีหลายมุมมอง ที่ทั้งสาระในตัวบันทึก และความคิดเห็นของหลายท่าน น่าสนใจครับ ส่วนผมก็ได้ร่วมคิดร่วมมองไว้หน่อยหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียงบางมุม ดังนี้
ครูดีมักไม่ละเลยเรื่องการปลูกฝัง
คุณธรรม-จริยธรรม แต่คงไม่ใช่อย่างที่นิยมทำกัน
แบบปากเปียกปากแฉะ นะครับ เสริมสร้างคุณธรรม ถ้าทำเพียงการ
พร่ำบ่น สิ่งที่ได้ผลคือ
การได้สอน เท่านั้น ต่อเมื่อครูสามารถ สร้างกิจกรรมการเรียนรู้ที่
มีชีวิต มีความหมาย และแฝงไว้ด้วยโอกาสที่ผู้เรียนจะได้พัฒนาคุณธรรมในตน
โดยไม่รู้ตัว เมื่อนั้นก็เป็นอันหวังได้ว่าจะ
บังเกิดผล ส่วนจะมาก-น้อย ช้า-เร็ว ก็ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย แต่หนึ่งในนั้นที่ขาดไม่ได้ คือครูต้อง
ทำ หรือ
เป็นแบบอย่าง ในเรื่องที่จะปลูกฝังเขา แม้จะไม่สมบูรณ์ที่สุด ก็ขอให้เด็กเห็นว่าเรา
พยายามเป็นอย่างนั้น ก็ยังดี .. เปรียบได้กับพระที่สอนเรื่อง
นิพพาน ไม่จำเป็นต้องบรรลุธรรมขั้นสูง แต่อย่างน้อยท่านก็ควรจะหันหน้าไปทางนั้น และกำลังเดินทางอยู่ ไม่ใช่ยืนชี้ให้เราไปกัน แต่ท่านกลับเดินไปอีกทาง
เมื่อมองหลายๆมุมแล้ว ผมว่าความเป็นครูดีก็หนีไม่พ้นการมี
พรหมวิหาร ๔ เป็นฐาน เพียงแต่ขอให้
มีอย่างเข้าใจ และเกิดจาก
ศรัทธาที่ถูกต้อง เมื่อกระทำหน้าที่ก็ยึดหลัก
อิทธิบาท ๔ เป็นเครื่องช่วย และ
ใช้ให้ครบหมวด ทั้ง
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และ
วิมังสา ทำได้อย่างนี้ อาชีพครูก็จะยังคงเป็น
อาชีพแห่งความรัก และความสุข ต่อไปอีกนานเท่านานครับ.