ตอนนี้จะบันทึกถึงข้อคิดของท่านข่านที่ได้สอนลูกๆเอาไว้ครับ
ในการรบของเจงกีสข่านนั้น ท่านข่านจะเอาลูกทั้ง 4 คนไปรบด้วย ความคิดของท่านข่านก็คงเหมือนกับคุณพ่อทุกๆท่านที่คิดจะแบ่งสมบัติให้ลูกๆทุกคนเมื่อลูกโตขึ้น
เจงกีสข่านก็เหมือนกันครับการรบกับอาณาจักร Khwarizm นั้น ท่านข่านนี่ 60 กว่าแล้วครับ ถ้าจะพูดกันแล้วต้องถือว่าอายุมากนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่านี่คือคนในยุคพันกว่าปีมาแล้ว
การรบกับอาณาจักร Khwarizm นั้นท่านข่านได้คิดถึงเรื่องทายาทผู้สืบต่อตำแหน่งท่านข่านของท่านข่านไว้แล้ว โดยที่ท่านข่านนั้นจะแบ่งแผ่นดินที่ยึดมาให้ลูกๆแต่ละคนปกครอง แต่ก็จะมีคนหนึ่งที่ได้ตำแหน่งท่านข่านสูงสุดของท่านข่าน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับรัฐบาลกลางของอาณาจักรมองโกล โดยที่ข่านคนอื่นๆนั้น เป็นเหมือนมนตรีในคณะรัฐบาลกลาง
เมื่อคิดได้แบบนั้น วันหนึ่งท่านข่านก็เรียกประชุมครอบครัว และนายทหารที่สำคัญครับ เพราะนายทหารพวกนี้แหละครับคือคนที่จะค้ำบัลลังค์ข่านคนต่อไป
เรื่องมันน่าจะง่ายใช่ไหมครับ ในเมื่อก็ให้ลูกชายคนโตได้ตำแหน่งท่านข่านใหญ่ไปซะ
แต่ช้าแต่ โลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้เหมือนในนิยายซักกะหน่อย
เพราะลูกคนโตของท่านข่านนั้น ท่านข่านไม่รู้ว่าเป็นลูกใครครับ เนื่องจากว่า ภรรยาท่านข่านนั้นเคยถูกฉุดไปไงครับ แล้วเวลาคลอดลูกคนแรกนั้นมันก็คงจะคาบเกี่ยวซะเหลือเกินกับเวลาที่ภรรยาท่านข่านโดยฉุด และเมื่อคุณไม่มีเครื่องมือตรวจ DNA แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นพ่อ
ดังนั้นลูกชายคนที่สองของท่านข่านนั้นไม่พอใจครับ ในเมื่ออำนาจเป็นสิ่งหอมหวล แล้วก็อาจจะอยากได้ด้วย แต่ลูกคนที่สองก็มีสปิริตีครับบอกว่า ทั้งลูกคนโตและคนที่สองไม่สมควรได้อำนาจ เป็นท่านข่านสูงสุด
หวยก็เลยมาตกที่ลูกคนที่สามครับ กลายมาเป็นตำแหน่งรัชทายาท แต่ลูกคนที่สามนี่ขี้เหล้าครับ แล้วหลังจากการประชุมครั้งนี้ เล่นเอา ลูกคนโตกับลูกคนที่สองนั้นไม่มองหน้ากันอีกเลยครับ
เหตุผลที่เกิดการแก่งแย่งการไม่รักกันของพี่น้องนั้น ก็อาจจะมาจากหลายอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีเวลาของท่านข่านที่ต้องออกรบตลอดเวลา ดังนั้นก็อาจจะไม่มีเวลาอบรมลูกมากนัก
แต่ Dr. Weatherford นั้นบอกว่า เหตุผลหลักนั้นน่าจะมาจากการที่ท่านข่านนั้นเลิกระบบเครือญาติมากกว่า การเลิกระบบเครือญาตินั้นทำให้ ท่านข่านไม่ได้ใกล้ชิดลูก เพราะไปให้ความสำคัญกับคนที่ภักดีมากกว่า
แต่ท่านข่านก็ไม่ใช่จะเห็นปัญหาแล้วไม่แก้ครับ ท่านก็เลยสั่งให้ลูกคนโตและคนรองไปโจมตีเมืองเมืองหนึ่ง ผลก็คือล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่ใช่ตีเมืองไม่สำเร็จนะครับ สำเร็จครับ แต่ปกติมองโกลตีเมือง 3 เดือนก็ช้าแล้ว แต่นี่ไปกันพี่น้องล่อไป 6 เดือน แถมท้ายสุดเมืองนั้นก็ราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลืออะไรเลย คือถ้าเป็นแบบนี้สำหรับมองโกลนั้น มันเสร็จตั้งนานแล้ว
พอเป็นแบบนี้ท่านข่านนั้นเห็นว่าไม่ไหวแล้วก็เลยเรียกลูกมาอบรมครับ เอาประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา ยัดลงในหัวลูกสองคนภายในไม่กี่ชั่วโมง ท่านข่านนั้นสอนลูกดังนี้ครับ
ทั้งหมดนี่แหละครับที่ท่านข่านนั้นสอนลูกว่าจะเป็นผู้นำ ผู้ปกครองที่ดีได้อย่างไร
ผมว่าหัวใจของการปกครองนั้นยุคไหนสมัยไหนก็เหมือนกัน ดังนั้นประวัติศาสตร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นนักปกครอง และนักการเมืองนะครับ
สิ่งหนึ่งที่ท่านข่านนั้นได้พูดกับลูกไว้ด้วยก็คือให้มีชีวิตอย่างเรียบง่าย อย่าฟุ่มเฟือย เพราะการฟุ่มเฟือยนั้นจะนำมาซึ่งความขี้เกียจ อันนี้คงจะต้องมองจากยุคกลางมั้งครับ เพราะว่าก่อนที่คุณจะหรูหราได้ ก็คงจะต้องรวยมหาศาล แล้วก็ถึงตอนนั้นก็คงไม่อยากทำอะไรแล้วครับ
หลังจากยึดอาณาจักร Khwarizm แล้ว ท่านข่านก็พยายามที่จะบุกไปยังภาคใต้ แต่ว่าภาคใต้นั้นอากาศร้อนชื้นครับ ทำให้คนมองโกลที่ชินกับอากาศแห้งและเย็นมากกว่า เกิดการไม่สบายกันหลายคน ก็เลยกลับไป
ภารกิจสุดท้ายของท่านข่าน ก็คือการไปบุก Tangut ครับ เผ่าที่ทรยศท่านข่าน เมื่อท่านข่านขอกำลังไปบุกอาณาจักร Khwarizm
เหตุผลที่ท่านข่านที่ชราภาพยกทัพจับศึกไปเรื่อยๆนั้น Dr. Weatherford คิดว่า น่าจะเป็นเพราะว่ามองโกลนั้นไม่มีความเป็นชาติ คือไม่มี identity เป็นการรวมตัวของเผ่าหลายๆเผ่า ดังนั้นถ้าไม่รบกับชาวบ้าน ก็อาจจะรบกันเองก็ได้ ทำให้ท่านข่านนั้นต้องออกไปรบเรื่อยๆ
ท่านข่านนั้นเสียชีวิตก่อนที่จะได้ชัยชนะเหนือพวก Tangut ไม่กี่วันเท่านั้น แต่ฝากชื่อไว้อย่างยิ่งใหญ่ และที่สำคัญคือบอกให้ลูกนั้นยึดครองพื้นดินส่วนอื่นๆ เพื่อให้ความฝันของท่านข่านเป็นจริงครับ
ท่านข่านนั้นให้เกียรติเพื่อนร่วมรบมากนะครับ จะสังเกตได้จากการที่บอกว่าปกครองคนเก่งเหมือนพี่น้อง อีกทั้งท่านข่านนั้นเป็นคนถ่อมตัวด้วย
ที่สำคัญก็คือท่านข่านนั้นบอกว่าทุกเผ่าทุกอาณาจักรที่ยึดได้ ไม่ใช่มาจากความสามารถอันเก่งกาจเหนือคนของท่านข่าน แต่มาจากความหยิ่งทะนงและความฟุ่ยเฟือยของประชาชนในเผ่านั้นๆ ที่ทำให้ประเทศหรืออาณาจักรนั้นล่มลง
ชีวิตของเจงกีสข่านอาจจะจบไปแล้วครับในตอนนี้ แต่เรื่องราวยังไม่จบนะครับ เพราะผลที่ท่านข่านนั้นมีต่อชาวโลกนั้นมากเหลือเกิน ตอนต่อไป เราจะมาพูดกันว่า แล้วรุ่นลูกของท่านข่านนั้น ทำให้ฝันท่านข่านนั้นเป็นจริงไปถึงไหน แต่ก็เป็นประจำครับ ขอไปอ่านก่อนครับ
คุณโยม ไปอ่านหนังสือ
อ่านมา... ยังไม่มีประเด็นที่ เจงกิสข่านส่งทหารไปญี่ปุ่นแล้วถูกสึนามิตายหมด ทำให้เค้าเปลี่ยนใจที่จะบุกญี่ปุ่น โดยเหตุผลว่าไม่เข้าใจทะเล...
แต่เกมส์Shogun เอามาสร้างจำลองได้ในปัจจุบัน...
ถ้ามีประเด็นนี้อยู่ด้วย ช่วยเล่าหน่อย จ้า
เจริญพร
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
ประเด็นที่พระคุณเจ้ากล่าวถึงไม่ได้อยู่ในสมัยเจงกีสข่านครับ แต่อยู่ในสมัย กุบไลข่าน ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์หยวนครับ กุบไลข่านนี่เป็นหลานปู่ของเจงกีสข่านครับพระคุณเจ้า
ไม่แน่ใจว่าในหนังสือจะเขียนถึงเรื่องนี้หรือไม่ (แต่ผมคิดว่าเขียนครับ) แต่ตอนนี้ยังอ่านไปไม่ถึงขอรับ ตอนนี้อ่านถึงแค่รุ่นลูกครับ เหลือรุ่นลูกอีก 2 บท ก็จะไปถึงรุ่นหลาน ซึ่งเป็นรุ่นที่เรียกว่าสร้างโลกาภิวัฒน์ยุคแรกจริงๆครับพระคุณเจ้า
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งครับ
คงจะใช่.. ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ตระกูลข่านมีเยอะ และหลายยุคหลายรุ่น ....
มีอีกตอนหนึ่ง ตอนที่ข้ามเทือกเขาสูง (หิมาลัย ? ไม่ค่อยแน่ใจ) แล้วเผาป่า บังเอิญมีแร่บางชนิด จึงไหลลงสู่เบื้องล่าง... กองทหารจึงได้หนทางบุกลงมา จนกระทั้งถึงยุโรป...รู้สึกว่าเป็นตระกูลข่านเหมือนกัน (อ้างชื่อเกรงว่าผิดอีก อ้างตระกูลดีกว่า 5 5 5)..
ชอบประวัติศาสตร์ อ่านได้เรื่อยๆ จะคอยติดตาม จ้า
เจริญพร
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
ขอบพระคุณพระคุณเจ้ามากนะครับที่ได้ให้เกียรติติดตามบันทึกครับ
เรื่องที่พระคุณเจ้าพูดถึงมองโกลข้ามเทือกเขาหิมาลัยนั้น ผมไม่ทราบจริงๆครับ แต่ถ้ามองจากแผนที่ จะข้ามหิมาลัยไปบุกยุโรปนั้น ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ เนื่องจากว่ามันคนละทางครับท่าน
ตอนที่ผมอ่านอยู่ตอนนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบุกยุโรปนะครับ แต่ว่าในหนังสือก็ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับการข้ามหิมาลัยครับ
กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
ขอขอบคุณอาจารย์ไปอ่านหนังสือ...
ขอเรียนเสนออีกสำนวนหนึ่ง...
ที่มา:
ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ทำนองว่ามั่วนิ่มไปเรื่อย นะครับ.....
เพิ่งนึกขึ้นได้ชื่อ อัตติลา เป็นมองโกลที่บุกไปถึงยุโรป (น่าจะเขียนทำนองนี้) ซึ่ง มรว. คึกฤทธิ์ ก็เคยเขียนไว้เล่มหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าหนังสือจะชื่อนี้ด้วยหรือไม่...
คุณโยมเขียนไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งรีบจบ... อาตมาจะได้ฟื้นเรื่องเก่าๆ ด้วย และพลอยมั่วนิ่มไปอีกประหนึ่งโสด (.....)
เจริญพร
กราบขอบพระคุณคุณหมอมากครับ สำหรับข้อคิดที่เยี่ยมยอด และได้สละเวลามาอื่นอีกเช่นเคยครับ
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
อัตติลา (Attila) นี่ไม่ใช่ชาวมองโกลครับ แต่เป็นชาวฮาน (Hun) ซึ่งคนละเผ่ากับชาวฮั่นคนจีนนะครับ
คุยกับคุณโยมทำท่าจะไปไกลเลย...
ลองถาม google ดูมีรายละเอียดประเด็นนี้เยอะเลย...อัตติลาบางคนเค้าก็ว่าเป็นมองโกล บางคนก็ว่ามิใช่... บางคนให้ความเห็นว่า นักวิชาการโบราณของไทย คิดว่า ฮ่วนและฮั่น เป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเหมารวมเป็นมองโกล ทำนองนั้น....
หนังสือที่ ม.ร.ว.คึกฤทธ์เขียนก็พบ ชื่อ ฮวนนั้ง (http://vdo.kku.ac.th/mediacenter/mediacenter-uploads/libs/html/1177/index_k110.htm)...
แน่นอนได้เลยคุณโยม หลวงพี่ต้องอ่านหนังสือของนักวิชาการโบราณของไทย ซึ่งเขียนไว้มั่วๆ แล้วหลวงพี่ก็นำมาจับแพะชนแกะ จากมั่วๆ จึงกลายเป็นมั่วนิ่มๆ..(......)
ถ้าไม่เจอคุณโยมก็คงจะไม่ได้ฟื้นเรื่องนี้... แต่ยุคนี้ดีมากเลย มีเน็ต ถาม google ไม่นานก็พอจับประเด็นได้....
เจริญพร
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
ผมคิดว่าที่หลายคนคิดว่า อัตติลา (ผู้ครองอาณาจักร) นั้นเป็นมองโกบ อาจจะเป็นเพราะว่าอาณาจักรของอัตติลานั้นอาจจะยึดไปถึงมองโกลก็ได้ครับ
ในหนังสือเล่มนี้ ก็ได้บอกเหมือนกันครับว่า มองโกลนั้น บางคนก็เรียกว่า Tartar ครับ เพราะค่อนข้างสับสนกับชื่อของเผ่าหลายๆเผ่าที่ถูกมองโกลครอบครองครับ
น่าเสียดายที่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ถึงพวกฮานครับ แต่มีไม่กี่เผ่าหรอกนะครับที่จะบุกไปถึงโรมัน แล้วทำให้โรมันสยองได้
หนึ่งในนั้นก็มีอัตติลา อีกคนก็ฮานิบาล ครับ
คำสอนแต่ละคำน่าจะให้คนรุ่นหลังและราณีเก็บมาคิด และประยุกต์ใช้ ขอบคุณนะค่ะที่นำสิ่งดี ๆ มาเล่า ชอบสำนวนเดียวกับคุณหมอวัลลภค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์Ranee
ขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่ได้ติดตามอ่านมาตลอดครับ :D