อนุทินล่าสุด


พรทิพย์
เขียนเมื่อ

19. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสาวสุพัสษา  บุพศิริ

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ทางรูปภาพของเด็กปฐมวัยด้วยการเล่านิทานประกอบหุ่น กับการเล่านิทานประกอบรูปภาพ

ข้อดี :      ตัวหนังสือชัดเจน

ข้อปรับปรุง :   

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

20. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางอินอ้อย   ชัยลา

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การสร้างโปรแกรมมัลติมีเดียเรื่องการผลิตบทเรียนช่วยสอน สำหรับครูประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ

ข้อดี :     

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือเล็กในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2



ความเห็น (1)

เป็นข้อความที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการโพสต์ในอนุทินเลยค่ะ ขอความกรุณาเปลี่ยนที่บันทึกเถิดค่ะ

พรทิพย์
เขียนเมื่อ

1.ชื่อผู้นำเสนอ : นางวราภรณ์ วุฒิสาร ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การเปรียบเทียบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและพฤติกรรมด้านความมีระเบียบวินัย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา(รูปแบบที่ 1)กับการสอนตามคู่มือครู

ข้อดี : สีตัวหนังสือชัดเจน

ข้อปรับปรุง : ตัวหนังสือเล็กเกินไป

ข้อเสนอแนะ : ควรเพิ่มขนาดตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่มากกว่านี้

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 1

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

2. ชื่อผู้นำเสนอ : นางทิวากร     วงศ์วิชิต ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

ข้อดี : ฉากหลังกับสีตัวหนังสือชัดเจน

ข้อปรับปรุง :  บางเฟรม เบลอ  หรือว่างเกินไป

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

3. ชื่อผู้นำเสนอ : นางสาวอมรพันธุ์  บุญมาวงษา

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ม.4 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์บูรณาการ ข้อดี :  ตัวหนังสือขนาดใหญ่ เหมาะสม

ข้อปรับปรุง :  สีตัวหนังสือไม่ชัดเจน ในบางเฟรม  บางฟรมใส่เยื้อหาเยอะไป

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

4. ชื่อผู้นำเสนอ : นางสุธิดา   ศรีลาดเลา  ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  ผลการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ข้อดี :  สีตัวหนังสือชัดเจน  ขนาดเหมาะสม

ข้อปรับปรุง :  บางเฟรมเบลอ

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

5. ชื่อผู้นำเสนอ :   นายชูชีพ    เหลือผล

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ด้วยการเรียนรู้ร่วมกันโดยใช้เทคนิคการใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคจิกซอว์ เรื่อง อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น

ข้อดี :  สีตัวหนังสือชัดเจน  ขนาดเหมาะสม

ข้อปรับปรุง : 

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 3

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 3

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

 5.เสียงประกอบ 1

 6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 3

9.สรุปผลการประเมิน 3

 

6. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสาวภัทรนันท์   บุญมาก

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การใช้นิทานอิงธรรมประกอบคำถามปลายเปิด เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของเด็กอนุบาลโรงเรียนบ้านห้วยทราย อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ

ข้อดี :   ขนาดตัวหนังสือเหมาะสม

ข้อปรับปรุง :  สีตัวหนังสือไม่ค่อยชัดในบางเฟรม สีฉากหลังทำให้ตัวหนังสือเบลอ

ข้อเสนอแนะ :  สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

7. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสาวอนุธิดา    สารทอง

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทาการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนโยธินบำรุง ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานและการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

ข้อดี :   ข้อปรับปรุง :  บางเฟรมตัวหนังสือไม่ชัดเจน  ฉากหลังเข้มเกินไป   ขนาดตัวหนังสือค่อนข้างเล็ก

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

 4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

8. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสาวเกศิณี   คำเกษ

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและเจตคติต่อวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT กับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ

ข้อดี :   สีตัวหนังสือชัดเจน 

ข้อปรับปรุง :  ตัวหนังสือค่อนข้างเล็ก 

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

9. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางเกษร    พรหมวงษ์ซ้าย

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องการแปรงทางเรขาคณิต  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แผนผังความคิด ( Mind Mapping )

ข้อดี :   สีตัวหนังสือชัดเจน 

ข้อปรับปรุง :  ขนาดตัวหนังสือควรเพิ่มขนาด 

ข้อเสนอแนะ :  สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

 9.สรุปผลการประเมิน 2

 

10. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางอัจฉรา    เหลือผล

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาชุดการเรียนคณิตศาสตร์ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยการสอนแบบค้นพบ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ข้อดี :     ขนาดตัวอักษรเหมาะสม

ข้อปรับปรุง :    บางเฟรมมีที่ว่างมากเกินไป ไม่ควรใช้การเชื่อมโยง ข้อเสนอแนะ :  สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

11. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสุรีพร   ประภาหาร

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาการจัดกิจกรรมเล่านิทานส่งเสริมพฤติกรรมจริยธรรมด้านการช่วยเหลือและการแบ่งปัน

ข้อดี :    

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือเล็กไปในบางเฟรม  ฉากหลังทำให้ตัวหนังสือเบลอ ข้อเสนอแนะ :  สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2 3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

12. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางนิตยา   นวลมณี

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาแบบฝึกทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ เรื่องสิ่งมีชีวิต กับสิ่งแวดล้อม  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ข้อดี :    

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือกลมกลืนกับฉากหลังในบางเฟรม  ตัวหนังสือเล็กในบางเฟรม ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

13. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางชินตา   สุภาชาติ

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :  การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์ของนักเรียนชั้น ม.4 ด้วยวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยการเสริมการแก้ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา

ข้อดี :     ตัวหนังสือชัดเจน

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือเล็กในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

14. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสาวยุพิน    ปัญญาประชุม

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง สิ่งเสพติดให้โทษ ของนักเรียนชั้น ม.2โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือรูปแบบ STAD กับวิธีสอนแบบปกติ

ข้อดี :     

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือใหญ่เกินไป  หน้ากระดาษไม่สมดุล

ข้อเสนอแนะ :  สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

 2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

 5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

15. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางสาวเกศกนก  ศรีมณีรัตน์

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษ เรื่องคำศัพท์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ข้อดี :      ขนาดตัวหนังสือเหมาะสม

ข้อปรับปรุง :   เขียนผิดไวยากรณ์

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

16. ชื่อผู้นำเสนอ :  นายเชาวฤทธิ์   จันฤาชัย

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การพัฒนาการอ่านและการเขียนแจกลูกสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ข้อดี :     

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือไม่ชัด ฉากหลังเบลอ

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

17. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางฉวีวรรณ    กุดหอม

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานกลุ่มวิชาดนตรีไทย โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ชั้น ม.1 โรงเรียนบางแพปฐมพิทยา สพท. ราชบุรี เขต 2

ข้อดี :     

ข้อปรับปรุง :    บางเฟรมสีตัวหนังสือหลากหลายเกินไป  ขนาดตัวหนังสือเล็กในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ : 

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

18. ชื่อผู้นำเสนอ :  นางรัชฎาภรณ์  ปัญญาวงค์

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ :   การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง

ข้อดี :     

ข้อปรับปรุง :    ตัวหนังสือกลมกลืนกับฉากหลัง  ตัวหนังสือเล็กในบางเฟรม ข้อเสนอแนะ :  ควรปรับสีฉากหลังให้อ่อนลง

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พรทิพย์
เขียนเมื่อ

การนำ  Blended  Learning  ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้

 

1. การเรียนการสอนแบบผสมผสาน Blended Learning เป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานหลากหลายวิธี เพื่อให้ผู้เรียนได้มีการเรียนรู้ที่หลากหลาย และเพื่อผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพเหมาะกับบริบทและสถานการณ์ การเรียนรู้และตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลเกิดการเรียนรู้และเกิดทักษะ ด้านการปฏิบัติ (Practice Skill )โดยใช้เทคโนโลยี เช่น การเรียนการสอนในชั้นเรียนร่วมกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์             (a combination of face-to-face and Onine Learning) การเรียนแบบหมวก 6 ใบ, สตอรี่ไลน์ จุดมุ่งหมายสูงสุดอยู่ที่ผู้เรียน โดยอัตราส่วนการผสมผสาน จะขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อหา และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กรณี - ครูผู้สอนสั่งงานทาง e-mail หรือ chatroom หรือ webbord ถือเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสาน   ครูสั่งให้ส่งงานเป็นรูปเล่มรายงานถือว่าเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานเช่นกัน เพราะต้องไปค้นคว้าสืบค้นข้อมูลและนำมาอภิปราย สรุป เนื้อหาเป็นแนวเดียวกัน ผู้เรียนทุกคนเข้าใจตรงกัน
2. การใช้งานจริง ณ ขณะนี้ การใช้ Blended Learning ในองค์กร หรือบริษัท ช่วยในการประชุม การสั่งงาน โดยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระบบเครือข่าย ส่วนมาก นิยมใช้ระบบ LMS เป็นระบบการบริหาร ผ่าน Sever เป็นระบบเครือข่ายผู้ใช้งานในระบบ

2.1 กลุ่มผู้บริหาร Administrator ทำหน้าที่ดูแลระบบ
2.2 กลุ่ม ครู อาจารย์ Instructor/ teacher ทำหน้าที่สอน
2.3 กลุ่มผู้เรียน Student /Guest นักเรียน นักศึกษา

สำหรับขั้นตอนการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานของ Beijing Normal University (BNU) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1. ขั้นก่อนการวิเคราะห์ (Pre-Analysis) เป็นขั้นตอนแรกของการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบการพิจารณาข้อมูลทั่ว ๆ ไป ได้แก่

1.1 การวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้เรียน
1.2 การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ในการเรียนรู้
1.3 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของการเรียนรู้แบบผสมผสานผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนแรก จะเป็นรายงานผลที่จะนำไปใช้ในขั้นต่อไป

2. ขั้นการออกแบบกิจกรรมและการออกแบบวัสดุการเรียนรู้ (Design of Activity and Resources) เป็นขั้นตอนที่สองที่นำผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนแรกมาออกแบบกิจกรรมและวัสดุ การเรียนรู้ ซึ่งจำแนกออกเป็น 3 ส่วนย่อย ๆ ได้แก่

 

 

2.1 การออกแบบภาพรวมของการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบด้วย

กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละหน่วยเรียน
กลยุทธ์การนำส่งบทเรียนในการเรียนรู้แบบผสมผสาน
ส่วนสนับสนุนการเรียนรู้แบบผสมผสาน

2.2 การออกแบบกิจกรรมแต่ละหน่วยเรียนประกอบด้วย

นิยามผลการกระทำของผู้เรียน
กิจกรรมในแต่ละวัตถุประสงค์
การจัดกลุ่มของกิจกรรมทั้งหมด
การประเมินผลในแต่ละหน่วยเรียน

2.3 การออกแบบและพัฒนาวัสดุการเรียนรู้ประกอบด้วย

การเลือกสรรเนื้อหาสาระ
การพัฒนากรณีต่าง ๆ
การนำเสนอผลการออกแบบและการพัฒนาผลที่ได้จากขั้นตอนที่สอง จะเป็นรายละเอียดของการออกแบบบทเรียนในแต่ละส่วน

3. ขั้นการประเมินผลการเรียนการสอน (Instructional Assessment) เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานประกอบด้วย

3.1 การประเมินผลขั้นตอนการเรียนรู้

3.2 การจัดการสอบตามหลักสูตร

3.3 การประเมินผลกิจกรรมทั้งหมดผลที่ได้จากขั้นตอนสุดท้าย จะนำไปพิจารณาตรวจปรับกระบวนการออกแบบในแต่ละขั้นที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อให้การเรียนรู้แบบผสมผสานมีประสิทธิภาพและเกดประสิทธิผลกับผู้เรียน อย่างแท้จริง


ขั้นตอนการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน
การเรียนรู้แบบผสมผสานมีสิ่งต่างๆจะต้องพิจารณา ดังนี้
1. เพิ่มทางเลือกของวิธีการนำส่งการเรียนรู้ไปยังผู้เรียนให้มีความหลากหลายมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ออกแบบ
2. เกณฑ์การตัดสินความสำเร็จในการเรียนรู้แบบผสมผสานไม่ได้มีเพียงเกณฑ์เดียว เช่น รูปแบบการเรียนรู้และวิธีการเรียนรู้ ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาร่วมกันได้
3. การออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานจะต้องพิจารณาประเด็นของความเร็วในการเรียนรู้ ขนาดของผู้เรียน และการสนับสนุนช่วยเหลือผู้เรียน
4. สภาพแวดล้อมทางการเรียนของผู้เรียน จะมีความแตกต่างกันเป็นธรรมชาติซึ่งการจัดการเรียนรู้จะต้องสนับสนุนให้ผู้ เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นสำคัญ
5. หน้าที่ของผู้เรียน จะต้องศึกษาและค้นพบตัวเอง เพื่อสร้างสรรค์ความรู้ตามศักยภาพของตนเอง
6. การออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานต้องการทีมงานออกแบบที่มีความรู้เรื่องการปรับปรุงด้านธุรกิจด้วย เช่นกัน

การเรียนการสอนทางไกลของ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ) ถือว่าเป็นการเรียนการสอนแบบผสมผสานเช่นกัน

คอร์สการเรียนภาษาอังกฤษทางไกล ของ แอนดรูส์ บิ๊ก ที่ใช้ระบบ(Blended Learning for Distance Learning) ซึ่งสามารถสอนนักเรียนพร้อมกันทีเดียวได้เป็นพันคน

ประโยชน์ ข้อดี
1. แบ่งเวลาเรียนอย่างอิสระ
2. เลือกสถานที่เรียนอย่างอิสระ
3. เรียนด้วยระดับความเร็วของตนเอง
4. สื่อสารอย่างใกล้ชิดกับครูผู้สอน
5. การผสมผสานระหว่างการเรียนแบบดั้งเดิมและแบบอนาคต
6. เรียนกับสื่อมัลติมีเดีย
7. เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง Child center
8. ผู้เรียนสามารถมีเวลาในการค้นคว้าข้อมูลมาก สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลได้อย่างดี
9. สามารถส่งเสริมความแม่นยำ ถ่ายโอนความรู้จากผู้หนึ่งไปยังผู้หนึ่งได้ สามารถทราบผลปฏิบัติย้อนกลับได้รวดเร็ว (กาเย่)
10. สร้างแรงจูงใจในบทเรียนได้(กาเย่)
11. ให้แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้(กาเย่)
12. สามารถทบทวนความรู้เดิม และสืบค้นความรู้ใหม่ได้ตลอดเวลา (กาเย่)
13. สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่รบกวนภายในชั้นเรียนได้ ทำให้ผู้เรียนมีสมาธิในการเรียน
14. ผู้เรียนมีช่องทางในการเรียน สามารถเข้าถึงผู้สอนได้
15. เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ค่อนข้างขาดความมั่นใจในตัวเอง
16. ใช้ในบริษัท หรือองค์กรต่างๆ สามารถลดต้นทุนในการอบรม สัมมนาได้

ข้อจำกัด
1. ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น หรือถ่ายทอดความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว
2. มีความล่าช้าในการปฏิสัมพันธ์
3. การมีส่วนร่วมน้อย โดยผู้เรียนไม่สามารถมีส่วนร่วมทุกคน
4. ความไม่พร้อมด้าน ซอฟแวร์ Software บางอย่างมีราคาแพง (ของจริง)
5. ใช้งานค่อนข้างยาก สำหรับผู้ไม่มีความรู้ด้าน ซอฟแวร์ Software
6. ผู้เรียนบางคนคิดว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะราคาอุปกรณ์ค่อนข้างสูง
7. ผู้เรียนต้องมีความรู้ ความเข้าใจด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
8. ผู้เรียนต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสูง ในการเรียนการสอนแบบนี้
9. ความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละคนเป็นอุปสรรคในการเรียนการสอนแบบผสมผสาน
10. สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมในการใช้เครือข่าย หรือระบบอินเทอร์เน็ต เกิดปัญหาด้านสัญญาณ
11. ขาดการปฏิสัมพันธ์แบบ face to faec (เรียลไทม์)



ความเห็น (1)

เห็นข้อความชุดนี้ในอนุทินหลายท่านเลยนะคะ น่าจะนำไปใส่เป็นบันทึกและมีการอ้างอิง น่าจะมีประโยชน์กว่าไหมคะ

พรทิพย์
เขียนเมื่อ

E1/E2   Model   for  Development  Testing  of  Media  and Multi-Media Instructional Packages

การทดสอบประสิทธิภาพสื่อและชุดการสอน ด้วย E1/E2 Model

โดย  ศ.ดร.ชัยยงค์   พรหมวงศ์


การกำหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพกระทำได้ โดยการประเมินผลพฤติกรรมของผู้เรียน 2 ประเภทคือ

พฤติกรรมต่อเนื่อง (กระบวนการ) กำหนด ค่าประสิทธิภาพเป็น     E1 =Efficiency of Process (ประสิทธิภาพของกระบวนการ) (Do the thing right=Efficiency)   และพฤติกรรมสุดท้าย (ผลลัพธ์) กำหนดค่าประสิทธิภาพเป็น  

E2 =Efficiency of Product (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์)  (Do the right thing=Effectiveness)     
การกำหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพ
1. ประเมินพฤติกรรมต่อเนื่อง (Transitional Behavior) คือประเมินผลต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วยพฤติกรรมย่อยของผู้เรียน เรียกว่า “กระบวนการ” (Process) ที่เกิดจากการประกอบกิจกรรมกลุ่ม ได้แก่ การทำโครงการ หรือทำรายงานเป็นกลุ่ม และรายงานบุคคล ได้แก่งานที่มอบหมาย และกิจกรรมอื่นใดที่ผู้สอนกำหนดไว้
2. ประเมินพฤติกรรมสุดท้าย (Terminal Behavior) คือประเมินผลลัพธ์ (Product) ของผู้เรียน โดยพิจารณาจากการสอบหลังเรียนและการสอบไล่

ประสิทธิภาพของสื่อหรือชุดการสอนจะกำหนดเป็นเกณฑ์ ที่ผู้สอนคาดหมายว่าผู้เรียนจะเปลี่ยน

พฤติกรรมเป็นที่พึงพอใจ โดยกำหนดให้ผลเฉลี่ยของคะแนนการทำงานและ การประกอบกิจกรรมของผู้เรียนทั้งหมด ต่อ ร้อยละของผลการประเมินหลังเรียนทั้งหมด
E1/E2 = ประสิทธิภาพของกระบวนการ/ประสิทธิภาพของผลลัพธ์
ตัวอย่าง
80/80 หมายความว่าเมื่อเรียนจากสื่อหรือชุดการสอนแล้ว ผู้เรียนจะสามารถทำแบบฝึกปฏิบัติ หรืองานได้ผลเฉลี่ย 80% และประเมินหลังเรียนและงานสุดท้ายได้ผลเฉลี่ย 80%
การที่จะกำหนดเกณฑ์ E1/E2 ให้มีค่าเท่าใดนั้น ให้ผู้สอนเป็นผู้พิจารณาตามความพอใจโดยพิจารณาพิสัยการเรียนที่จำแนกเป็น
วิทยพิสัย (Cognitive Domain)
จิตพิสัย (Affective Domain) และ
ทักษพิสัย (Skill Domain)
ในขอบข่ายวิทยพิสัย (เดิมเรียกว่า พุทธิพิสัย) เนื้อหาที่เป็นความรู้ความจำมักจะตั้งไว้สูงสุดแล้วลดต่ำลงมาคือ 90/90 85/85 80/80
คำว่า พุทธิ เป็นคำในพระพุทธศาสนา แปลว่า ความรู้แจ้ง ครอบคลุมทั้งความรู้ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมจึงมีความหมายใหญ่กว่าคำว่า Cognitive ที่หมายถึงความรู้ความจำ ความเข้าใจ การนำไปใช้ การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการประเมินตามแนวคิดของ Bloom’s Taxonomy ซึ่งตรงกับคำว่า “วิทยา” มากกว่า  จึงใช้ วิทยพิสัย แทน พุทธิพิสัย เป็นคำแปลของ Cognitive Domain ปัจจุบัน Bloom’s Taxonomy ได้เปลี่ยนไปจากเดิมคือ Knowledge, Comprehension, Application, Analysis, Synthesis, Evaluation  เป็น
Remembering, Understanding, Applying, Analyzing, Evaluating and Creating

วิธีการคำนวณหาประสิทธิภาพ

วิธีการคำนวณหาประสิทธิภาพ กระทำได้ 2 วิธี คือ โดยใช้สูตรและโดยการคำนวณธรรมดา

โดยใช้สูตร เมื่อ E1 คือ ประสิทธิภาพของกระบวนการ

วิธีการคำนวณหาประสิทธิภาพ E1
คือ คะแนนรวมของแบบฝึกปฏิบัติ กิจกรรมหรืองานที่ทำระหว่างเรียนทั้งที่เป็นกิจกรรมในห้องเรียน นอกห้องเรียนหรือออนไลน์    A คือ คะแนนเต็มของแบบฝึกปฏิบัติ ทุกชิ้นรวมกัน   N คือ จำนวนผู้เรียน
เมื่อ E2 คือ ประสิทธิภาพของผลลัพธ์

คือ คะแนนรวมของผลลัพธ์ของการประเมินหลังเรียน
B คือ คะแนนเต็มของการประเมินสุดท้ายของแต่ละหน่วย ประกอบด้วยผลการสอบหลังเรียนและคะแนนจากการประเมินงานสุดท้าย  N คือ จำนวนผู้เรียน

การตีความหมายผลการคำนวณค่า E1/E2หลังจากคำนวณหาค่า E1 และ E2 ได้แล้ว ผู้หาประสิทธิภาพต้องตีความหมายของผลลัพธ์โดยยึดหลักการและแนวทางดังนี้ความคลาดแคลื่อนของผลลัพธ์ ให้มีความคลาดเคลื่อนหรือความแปรปรวนของผลลัพธ์ ได้ไม่เกิน .05 (ร้อยละ 5) จากช่วงต่ำไปสูง= ±2.5 นั่นคือผลลัพธ์ของค่า E1 หรือ E2 ที่ถือว่า เป็นไปตามเกณฑ์ มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ ไม่เกิน 2.5% และสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ไม่เกิน 2.5%หากคะแนน E1 หรือ E2 ห่างกันเกิน 5% แสดงว่า กิจกรรมที่ให้นักเรียนทำกับการสอบหลังเรียนไม่สมดุลกันเช่น ค่า E1 มากกว่า E2 แสดงว่า งานที่มอบหมายอาจจะง่ายกว่า การสอบ หรือ หากค่า E1 มากกว่าค่า E2 แสดงว่า การสอบยากกว่าหรือไม่สมดุลกับงานที่มอบหมายให้ทำ จำเป็นที่จะต้องปรับแก้หากสื่อหรือชุดการสอนได้รับการออกแบบและพัฒนาอย่างดีมีคุณภาพ ค่า E1 และ E2 ที่คำนวณได้จากการทดสอบประสิทธิภาพ จะต้องใกล้เคียงกันและห่างกันไม่เกิน 5% ซึ่งเป็นตัวชี้ที่จะยืนยันได้ว่า นักเรียนได้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมต่อเนื่องตามลำดับขั้นหรือไม่ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนพฤติกรรมขั้นสุดท้าย หรืออีกนัยหนึ่งต้องประกันได้ว่านักเรียนมีความรู้จริง ไม่ใช่ทำกิจกรรมหรือทำสอบได้เพราะการเดา


ขั้นตอนการทดสอบประสิทธิภาพ 1:1
ก. การทดลอบประสิทธิภาพแบบเดี่ยว (1:1) เป็นการทดสอบประสิทธิภาพที่ผู้สอน 1 คนทดลอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอนกับผู้เรียน 1-3 คน โดยใช้เด็กอ่อน ปานกลาง และเด็กเก่ง ให้ดีขึ้น
คะแนนที่ได้ในขั้นนี้จะประมาณ 50-60%
ระหว่างทดลอบประสิทธิภาพ 1:1 ให้จับเวลาในการประกอบกิจกรรม สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนว่า หงุดหงิด ทำหน้าฉงน หรือทำท่าทางไม่เข้าใจหรือไม่ ประเมินการเรียนจากกระบวนการ คือกิจกรรมหรือภารกิจและงานที่มอบให้ทำและทดสอบหลังเรียน นำคะแนนมาคำนวณหาประสิทธิภาพ หากไม่ถึงเกณฑ์ต้องปรับปรุงเนื้อหาสาระ กิจกรรมระหว่างเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนให้ดีขึ้น
ขั้นตอนการทดสอบประสิทธิภาพ 1:10
ข. การทดลอบประสิทธิภาพแบบกลุ่ม (1 : 10) เป็นการทดสอบประสิทธิภาพที่ผู้สอน 1 คนทดลอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอนกับผู้เรียน 6 – 12 คน (คละผู้เรียนที่เก่ง ปานกลางกับอ่อน)
ระหว่างทดลอบประสิทธิภาพ 1:10 ให้จับเวลาในการประกอบกิจกรรม สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนว่า หงุดหงิด ทำหน้าฉงน หรือทำท่าทางไม่เข้าใจหรือไม่
หลังจากทดลอบประสิทธิภาพให้ประเมินการเรียนจากกระบวนการ คือกิจกรรมหรือภารกิจและงานที่มอบให้ทำและประเมินผลลัพธ์คือการทดสอบหลังเรียนและงานสุดท้ายที่มอบให้นักเรียนทำส่งก่อนสอบประจำหน่วยให้นำคะแนนมาคำนวณหาประสิทธิภาพ หากไม่ถึงเกณฑ์ต้องปรับปรุงเนื้อหาสาระ กิจกรรมระหว่างเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนให้ดีขึ้นคำนวณหาประสิทธิภาพแล้วปรับปรุง
ในคราวนี้คะแนนของผู้เรียนจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าเกณฑ์โดยเฉลี่ยจะห่างจากเกณฑ์ประมาณ 10% นั่นคือ E1/E2 ที่ได้จะมีค่าประมาณ 60-70%
ขั้นตอนการทดสอบประสิทธิภาพ 1:100
ค. การทดลอบประสิทธิภาพภาคสนาม (1 : 100) เป็นการทดสอบประสิทธิภาพที่ผู้สอน 1 คนทดลอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอนกับผู้เรียนทั้งชั้น (30 คนขึ้นไป แต่ไม่ต่ำกว่า 15 คน)
ระหว่างทดลอบประสิทธิภาพ 1:100 ให้จับเวลาในการประกอบกิจกรรม สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนว่า หงุดหงิด ทำหน้าฉงน หรือทำท่าทางไม่เข้าใจหรือไม่
หลังจากทดลอบประสิทธิภาพภาคสนามแล้ว ให้ประเมินการเรียนจากกระบวนการ คือกิจกรรมหรือภารกิจและงานที่มอบให้ทำและทดสอบหลังเรียน นำคะแนนมาคำนวณหาประสิทธิภาพ
หากไม่ถึงเกณฑ์ต้องปรับปรุงเนื้อหาสาระ กิจกรรมระหว่างเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนให้ดีขึ้น แล้วนำไปทดลอบประสิทธิภาพภาคสนามซ้ำกับนักเรียนต่างกลุ่ม อาจทดลอบประสิทธิภาพ 2-3 ครั้ง จนได้ค่าประสิทธิภาพถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ ปรกติไม่น่าจะทดลอบประสิทธิภาพเกณฑ์สามครั้ง ด้วยเหตุนี้ ขั้นทดลอบประสิทธิภาพ ภาคสนามจึงแทนด้วย 1:100
ปรกติให้ใช้กับผู้เรียน 30 คน แต่ในโรงเรียนขนาดเล็กอนุโลมให้ใช้กับนักเรียน 15 คนขึ้นไป
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลอบประสิทธิภาพภาคสนามควรใกล้เคียงกัน เกณฑ์ที่ตั้งไว้ หากต่ำจาก เกณฑ์ไม่เกิน 2.5% ก็ให้ยอมรับว่า สื่อหรือชุดการสอนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
หากค่าที่ได้ต่ำกว่าเกณฑ์มากกว่า -2.5 ให้ปรับปรุงและทดลอบประสิทธิภาพภาคสนามซ้ำ จนกว่าจะถึงเกณฑ์ จะหยุดปรับปรุงแล้วสรุปว่า ชุดการสอนไม่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้หรือจะลดเกณฑ์ลงเพราะ “ถอดใจ” หรือยอมแพ้ไม่ได้
หากสูงกว่าเกณฑ์ไม่เกิน +2.5 ก็ยอมรับว่า สื่อหรือชุดการสอนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
หากค่าที่ได้สูงกว่าเกณฑ์เกิน +2.5 ให้ปรับเกณฑ์ขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เช่น ตั้งไว้ 80/80 หาค่าได้ 83.40/86.25 ก็ให้ปรับขึ้นเป็น 85/85 หรือ หาค่าได้ 88.75/91.20 ก็ปรับเกณฑ์เป็น 90/90 ตามค่าประสิทธิภาพที่ทดลอบประสิทธิภาพได้
ตัวอย่าง เมื่อทดสอบหาประสิทธิภาพแล้วได้ 83.5/85.4 ก็แสดงว่าสื่อหรือชุดการสอนนั้นมีประสิทธิภาพ 83.5/85.4 ใกล้เคียงกับเกณฑ์ 85/85 ที่ตั้งไว้ แต่ ถ้าตั้งเกณฑ์ไว้ 75/75 เมื่อผลการทดลอบประสิทธิภาพเป็น 83.5/85.4 ก็ให้เลื่อนเกณฑ์ขึ้นมาเป็น 85/85
คำเตือน
1) ค่า E1/E2 เป็นค่าประสิทธิภาพของสื่อหรือชุดการสอนหรือบทเรียนแต่ละครั้ง ห้ามนำค่า E1/E2 มารวมกันแล้วรายงานเป็นค่า ค่า E1/E2 ของวิชาหรือกลุ่มสาระ
2) นักเรียนที่ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพแบบใดแบบหนึ่งมาแล้ว จะนำมาใช้ซ้ำอีกไม่ได้ หากปรากฏว่า มีการใช้นักเรียนคนเดิมหรือกลุ่มเดิมหรือว่า ผิด จะต้องทดลองใหม่
3) ห้ามทดสอบประสิทธิภาพกับนักเรียนที่เรียนเรื่องที่จะทดลองมาแล้ว
ข้อควรคำนึงในการทดลอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน
1) การเลือกผู้เรียนเข้าร่วมการทดลอบประสิทธิภาพ ควรเลือกนักเรียนที่เป็นตัวแทนของนักเรียนที่ใช้สื่อหรือชุดการสอน ตามแนวทางการสุ่มตัวอย่างที่ถูกต้อง
2) การเลือกเวลาและสถานที่ทดลอบประสิทธิภาพ ควรหาสถานที่และเวลาที่ปราศจากเสียงรบกวน ไม่ร้อนอบอ้าว และควรทดลอบประสิทธิภาพในเวลาที่นักเรียนไม่หิวกระหาย ไม่รีบร้อนกลับบ้าน หรือไม่ต้องพะวักพะวนไปเข้าเรียนในชั้นอื่น
3) การชี้แจงวัตถุประสงค์และวิธีการ ต้องชี้แจงให้นักเรียนทราบถึงวัตถุประสงค์ของการทดลอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอนและการจัดห้องเรียนแบบศูนย์การเรียน หากนักเรียนไม่คุ้นเคยกับวิธีการใช้สื่อหรือชุดการสอน
4) การรักษาสถานการณ์ตามความเป็นจริง สำหรับการทดลอบประสิทธิภาพสอนภาคสนามในชั้นเรียนจริง ต้องรักษาสภาพการณ์ให้เหมือนที่เป็นอยู่ในห้องเรียนทั่วไป เช่น ต้องใช้ครูเพียงคนเดียว ห้ามคนอื่นเข้าไปช่วย ผู้สังเกตการณ์ต้องอยู่ห่างๆ ไม่เข้าไปช่วยเหลือเด็ก ต้องปล่อยให้ครูผู้ทดลอบประสิทธิภาพสอนแก้ปัญหาด้วยเอง หากจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือก็ให้ครูผู้สอนเป็นผู้บอกให้เข้า ไปช่วย มิฉะนั้นการทดลอบประสิทธิภาพสอนก็ไม่สะท้อนสถานการณ์จริงที่มีคนสอนเพียงคนเดียว
การดำเนินการสอนตามขั้นตอน
ดำเนินการสอนตามขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการทดลงแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม และภาคสนาม หลังจากชี้แจงให้นักเรียนทราบเกี่ยวกับสื่อ ชุดการสอน และวิธีการสอน แล้ว ครูจะต้องดำเนินการสอนตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในแต่ละระบบการสอน
สำหรับการสอนแบบศูนย์การเรียน ดำเนินตามขั้นตอน 5 ขั้น คือ
1) ทดสอบก่อนเรียน
(2) นำเข้าสู่บทเรียน
(3) ให้นักเรียนทำกิจกรรม กลุ่ม
(4) สรุปบทเรียน (ครูสรุปเองหรือให้นักเรียนช่วยกันสรุปก็ได้ ทั้งนี้ต้องดูตามที่กำหนดไว้ในแผนการสอน) และ
(5) สอบหลังเรียน
– สำหรับการสอนแบบอิงประสบการณ์ มี 7 ขั้นตอน คือ
(1) ประเมินก่อนเผชิญประสบการณ์
(2) ปฐมนิเทศ
(3) เผชิญประสบการณ์หลัก ประสบการณ์รอง ตามภารกิจ และงานที่กำหนด
(4) รายงานความก้าวหน้าของการเผชิญประสบการณ์หลักและรอง (5) รายงานผลสุดท้าย
(6) สรุปการเผชิญประสบการณ์ และ
(7) ประเมินหลังเผชิญประสบการณ์
การสอนทางอิเล็กทรอนิกส์ อาจดำเนินตามขั้นตอน 7 ขั้น คือ(1) สอบก่อนเรียน
(2) ศึกษาประมวลการสอน แผนกิจกรรมและเส้นทางการเรียน
(Course Syllabus, Course Bulletin and Learning Route)
(3) ศึกษาเนื้อหาสาระทีกำหนดให้แบบออนไลน์บนเว็ปหรือออฟไลน์ ในซีดีหรือตำรา คือจากแหล่งความรู้ที่กำหนดให้
(4) ให้นักเรียนทำกิจกรรมเดี่ยว (Individual Assignment) และกิจกลุ่มร่วมมือ (Collaborative Group)
(5) ส่งงานที่มอบหมาย (Submission of Assignment)
(6) สรุปบทเรียน (ครูสรุปเอง หรือให้นักเรียนช่วยกันสรุปก็ได้ ทั้งนี้ต้องดูตามที่กำหนดไว้ในแผนการสอน) และ (7) สอบหลังเรียน
บทบาทของครูขณะทดลอบประสิทธิภาพ
1) ต้องคอยสังเกตและบันทึกพฤติกรรมของนักเรียนอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านักเรียนทำหน้าฉงนเงียบหรือสงสัยประการใด
2) สังเกตและปฏิสัมพันธ์ (Interactive Analysis) ของนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตปฏิบัติสัมพันธ์ที่มีผู้พัฒนาขึ้นแล้ว เช่น Flanders Interactive Analysis (FIA), Brown Interactive Analysis (BIA), Chaiyong Interactive Analysis (CIA)
พยายามรักษาสุขภาพจิต ไม่คาดหวังหรือเครียดกับความเหน็ดเหนื่อยที่ทุ่มเทในการผลิตชุดการสอน หรือเครียดกับการเกรงว่า ผล การทดสอบประสิทธิภาพจะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เกรงว่า จะไม่ได้รับความร่วมมือจากนักเรียน
4) สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ครูต้องเป็นกันเองกับนักเรียน เวลาสอบก่อนเรียน ยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างบรรยากาศที่นักเรียนจะแสดงออกเสรี ไม่ทำหน้าเคร่งขรึมจนนักเรียนกลัว
ต้องชี้แจงว่าการสอบครั้งนี้ไม่มีผลต่อการสอบไล่ปกติของนักเรียนแต่ประการใด
6) ปล่อยให้นักเรียนศึกษาและประกอบกิจกรรมจากสื่อหรือชุดการสอนตามธรรมชาติ โดยทำทีว่า ครูไม่ได้สนใจจับผิดนักเรียน ด้วยการทำทีทำงานหรืออ่านหนังสือ
7) หากสังเกตว่านักเรียนคนใดมีปัญหาระหว่างการทดสอบ อย่าให้ความสนใจเป็นพิเศษ แต่ให้บันทึกพฤติกรรมไว้เพื่อจำมาซักถามและพูดคุยกับนักเรียนในภายหลัง

 

บทบาทของครูภาคสนามกับนักเรียนทั้งชั้น
1) ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ ที่นำเสนอทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมาแล้ว
2) ครูต้องพยายามอธิบายประเด็นต่างๆ ที่ต้องการจะบอกนักเรียนอย่างชัดเจน
3) เมื่อบอกให้นักเรียนลงมือประกอบกิจกรรมแล้ว ครูต้องหยุดพูดเสียงดัง หากประสงค์จะประกาศอะไรต้องรอจนเปลี่ยนกลุ่ม หรือไปพูดกับนักเรียนคนนั้นหรือกลุ่มนั้น ด้วยเสียงที่พอได้ยินเฉพาะครู กับนักเรียนครูต้องไม่พูดมากโดยไม่จำเป็นขณะที่นักเรียนประกอบกิจกรรม ครูจะต้องเดินไปตามกลุ่มต่างๆ เพื่อสังเกตพัฒนาการของนักเรียนดูการทำงานของสมาชิกในกลุ่ม ความเป็นผู้นำผู้ตามและอาจให้ความช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มใดหรือคนใดที่มีปัญหา แต่ไม่ควรไปนั่งเฝ้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะจะทำให้นักเรียนอึดอัด เครียด หรือบางคนอาจแสดงพฤติกรรมเขื่องเพื่ออวดครูเมื่อจะให้นักเรียนเปลี่ยนกลุ่ม ครูควรชี้แจงให้นักเรียนเดินช้าๆ ไม่ต้องรีบเร่ง และให้หัวหน้าเก็บสื่อการสอนใส่ซองไว้ให้เรียบร้อยก่อนเปลี่ยนไปกลุ่มอื่นๆ ห้ามหยิบชินส่วนใดติดมือไป ยกเว้น “แบบฝึกปฏิบัติ” หรือ “กระดาษคำตอบ” ประจำตัวของนักเรียนเอง

การเปลี่ยนกลุ่มกระทำได้ 3 วิธี คือ

(1) เปลี่ยนพร้อมกันทุกกลุ่มหากทำกิจกรรมเสร็จพร้อมกัน

(2) กลุ่มใดเสร็จก่อน ให้ไปทำงานในกลุ่มสำรอง

(3) หากมี 2 กลุ่มทำเสร็จพร้อมกันก็ให้เปลี่ยนกันทันที
หลังจากการทดสอบประสิทธิภาพสิ้นสุดลง ขอให้แสดงความชื่นชมที่นักเรียนให้ความร่วมมือ และประสบความสำเร็จในการเรียนจาก สื่อหรือชุดการสอน
4) หากทำได้ ให้แจ้งผลการทดสอบหลังเรียนให้นักเรียนทราบเพื่อให้ประสบการณ์ที่เป็นความสำเร็จ



ความเห็น (1)

เห็นข้อความชุดนี้ในอนุทินหลายท่านเลยนะคะ น่าจะนำไปใส่เป็นบันทึกและมีการอ้างอิง น่าจะมีประโยชน์กว่าไหมคะ

พรทิพย์
เขียนเมื่อ

ชื่อผู้นำเสนอ : รังรอง วภักดิ์เพชร ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ข้อดี :
ข้อปรับปรุง : ตัวหนังสือเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น สีตัวหนังสือให้ตัดกับสีพื้นหลัง ไม่ควรแทรกภาพที่ไม่เกี่ยวข้อง เนื้อหาเยอะเกินไป
ข้อเสนอแนะ : สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 1 2.สีตัวอักษร 2 3.การออกแบบพื้นหลัง 2 4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2 5.เสียงประกอบ 1 6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1 9.สรุปผลการประเมิน 2

[email protected]

ชื่อผู้นำเสนอ : ไพฑูรย์ เขียวรัตน์ ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมตามแนวไตรสิกขาเพื่อเสริมสร้างความมีวินัยในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ข้อดี :
ข้อปรับปรุง : แทรกภาพไม่เหมาะสม ฉากหลังเด่นกว่าตัวหนังสือ ข้อเสนอแนะ : สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2 1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2 2.สีตัวอักษร 3 3.การออกแบบพื้นหลัง 2 4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 3 5.เสียงประกอบ 1 6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 2 9.สรุปผลการประเมิน 2 ชื่อผู้นำเสนอ : นางดาระณี ภูนิคม ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาการคิดและการทำโครงงาน ข้อดี : ตัวหนังสือชัดเจน ขนาดเหมาะสม ข้อปรับปรุง : ข้อเสนอแนะ : สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3 2.สีตัวอักษร 2 3.การออกแบบพื้นหลัง 2 4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2 5.เสียงประกอบ 1 6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 2 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : สว่าง พิมพิชัย ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เกษตรอินทรีย์กับวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ข้อดี : ตัวหนังสือชัดเจน ข้อปรับปรุง : ควรนำเสนอให้ตัวหนังสือเข้ามาพร้อมกัน ไม่ต้องรอ ข้อเสนอแนะ : สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3 2.สีตัวอักษร 3 3.การออกแบบพื้นหลัง 2 4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2 5.เสียงประกอบ 1 6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 2 9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : นางสาวธัญญรัตน์ แสนคำ ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการเรียนจากวีดีทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์กับการสอนปกติ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี ข้อดี : ตัวหนังสือขนาดเหมาะสม ข้อปรับปรุง : พื้นหลังควรใช้แบบเดียวกัน แทรกภาพไม่เหมาะสม ข้อเสนอแนะ : สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) :

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3 2.สีตัวอักษร 3 3.การออกแบบพื้นหลัง 2 4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2 5.เสียงประกอบ 1 6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3 7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 2 9.สรุปผลการประเมิน 2



ความเห็น (9)

ชื่อผู้นำเสนอ : ดวงฤดี แก้วเสถียร

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : ผลของการใช้ผังกราฟฟิกในการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการนำเสนอข้อความรู้ด้วยผังกราฟฟิกและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

ข้อดี : พูดช้า ฟังง่าย

ข้อปรับปรุง : ตัวหนังสือเล็กไป ฉากหลังกับตัวหนังสือค่อนข้างจะกลมกลืนในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 1

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : สุภาภรณ์ น้อยทรงค์

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนบ้านโพนสวรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 3

ข้อดี : พูดช้า ฟังง่าย

ข้อปรับปรุง : ฉากหลังกับตัวหนังสือค่อนข้างจะกลมกลืนในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : ปราณี กุลมิน

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์

ข้อดี : พูดชัดเจน ฟังง่าย ตัวหนังสือดูง่าย

ข้อปรับปรุง :

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 3

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 3

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 3

ชื่อผู้นำเสนอ : นางอรัญญา ช่วยวัฒนะ

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาการอ่านและการเขียนแจกลูกสะกดคำกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั่้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ

ข้อดี : พูดชัดเจน

ข้อปรับปรุง : ตัวหนังสือเล็กในบางเฟรม ฉากหลังกับตัวหนังสือค่อนข้างกลมกลืน ในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : นางกุลกนก เสียงล้ำ

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ข้อดี : ตัวหนังสือชัดเจน

ข้อปรับปรุง : เฟรมหลากหลาย ไม่เป็นแบบเดียวกัน ตัวหนังสือเล็ก

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : นางดุษฎี เหลาแหลม

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบปกติกับการจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศทางการเรียนจากการสืบเสาะหาความรู้

ข้อดี :

ข้อปรับปรุง : ตัวหนังสือเยอะเกินไปจนล้นเฟรม

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 2

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 2

ชื่อผู้นำเสนอ : นางสาวศิราณี กลางประพันธ์

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การฝึกปฏิบัติชุดการจัดการเรียนรู้ เพื่อปฏิบัติการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยใช้อัลกอริทึม สำหรับนักศึกษา สาขา

ข้อดี : ตัวหนังสือชัดเจน ดูง่าย

ข้อปรับปรุง : บางเฟรมฉากหลังกับตัวหนังสือกลมกลืน อ่านลำบาก

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 3

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 3

3.การออกแบบพื้นหลัง 3

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน 3

ชื่อผู้นำเสนอ : นางวิลัยพร วรรณวิจิตร

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การฝึกบริหารจิตตามวิธีของโยคะที่มีต่อผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ในการวาดรูประบายสี ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ข้อดี :

ข้อปรับปรุง : สีตัวหนังสือกลมกลืนกับฉากหลังในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน

ชื่อผู้นำเสนอ : นางสาวพรพรรณ ศรีประสงค์

ชื่อเรื่องที่นำเสนอ : การพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องตรรกศาสตร์ ชั้้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค TAI

ข้อดี : ตัวหนังสือคมชัดดี

ข้อปรับปรุง : ตัวหนังสือเล็กเกินไป เบลอในบางเฟรม

ข้อเสนอแนะ :

สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม ( น้อย 1) (ปานกลาง 2) ( มาก 3) : 2

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 3

2.สีตัวอักษร 2

3.การออกแบบพื้นหลัง 2

4.ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหว 2

5.เสียงประกอบ 1

6.เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า 3

7.วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการพูดการออกเสียงเหมาะสม 3

8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ 1

9.สรุปผลการประเมิน

พรทิพย์
เขียนเมื่อ

ชื่อผู้นำเสนอ ชื่อเรื่องที่นำเสนอ ข้อดี ข้อปรับปรุง ข้อเสนอแนะ สรุปผลการประเมิน ระดับ น้อย (1) ปานกลาง (2) มาก (3)

1.ขนาดตัวอักษรเหมาะสม 2.สีตัวอักษร 3.การออกแบบพื้นหลัง 4.ภาพประกอบ 5.เสียงประกอบ 6.เทคนิคการเคล่ือนไหวระหว่างประโยค 7.วิธีการนำเสนอ powerpoint 8.เทคนิคพิเศษอื่นๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท