วันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะทำงานโครงการ ศึกษาสำรวจและออกแบบก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ใน 5 จังหวัดภาคอีสาน (ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธ์ และ ชัยภูมิ) ซึ่งหัวหน้าทีม คือ ท่านรองศาสตราจารย์ วินัย ศรีอำพร และทีมงานผู้เชี่ยวชาญแทบทุกสาขา อีก 2 คันรถตู้ พวกเราเดินได้ทางไปที่ อำเภอศรีชมพู จังหวัดขอนแก่น (จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้นะคะ) เนื่องจากเราไปสองรถตู้ และจากการเดินทางทำงานมาทั้ง 5 จังหวัดที่ผ่านมาหลายวัน ทำให้พวกเราเหนื่อยกันมาก ผนวกกับการเดินทางไปสู่หมู่บ้านที่ช่างแสนไกลเหลือกเกิน เมื่อเราขึ้นรถได้พวกเราทุกคนบนรถตู้ จึงเข้าสู่การนิทราที่แสนสุข และด้วยความเกรงใจและความมั่นใจของท่านของ พขร. ท่านก็ขับพาพวกเราไปเรื่อยๆ พอสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที เราก็เลยพื้นที่เป้าหมายไปแล้ว 20 กิโลเมตร และขณะนั้น เราได้เวลานัดหมายพอดี (14.30 น) เมื่อย้อนกลับมาอย่างคนหลงทาง เราก็ถึงที่นัดหมาย 15.20 น ดีนะ ที่รถตู้อีกคันไม่หลงทาง (หลงทางเสียเวลา .......ดั่งคำพังเพย)
พื้นที่ที่เราไปนี้อยู่ติดกับลำน้ำพอง มีน้ำ แต่ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้เพื่อการเกษตรได้ ซึ่งปีนี้ กรมชลประทาน โดยสำนักชลประทานที่ 6 จังหวัดขอนก่น มีงบประมาณ ในการศึกษาสำรวจ ออกแบบ (แต่ยังไม่มีงบประมาณก่อสร้างนะคะ ซึ่งคงต้องรอต่อไป) ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินการศึกษาฯ พวกเราจึงได้มีมีหน้าที่ออกไปชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบโครงการ และกำหนดการทำงาน จากการออกหมู่บ้านมาหลายๆ หมู่บ้าน ดิฉันประทับใจบ้านนี้มากๆ ชาวบ้านมาร่วมฟังการชี้แจงจำนวนมากจริงๆ ซึ่งทุกคนต่างก็มีความหวังว่า จะได้ใช้ประโยชน์จากลำน้ำพองเพื่อการเกษตร มีผู้นำท่านหนึ่ง อายุมากแล้ว บอกว่า เขารอโครงการนี้มานานมากแล้ว และเขาหวังว่า "คงเห็นโครงการก่อสร้าง และได้ใช้น้ำ ก่อนตาย" พอได้ยิน มีความรูสึกเกิดขึ้นสองอย่าง คือ 1) อาชีพเกษตร สำคัญมาก และน้ำยิ่งสำคัญกว่า ชาวบ้านรอความหวัง รอการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการมาตลอด เมื่อรู้ว่าโครงการมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ ชาวบ้านยิ่งดูมีความสุขมากๆ และ 2) หากโครงการนี้ เกิดขึ้นได้เพียงการศึกษา สำรวจออกแบบ แต่ไม่มีงบประมาณก่อสร้างละ ชาวบ้านจะรู้สึกอย่างไร (หดหู่... นะ)
แต่ ณ วันนั้น วันที่ชาวบ้านรู้ว่ามีการสำรวจออกแบบ เขาก็มีความสุขมากแล้ว ซึ่งเป็นความสุขที่คณะทำงาน สัมผัสได้จากรอยยิ้มของทุกท่านที่มาร่วมประชุม สัมผัสได้จากทุกความคิดเห็น และทุกก้าวย่าง เกือบ ๆ 100 ชีวิต ที่เดินตามพวกเราไปดูสถานที่ ที่ควรจะตั้งสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า เมื่อทุกคนได้รับความมั่นใจว่าจุดที่พาไปดู คือที่ที่เหมาะสมแล้วทางวิศวกรรม ในการก่อสร้าง ชาวบ้านปรบมือเกรียวกราวอย่างดีใจ (ดูชาวบ้านดีใจมากๆ)
และวันนั้นเราก็ได้รับสิ่งตอบแทน "น้ำใจ" ที่ชาวบ้านมอบให้ คือ "ผักหวาน" ที่ชาวบ้านรีบช่วยกันเก็บจากต้น 4 ต้น ซึ่งใช้เวลาเก็บไม่ถึงห้านาที เพื่อมอบให้ ท่านอาจารย์วินัย (หัวหน้าโครงการฯ) รอยยิ้มจากอาจารย์วินัย และพวกเราทุกคนคือความรู้สึกอิ่มเอม ดีใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความหวังให้กับประชาชน ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ไขและรังสรรค์สังคม ช่วยให้เกษตรกรให้อยู่ได้อย่างมีความหวัง และอีกหลายรอยยิ้ม ของผู้มอบ"ผักหวานน้ำใจ" ที่ได้รับความหวังจากพวกเรา ที่ไปในนาม "ข้าราชการ"
วันนั้น เป็นการเดินทางที่ "หลงทางไป" แต่การทำงานของพวกเราวันนั้น เป็นการสร้างความหวัง และความสุขให้กับชีวิตอีกหลายร้อยชีวิต ที่ดิฉันเชื่อแน่ว่า เรา"ไม่หลงทิศทาง"
ผักหวานน้ำใจ ที่ชาวบ้านมอบให้ ท่านอาจารย์วินัย
นู๋เพิ่งเห็นต้นผักหวานครั้งแรกจากรูปนี้ค่ะ(ต้นเล็กจัง)
มีแต่ผักหวานเย๋อคะยังขาดปลาแห้งกะไข่มดแดงนะเนี่ย
...............แกงผักหวาน..........น่า.....อาหย่อยจัง!!!!
มองในมุมเพื่อชุมชนนะคะ...
....เป็นความน่าภาคภูมิใจแทนช้าวบ้านนะคะ
ที่ได้มีนักวิชาการที่มีควารู้ ความสามารถ
ที่ไม่ได้ผลิตเพียงตำราวิชาการ หรือสอนหนังสือเพียงอย่างเดียว
กลับนำความรู้ที่มีเข้าไปสู่ชมชน
และที่สำคัญเป็นชุมชนของชาวอีสานบ้านเฮา....^_^!!
..ปล. แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง เห็ดสดๆ พูดแล้วน้ำลายไหล..
เห็นภาพเลยป้า เหมือนไปออกสำรวจด้วยเลย..
>>..อย่าให้ชาวบ้านผิดหวังละกัน.. นะ
ความภาคภูมิใจ
ความภาคภูมิใจคือการที่ได้เกิดการเชื่อมโยง..ระหว่าง ความรู้ในหมู่นักวิชาการ..และความรู้ในหมู่ชุมชน..ร่วมแรงร่วมใจ..กันเพราะ "เราคือคนไทย"
การทำโครงการนี้ ทุกคนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการจะเสร็จ สมบูรณ์ ทั้งการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนได้น้ำมาใช้ประโยชน์ อย่างแท้จริง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกร
ขอบคุณ คุณขจิต นะคะ
มาเที่ยวขอนแก่นนะคะ จะพาไป
อยู่โคราชเอง มิใช่หรือ ขก-โคราช ไม่ไกลกันหรอกคะ
ป๋าวินัยผม สุดยอดอยู่แล้ว
ว่างๆ ชวนผมไปด้วยนะครับ
ขายแรงงานฟรีๆ
น้องเจม (เดาเอานะคะ ว่าเป็นน้อง)
มามะ มาช่วยกันทำงาน เพื่อเกษตรกรไทยให้อยู่ได้
โดยที่ไม่ต้องไปประท้วง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ
ท่านอาจารย์ วินัย คงภูมิใจน่าดูเนาะ นี้แหละ การเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ โดยไม่ได้หวังอะไรมากมาย
สิ่งที่รับคือความอิ่มเอมหัวใจ ความภูมิใจ
หวังให้ ข้าราชการไทย เป็นอย่างนี้กันเยอะๆ นะคะ