วันนี้ท่อง Blog อ่านบันทึกของทีมงานวิทยากรที่ไปช่วย น้องชัยพร(หนุ่มร้อยเกาะ) ที่สุราษฎร์ก็รู้ได้ว่าสนุกกันดี  และมีความสุขกับการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้  มานั่งนึกดูอีกทีตอนตัวเอง งง ๆ กับ KM ในระยะแรก ๆ  แต่เมื่อพอเริ่มเข้าถึงระดับหนึ่งจึงรู้ได้ว่าต่อทางเดินไปได้เรื่อย ๆ  และมีความสุขกับ KM ทั้งในส่วนที่เป็นเพื่อนมิตรสหาย  องค์ความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยน  สายสัมพันธ์ระหว่างองค์กร  โดยผ่านทางตัวบุคคลอย่างไม่เป็นทางการในฐานะคนคอเดียวกัน  ทำให้มีความสุขสนุกกับงานที่ทำอยู่

          ปี 2550 เป็นปีที่ผมต้องเผชิญกับเรื่องใหม่ในส่วนของงาน  คือ " การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ" หรือ PMQA ( Public Sector Management Quality Award) และมีความรู้สึกเหมือนการทำความรู้จัก KM ครั้งแรก  เหมือนกัน คือ รู้จัก  แต่ก็ งง ๆ   เหมือนเดิม  และเมื่อปี 2550 ยิ่งทำงานร่วมกันหลายหน่วยงานแบบต่างคน ต่างงง  ทำให้เส้นทางการงงไปไกลจริง  แต่งานก็เสร็จโดยทำไปเรียนรู้กันไปเพิ่มประสบการณ์หน้างานให้ตัวเองพอสมควร 

         มาปีนี้ 2551 ผมต้องเป็นคนถือแฟ้ม PMQA ต้องเป็นคนที่ต้องทำหน้าที่เป็นวิทยากรในส่วนราชการตนเองเพื่อขับเคลื่อน PMQA ของส่วนราชการตนเอง(สำนักงานเกษตรจังหวัด)  เป็นคณะทำงานบูรณาการระดับจังหวัด  โดยหลังจากดำเนินการในส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดแล้ว  ต้องนำข้อมูลที่ได้ไปบูรณาการเป็นภาพของจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป

         พิจารณา  เป็นธรรม ที่นำมาใช้ในช่วงนี้  ตั้งสติ ตั้งสมาธิ ภาวนา และพิจารณา  ทบทวนให้ละเอียดตามหลักธรรม   และในที่สุดก็รู้แจ้งเห็นจริงได้ในเรื่องนี้  เมื่อทุกอย่างเป็นความจริงมันก็หนีความจริงไม่พ้น  ขอยกคุณความดีให้กับนักจัดการทั้งหลายที่ได้กำหนดเกณฑ์เพื่อตรวจสุขภาพองค์กรออกมาเพื่อตรวจความบกพร่องของระบบ  และถือว่าเป็นเครื่องมือที่ดีมาก ๆ สำหรับช่วงเวลานี้ 

         หลักการของ PMQA ที่มาใช้กับระบบราชการ  ไม่ไช่เพื่อประกวดชิงรางวัล  แต่เพื่อให้มีโอกาสในการปรับปรุงกระบวนการและการจัดการในระบบการทำงานให้ดีขึ้น  โดยคำนึงถึงส่วนที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ  ซึ่งเปรียบเสมือนอวัยวะของร่างกายว่าทุกส่วนต้องสมบูรณ์ร่างกายจึงจะแข็งแข็งได้ 

         เครื่องมือที่นำมาตรวจหรือเอ๊กซเรย์ ก็ คือ PMQA โดยตรวจอวัยวะ ส่วนต่าง ๆ ดังนี้

         1. การนำองค์กร  
         2. การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์   
         3. การให้ความสำคุญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
         4. การวัด  การวิเคราะห์  และการจัดการความรู้
         5. การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล
         6. การจัดกระบวนการ
         7. ผลลัพธ์การดำเนินการ

         มีโจทย์คำถามให้คณะทำงานตอบทั้งหมด 90  คำถาม   คำถามเหล่านี้  ถ้าสมบูรณ์มีทุกอย่างที่เขาถามก็คือ  องค์กรนั้นพร้อมสมบูรณ์พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และอาจเสนอรับรางวัลได้  แต่หากว่าส่วนใดไม่ได้ดำเนินการหรือยังไม่ทำหรือไม่เคยทำมาก่อน  ก็ตอบไปตามความเป็นจริงว่ายังไม่ได้ทำ  และเอาส่วนนี้แหละไปทำแผนปรับปรุงดำเนินการซะในโอกาสต่อไป เพราะเกณฑ์เป็นทั้งตรวจและแนะนำปรึกษาพร้อมรักษา  ไม่ควรปกปิด  สร้างภาพด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ราคาแพง   เพราะโกหกหมอว่าตัวเองไม่ป่วยนั้นอันตรายนัก  จะหนักใจและเหนื่อยในโอกาสต่อไป

                                                                     ชาญวิทย์-นครศรีฯ