เป็นธรรมดาของการทำงานที่จะต้องประสบกับความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคคละเคล้ากันไป ในขณะนี้ทางเครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปางก็กำลังประสบอยู่ แม้ว่าเครือข่ายฯจะมองว่าเป็นปัญหา แต่ถ้ามองอีกแง่มุมหนึ่ง เราคิดว่าเป็นความสำเร็จนะ เพราะสิ่งที่เครือข่ายฯคิดว่าเป็นปัญหาในขณะนี้กำลังจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น พรุ่งนี้จะเป็นวันประชุมใหญ่เครือข่ายฯประจำเดือนธันวาคมที่วัดนาก่วมใต้ คุณสามารถ ในฐานะประธานเครือข่ายฯ โดยปกติแล้วจะนั่งที่หัวโต๊ะเพื่อเป็นประธานในการประชุม แต่ในวันพรุ่งนี้เรา (นักวิจัย) จะเป็นประธานแทน (ฝึกเอาไว้ไม่เสียหลาย) เพราะคุณสามารถไม่อยู่จึงได้มอบหมายให้เราเป็นผู้จัดการตั้งแต่วันที่ไปคุยกันที่บ้านคุณสามารถแล้ว พอเรารู้ว่าต้องเป็นประธานแทน เราได้บอกกับคุณสามารถว่าเราจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงปัญหาของเครือข่ายฯนะ จะไม่ไล่เบี้ยใคร เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นคนนอก และอาจยังไม่เข้าใจปรัชญา แนวคิด การดำเนินงานของเครือข่ายดีพอ แต่เราจะพูดถึงเกี่ยวกับงานจัดการความรู้ที่จะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คณะกรรมการเห็นความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมให้มากที่สุด เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาเราคิดว่าบทบาทของการจัดการความรู้ส่วนใหญ่อยู่ที่นักวิจัยและคุณอำนวยซึ่งก็คือ คุณสามารถ แต่ต่อไปเราคิดว่าบทบาทหลักควรจะอยู่ที่คณะกรรมการและสมาชิก เหมือนกับที่เราเคยบอกเสมอว่าวันหนึ่งนักวิจัยก็ต้องออกไปจากชุมชนหรือกลุ่ม วันนี้เราเข้ามาเพื่อช่วยในเรื่องการเรียนรู้ การจัดการระบบการทำงาน เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ชาวบ้านเข้มแข็ง ให้เขายืนอยู่ด้วยตัวเองให้ได้
สำหรับประเด็นที่จะคุยกันในวันพรุ่งนี้นั้น ตอนนี้เราได้ตกลงกับรองประธานแล้วว่าจะแบ่งหน้าที่ในการดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่หนึ่ง รองประธานจะทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมในช่วงแรก โดยเนื้อหาในส่วนนี้จะเป็นการติดตามกองทุนต่างๆว่ามีการจัดระบบบัญชี ระบบการบริหารจัดการคืบหน้าไปแค่ไหน เพราะ ความจริงเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายที่เครือข่ายฯตกลงกันไว้ว่าแต่ละกลุ่มจะต้องเคลียร์บัญชีของกลุ่มให้เสร็จ นอกจากนั้นคงเป็นเรื่องทั่วไป เช่น การอนุมัติจ่ายเงินค่าทำศพ เรื่องการได้รับอนุมัติตำบลละแสนจาก พอช. เป็นต้น
ส่วนที่สอง นักวิจัยจะเป็นประธานในการประชุม โดยเนื้อหาในส่วนนี้จะประกอบไปด้วย การพูดคุยในเรื่องที่ทำการของเครือข่าย (ส่วนเรื่องค่าเฉลี่ยศพ ความจริงตั้งใจจะพูดด้วย แต่เห็นว่าอาจไม่เหมาะ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ประธานฯควรอยู่ในที่ประชุมด้วย ดังนั้น จึงยกยอดไปเดือนต่อไป) , เรื่องการเตรียมความพร้อมในการขยายสมาชิก (จะมีโครงการเตรียมความพร้อม 3 เดือน) , เรื่องการดำเนินการตำบลละแสน โดยภาพรวมแล้วคิดว่าจะเป็น 3 เรื่องนี้ โดยนักวิจัยจะพยายามกระตุ้นให้คณะกรรมการแสดงความคิดเห็นให้มากที่สุด เราอยากเห็นภาพใหม่ๆของการประชุม ที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้พูด ได้ระบายความอัดอั้นตันใจต่างๆ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าคณะกรรมการไม่ค่อยพูด มีแต่ประธานพูด (แม้แต่ประธานก็ยอมรับ)
ไม่มีความเห็น