วันนี้ดิฉันกลับเข้าประจำการ ณ ที่ตั้ง มน. พิษณุโลก อีกครั้ง หลังจากไปร่วมมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 4 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี กทม. โดยเดินทางจาก พล - กทม. ตั้งแต่เย็นวันที่ 29 พ.ย. และร่วมงานตลอดทั้งวันในวันที่ 30 พ.ย. แล้วก็เดินทางกลับเย็นวันดังกล่าวเลย
งานนี้จัดได้เยี่ยมยอดดังเช่นเคย แต่ดิฉันยังไม่มีกะจิตกะใจจะเล่าในบันทึกนี้นะคะ เหตุก็เพราะ เช้าวันนี้เมื่อดิฉันเปิดแฟ้ม e-office เพื่อตรวจตราภารกิจประจำ ก็พบเรื่องด่วนที่สุด ที่สำคัญมาก เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ.....
ท่านรองคณบดีฝ่ายบริหาร (อาจารย์สุวรรณา ถาวรรุ่งโรจน์) แจ้งให้ดิฉันทราบใน e-office ว่า มหาวิทยาลัยเรียกตัวเข้าประชุมแทนคณบดีด่วน เพื่อแจ้งให้ทราบว่า จากการที่พระราชบัญญัติของ มน ได้เข้าสู่สภานิติบัญญัติ (สนช) แล้วนั้น สนช ให้ มน กลับมาทำประชาพิจารณ์อีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงยื่นให้กับ รมต ใน วันอังคารที่จะถึงนี้ (4ธ.ค. 50)
ถึงวันนี้ บุคลากรของคณะสหเวชฯ ที่ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้มีเพียง 3 ท่าน จากจำนวนทั้งสิ้นราว 60 กว่าท่าน ส่วนที่แสดงความคิดเห็น ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าท่านเหล่านั้นได้เคยศึกษาข้อมูลมาแล้วมากน้อยเพียงใด
วันนี้ (30 พ.ย.) ดิฉันจึงจำเป็นต้องเขียนข้อคิดเห็นและให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่บุคลากรในคณะฯ และประชาสัมพันธ์โดยด่วนที่สุด ผ่าน e-office ของคณะ (หวังว่าจะได้อ่านกันทัน ก่อนตัดสินใจ) ดังนี้
เรียนบุคลากรคณะสหเวชศาสตร์ทุกท่าน
ในฐานะผู้นำองค์การของคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ดิฉันขอเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่างพ.ร.บ. มหาวิทยาลัยในกำกับของ มน. ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทุกๆ ท่านด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการใช้ประกอบการตัดสินใจ ร่วมกับวิจารณญานอันรอบคอบของท่าน ขอท่านโปรดคิดและตัดสินใจด้วยหลักของเหตุและผล และเพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวท่านเองอย่างมองการณ์ไกล ( ข้อความข้างล่างต่อไปนี้ เรียบเรียงมาจากหลายบทความ ใน http://gotoknow.org/blog/council ของ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช : นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้ว)
แต่ถึงจะออกไปมีอิสระ มหาวิทยาลัยเหล่านี้ก็ยังต้องการการสนับสนุนด้านการเงินจากภาครัฐ สำหรับทำงานวิชาการยากๆ ให้แก่สังคม
ภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็คือ
แม้ยังอยู่ในระบบราชการ แต่มหาวิทยาลัยก็ถูกรัฐบาลและกลไกต่างๆ ล่อให้ออกไปอยู่นอกระบบราชการกระแสหลักตั้งเกือบครึ่งตัวแล้ว
ออกหรือไม่ออกจากระบบราชการก็วิกฤตอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยของรัฐจะต้องปรับตัวรวมพลังกันเต็มที่ เพื่อรับมือกับแรงบีบคั้นรอบด้าน เพื่อทำหน้าที่แก่บ้านเมืองให้ดีที่สุด
(ข) หลักการ (บางประการ) ในการออกกฎหมายลูก (ข้อบังคับ)
ข้อบังคับว่าด้วยการสรรหาคณบดี ควรระบุให้ผู้มีสิทธิได้รับการสรรหาเป็นใครก็ได้ที่มีคุณสมบัติตามต้องการ ไม่จำเป็นต้องเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยมาก่อน กล่าวคือ เปิดกว้างยืดหยุ่น เพื่อให้มหาวิทยาลัยสามารถดึงดูดคนเก่งเข้ามาทำงานในตำแหน่งสำคัญได้ โดยดึงดูดได้จากทั่วประเทศไทย และทั่วโลก
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ดิฉันมีความรู้ในเรื่องกฎหมายแค่หางอึ่ง แต่ก็ได้พยายามศึกษาเรื่องการออกนอกระบบจากผู้รู้หลายๆแหล่งเพิ่มเติม เพราะ ณ เวลานี้ เรื่องสำคัญอย่างนี้ ความรู้เป็นสิ่งจำเป็นต่อการตัดสินใจ ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงในอาชีพการงาน ก็ยิ่งต้องสนใจ ดังนั้น แม้จะสื่อสารกับบุคลากรในคณะฯแล้ว ดิฉันก็ยังหวังไว้เล็กๆ ว่า จะมีบุคลากรบางท่านใน มน. (ต่างคณะฯ) ได้อ่านด้วย จึงบันทึกผ่าน Blog อีกทางหนึ่ง
โดยเฉพาะบุคลากรที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ของมหาวิทยาลัยนเรศวร กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า แทบไม่รู้ร้อนรู้หนาว เอาเสียเลย กับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ดิฉันสงสัยอยู่เสมอว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสฟังคำสัมภาษณ์ของพนักงานมหาวิทยาลัยที่เป็นทั้งอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จึงได้ถึงบางอ้อว่า...ทำไม พนักงานมหาวิทยาลัยนเรศวร จึงไม่รู้ร้อนรู้หนาว กับการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ พนักงานมหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร มีสิทธิ สวัสดิการ และค่าตอบแทนต่างๆ ล้นเหลือ ไม่ต่างจากข้าราชการ (หรือมากกว่าด้วยซ้ำ) ในขณะที่ มหาวิทยาลัยแห่งอื่นๆ มีน้อยกว่า หรือไม่มีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่มีค่าเหนือกว่าเงินทอง นั่นก็คือความเป็นอิสระและความเสมอภาคทางความคิดเห็น โอกาสในการออกความคิดเห็นต่างๆ ตลอดจนสิทธิในการบริหารงานทุกระดับ
ถ้าท่านต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่เท่าเทียมดังกล่าว และต้องทนอยู่ในระบบนั้นอย่างหวานอมขมกลืน เพราะไม่มีทางไป หรือไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า ท่านคงโหยหา และเรียกร้องมากกว่านี้
สวัสดีครับ .. อาจารย์มาลินี
ขอบคุณครับ ... ยาวไปหน่อย :)
ขอบคุณ คุณ Wasawat Deemarn มากนะคะ ที่เข้ามาอ่าน และให้ความเห็น
ดิฉันได้รับความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียมาโดยตลอด อย่างน้อยก็ช่วยให้ดิฉันรู้สึกคลายความโดดเดี่ยวไปได้บ้าง
ขออนุญาตตอบทักทายเพียงเล็กน้อยนะคะ
เพราะตอนนี้ดิฉันกำลังเศร้าสุดๆ
เอ้า อาจารย์ ... เศร้าทำไมกันครับ
แวะมาให้กำลังใจดีกว่าครับ
ยิ้ม ๆ
บุญรักษา ครับ :)
เปิดความจริงหลังม.มหิดลออกนอกระบบ สิทธิรักษาพนง.น้อยกว่าเดิม-เงินเดือนขึ้นลูกผีลูกคน |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ | 11 ธันวาคม 2550 09:06 น. |
|