พระอาจารย์ชัยวุธ
ประเด็นในข้อ 1 คือการเลือกครับ ซึ่งเมื่อจะเลือก ก็ต้องมีตัวเลือกก่อน แล้วจึงพินิจพิจารณาตัวเลือก
แต่ในกรณีของการเมือง หลายครั้งที่การเลือกเกิดขึ้นก่อนตัวเลือกครับ ในกรณีนี้ไม่ได้เป็นการเลือกคนดีเลยครับ ถึงต่อให้เป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือชาวบ้านที่เลือกตนมา แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ที่เขาเลือกมาทำ แบบนี้ต้องเรียกว่าไม่เข้าใจบทบาทของตนเองครับ
คนดีในที่นี้ ผมหมายถึงคนที่เสียสละ ทำความดีกับคนอื่นครับ ในบริบทขององค์กร ความสำเร็จไม่ควรจะขึ้นกับคนๆ เดียว (ไม่อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีองค์กรนั้นด้วยซ้ำไป) ผู้บริหารจึงทำหน้าที่เป็น enabler กำหนดทิศทางวิธีการ รับฟัง-ประเมินสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง แก้ไขปัญหา สร้างแรงจูงใจ ผลักดันกระบวนการ เมื่อองค์กรได้รับผลดี ตัวผู้บริหารจึงได้ในส่วนของตนในภายหลังครับ
ในทำนองกลับกัน ถ้าเป็นคนบ้าอำนาจข่มเหงผู้อื่น ใช้องค์กรเป็นฐานเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเอง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ตนเอง ตอบตัวเองและคนอื่นไม่ได้ว่าทำอะไรให้กับองค์กรบ้าง พอเป็นเรื่องของตัวเองแล้ว สำคัญกว่าเรื่องขององค์กร แบบนี้ไม่ดีครับ
ผมชอบวิธีการบริหารแบบที่เล่ามาครับ การได้ใจพนักงานนั้น เน้นให้เห็นถึงการมีส่วนร่วม ซึ่งในกระบวนการนี้ เป็นการให้เกียรติแก่ทุกคน -- ซึ่งพี่ได้ใจผมด้วยครับ
ในรูปผู้นำห้าระดับของ Jim Collins เรื่องที่ยากที่สุดของการเข้าไปอยู่ในระดับที่ 5 คือการทิ้งตัวตนไปครับ
ผมเห็นว่าองค์กรไม่สามารถเติบโตทางความคิดได้ตามธรรมชาติ ถ้าผู้บริหารไม่กล้าพอครับ ถ้าไม่ทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อองค์กร คนที่ดีก็มีทางเลือกอื่นๆ นอกองค์กรเช่นกัน