ครอบครัวแห่งการเรียนรู้ของพี่หมออนามัยแห่งคำสร้างเที่ยง กาฬสินธุ์


การเรียนรู้เริ่มต้นที่บ้าน
พี่หมออนามัยท่านมีลูกสาว 3 คน อ้อม เอ โอ กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 ป.5 และ ป.1 ตามลำดับ บ้านนี้มีลูกสาว 3 คน ทั้งบ้านจึงมีแต่เสียงเจี๊ยวจ๊าว แต่ละคนแย่งกันพูด จนบรรยากาศที่บ้านพักหมออนามัยในหมู่บ้านเงียบๆแห่งนั้น หายเหงาไปเลย

พี่หมออนามัยก็กำลังเรียนปริญญาโทที่ มมส. ภรรยาพี่หมอ ซึ่งก็เป็นหมออนามัยเช่นกัน ก็มาเรียนพยาบาลต่อเนื่อง 2 ปี (ปริญญาตรี) ที่ มมส. สรุปว่า ครอบครัวนี้ เรียนหนังสือกันทั้งบ้านครับ

เวลาที่จะเดิมทางไปไหน ก็จะพากันนั่งรถกระบะคู่ใจ ไปกันทั้งครอบครัว มีกระติบข้าว เสบียงอาหารใส่ไปเต็มรถ

เมื่อพี่หมออนามัย หาเวลามานั่งวิเคราะห์ข้อมูล Thesis ที่ห้องสมุด มมส. บางโอกาส จะมีลูกสาวขอติดรถมาด้วย ที่มาบ่อยๆ ก็จะเป็นลูกสาวคนโต เพราะอยากมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด

อย่างที่เห็นในภาพนี่แหละครับ (ภาพในห้องสมุด มมส.)


ที่หมู่บ้าน ไม่มีห้องสมุดดีๆ หนังสือดีๆให้อ่าน พี่หมอพยายามที่จะส่งเสริมให้ลูกๆรักการเรียน รักการอ่าน จึงปลุกฝังนิสัยรักการเรียนมาเรื่อยๆ ซื้อหนังสือมาให้อ่าน พยายามถามว่า วันนี้อ่านหนังสือได้กี่เล่ม อ่านแล้วเล่าให้ฟังหน่อยว่า เข้าใจอะไรบ้าง เมื่อเข้ามาในตัวเมือง ลูกสาวเห็นร้านหนังสือ ก็อ้อนคุณพ่อว่า พาแวะเข้าไปดูหนังสือหน่อยสิ
โดยเฉพาะร้าน Se-ed ที่นั่งรถผ่านกันทีไร ลูกสาวก็จะอ้อนคุณพ่อว่า ให้พาเข้าไปซื้อหนังสือที่ร้านหน่อยยนะคะ

สำหรับในเดือน พ.ค.- มิ.ย. 2549 ซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอม ครอบครัวนี้จะต้องจ่ายเงินเรื่องเรียนร่วม 50000 บาท ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมของคุณพ่อ คุณแม่ และคุณลูกสาวทั้ง 3 คน ค่าเทอมของคุณพ่อ คุณแม่รวมกันก็ไปแล้ว 30000 บาท อ้อม ลูกสาวคนโต ตอนนี้ เข้าเรียนที่ โรงเรียนสาธิต ม.ขอนแก่น ก็มีค่าใช้จ่ายอีกเพียบ

พี่หมออนามัยและภรรยา พยายามกระตุ้นให้ลูกสาวขยันเรียนอย่างเต็มที่ ตอนที่ลูกสาวคนโตเรียน ม.1-3 ก็ให้ลูกสาวไปเรียนหลักสูตร English Program เพื่ออยากให้ลูกสาวเก่งภาษาอังกฤษ เพืออนาคตที่ดีกว่าพี่หมอเอง ที่เห็นภาษาอังกฤษแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จะทำวิทยานิพนธ์ต้องเปิดดิกชันนารีเป็นเวลานานแสนนาน จนนายบอนต้องแว๊บไปช่วยแปล และอธิบายความหมายของ article ภาษาอังกฤษให้พี่หมอฟังในบางช่วง

สัปดาห์ที่ผ่านมา พี่หมอมานั่งวิเคราะห์สถิติที่ห้องสมุด มมส. ลูกสาวทั้ง 3 ก็ขอติดรถมาด้วย เพราะที่บ้าน ไม่มีผู้ใหญ่อยู่เลยสักคน แม่ก็มาเรียนที่คณะพยาบาล มมส. ในวันนั้น  ลูกสาวทั้ง 3 ไปหยิบหนังสือมาอ่าน อ่านแล้วอ่านอีกจนบ่าย คุณพ่อก็ไม่พาไปทานข้าวซักที จน 3 ลูกสาวต้องมาหาคุณพ่อ (พี่หมอ) ซึ่งกำลังมีสมาธิในการทำงาน

พี่หมออเลยตัดปัญหา ควักเงินให้ บอกให้ลูกสาวคนโตพาน้องไปหาอะไรทาน เพราะพี่หมอจะทำงานให้เสร็จ

จนถึงตอนค่ำ ช่วงเดินทางกลับบ้าน หลังจากไปนั่งทานข้าวเย็นที่ตลาดข้างโรงอาหารใน มมส. พี่หมอเลยสอบถามว่า วันนี้อ่านหนังสือได้คนละกี่เล่ม แล้วไปไหนกันมาบ้าง

ลูกสาวคนโตรายงานว่า ตอนบ่าย พากันนั่งรถ 2 แถวออกจาก มมส. เข้าไปในเมือง ทำเอาพี่หมอตกใจ ไม่นึกว่า จะพากันออกไปไกลถึงขนาดนั้น (จาก มมส. ถึงตัวเมือง ระยะทางเกือบ 10 กม.)

ลูกสาวคนโตบอกว่า  พากันเข้าเมือง ไปที่ร้าน Se-ed และ B2S ไปดูหนังสือใหม่ๆ ที่อยากได้

แหม เป็นครอบครัวแห่งการเรียนรู้จริงๆ ถ้าเป็นลูกๆของครอบครัวอื่นๆ ไม่รู้ว่า จะพากันไปเข้าร้านหนังสือแบบนี้หรือเปล่า หรือว่า พากันไปดูหนัง หรือไปเล่นเกมส์ เที่ยวซื้อของต่างๆหรือไม่

ต้องยอมรับในตัวของพี่หมอเค้าละครับ ว่าเค้าสามารถสอนลูกสาวให้รักการเรียนรู้ได้ดีจริงๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชนบท แต่เมื่อมีโอกาสเข้ามาในตัวเมืองใหญ่ ลูกสาวพากันไปเข้าร้านหนังสืออย่างเดียว!!!!!!!

ครอบครัวไหนที่อบรม สั่งสอนลูกหลาน ให้รักการเรียนไม่ค่อยจะได้ คงต้องปรึกษาพี่หมออนามัยแล้วล่ะครับ ว่าเลี้ยงดูลูกๆยังไงบ้าง!!!!!!

คำสำคัญ (Tags): #ส.ม.1#มมส#learning#kalasin
หมายเลขบันทึก: 28740เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2006 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 23:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นกำลังใจครับพี่หมอ ....สู้ครับ ขออวยพรให้จบ  ป. โท เร็ว ๆ นะครับ  ผมอำนาจครับเคยไปเยี่ยมพี่ตอนสำรวจข้อมูลกับนายบอนครับเมื่อปี48 ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท