ตอนแรกผมบรรยายายาวไปหน่อย แบบว่านึกจากหัวล้วนๆ ไม่ได้อ่านที่ไปเขียนมาเลย กลายเป็นการพิสูจน์ความจำล้วนๆ อิอิ ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายหลักในการเขียนเลย
มาเข้าเป้าดีกว่าครับว่าผมจับความรู้ว่าได้อะไรมั่ง (เปิดตำราแล้วขอรับ)
ช่วงตอบคำถามมหาสนุก
1. มีการดึงความรู้จากพนักงานอย่างไร
หลังจากจดเสร็จแล้วก็มีการส่งให้ผู้จัดการร้านดูครับ
เมื่อจบวัน(เวร) ถ้าอันไหนที่เห็นว่าสำคัญจะมีการส่งเรื่องต่อให้ผู้จัดการเขต ต่อไปยังสำนักงานใหญ่ต่ออีกทอด เรื่องที่เห็นว่าสามารถปฎิบัติได้จะถูกสั่งให้ปฏิบัติทุกสาขา ซึ่งผลกระทบจะกว้างมากเนื่องจาก 7-11 วันหนึ่งๆ จะมีลูกค้าเข้าวันละ 2 ล้านกว่าครั้ง (ฐานกว้างมาก ตัวคูณเยอะ) ถ้าลดค่าใช้จ่ายได้ครั้งละ 1 บาท วันหนึ่งๆ เขาก็ลดได้วันละ 2 ล้านแล้ว ลองคูณจำนวนวันดูสิครับ 1 ปีเขาจะลดได้ 730 ล้านบาทสำหรับ 1 ไอเดีย/1 บาท จากความเห็นพนักงานคนหนึ่งๆ ฟังแล้วน่าขนลุกนะครับ ลองคิดว่าถ้าพนักงานกว่า 40000 คนแต่ละคนมีไอเดียลดค่าใช้จ่ายคนละ 1 ไอเดียละ บรื๋อ....(ยังไม่นับไอเดียเพิ่มรายได้อีกนะขอรับ)
2. โครงสร้างทีมงานของเขามีการประยุดต์มาใช้แบบฉบับของตนเอง (อืม ฟังไม่ใช่คำถามเลย แต่ชั่งเถอะ) พูดง่ายๆ คือ COP นั่นเเหละ
เนื่องจากการสื่อสารศัพท์หลายอย่างเข้าใจยาก ทางเขาเลยรวมคำศัพท์ที่คิดว่าจะใช้มาเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่าย เช่น คำนี้ผมชอบมาก
"คุณสปอนเซอร์ (Sponsor)" = คุณเอื้อ
แล้วรวมหน้าที่ๆ จะต้องทำมาใส่ใหม่รวม 7 ข้อ อันนี้ผมเห็นแล้วปิ๊งมากๆ เพราะผมเองอ่านหนังสือ KM ฉบับนักปฎิบัติมายังงงไม่หายเพราะหน้าที่คุณเอื้อยาว 2 หน้ากระดาษ (หน้าที่ส่วนใหญ่งงนะสิ) มาถึงบางอ้อที่นี่เองว่า หน้าที่คุรเอื้อแต่ละที่ไม่เหมือนกัน เราเอาอันที่คิดว่าเราใช้มาก็พอ ซึ่งการระบุหน้าที่ของ 7-11 นั้นรวมๆ คือ
การสนับสนุนด้านต่างๆ ไม่ว่า ทุน+สถานที่ในการจัดอบรม, การลงมาพูดอบรมให้พนักงานฟัง(จะได้เห็นว่าข้างบนก็เล่นด้วยนะ-แน่นอนว่าเนื้อหาพี่ KM Promoter จัดให้)
"คุณเอ็กซ์เปิร์ต (KM Expert)" =....
อันนี้ 7-11 เขาวางตั้งกะต้นโดยเอาผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านออกมาเป็นผู้เชี่ยวชาญมา ซึ่งเขาแบ่งเป็น 15 สาขา 44 คน เช่น ฝ่ายเลขานุการ, การเงิน,และอื่นๆ ซึ่ง 1 ในนั้นก็มี KM promoter ด้วย
หน้าที่คือ ตรงกะชื่อเลบขอรับเป็นผู้เชี่ยวชาญ+คนให้บริการ(ไม่อยากบอกว่าเป้นคนใช้เลย อุ๊บ หลุดปากไปแย้ว)
การเลือก โดยการถามหน่วยงานนั้นๆ ว่าใครรู้เรื่องดีสุด+น่าถามสุด (มีนิสัยให้บริการ, มีทัศนคติเป็นผู้ให้-ความรู้ได้ตลอดเวลา,ยิ้มแย้มแจ่มใส,มนุษย์สัมพันธ์ดี,ไม่เป็นนักวิชากการจ๋า-ชอบให้คนมาถาม+เอาใจ) หลังจากได้รายชื่อมาก็ไปถามฝ่ายบริหารอีกทีแล้วดูว่ามีอันไหนตรงกันมั่งและคะแนนนำสุด ก็อัญเชิญมาเป็น KM Expert ซะ โดยบอกว่าคุณคือผู้ถูกเลือกจากทั้งด้านบน+ล่าง ยอให้ลอยนิดๆ แล้วเขาจะมาง่ายๆ อุๆ
ซึ่ง Expert เหล่านี้ต้องผ่านการฝึกอบรมและสอบ...ก่อนด้วย ฟังแล้วอึ้งมากๆ เพราะเขาทำตั้งกะปี 41 โดยเริ่มจากส่งผู้บริหารไป(ตาย)ก่อน แถมยุคนั้นเรื่อง KM มีแต่ Text ภาษาปะกิตทั้งหมด 555 โชคดีที่ผมมารู้จักหลังยุคนั้น เอิ้กๆ วัดผลโดยต้องผ่าน 70 % ขึ้นไป..(โหดจริงๆ ที่น่าตกใจคือ มีคนตกด้วยอะ)
แต่อย่าเพิ่งดีใจไป COP member เขาก็สอบด้วยเช่นกันเอา 75 % ....โดยการทยอยจัดส่งเป็นรุ่นๆ ไป เฮ่อ เขายกตัวอย่างรุ่นแรกๆ สอบ 40 ผ่าน 30 คนที่เหลือตกจ้า ฟังแล้วหนาว การอบรมนี้สำคัญมากนะขอรับเพราะเขาเน้นว่า KM ไม่ได้เป็นเรื่องโหดหินผาแต่เป็นโหดมันฮา
กล่าวคือ ทำแล้วสนุก
ซึ่งเขาจะถ่ายกิจกรรมเหล่านี้ที่ทำแล้วสนุก(ภาพขำๆ) มาให้คนได้ชมแล้วให้มีกำลังใจอยากทำ+ลดความกลัวในสิ่งใหม่ลง
รูปตรงนี้ผมไม่ได้ถ่ายมา (เร็วมากถ่ายมะทัน) แต่เห็นว่าโครงสร้างนี้น่าสนใจทำมากเพราะ เวลามีปัญหาต้องการหาทางออก KM Expert เหล่านี้จะเป็นคนที่ถูกเรียกหาได้ เป็นจุดเด่นของ 7-11 ที่ผมเห็นว่าวางโครงสร้างได้ชัดและแน่นดีมากครับ"คุณเลขา" = คุณลิขิต
เอ่อ ไม่ต้องอธิบายมากครับ มีหน้าที่จดทุกสิ่งทุกอย่าง แต่พี่เขาอธิบายว่า ทักษะการจดนี่ต้องฝึกครับ มีคอร์สฝึกให้ด้วย โอ้..มีทั้งคอร์สการจับใจความ,การจด,กระทั่ง mind map (ผมว่าอาจต้องจับฝึกคอม+ถ่ายรูปด้วยซ้ำ) ทำหน้าที่เบื้องหลังที่สำคัญมากๆ"คุณสมาชิก" = คุณกิจ
คนสุดท้ายและคนสำคัญสุดครับ
ไอเดียที่ได้จาก 7-11 ที่คิดจะนำมาใช้งานได้
1. ได้จากรูปภาพผ่านๆ+ห้องน้ำของ 7-11 ขอรับ
เนื่องจากแอร์เย็นจัด ข้าน้อยจึงเข้าห้องน้ำบ่อยได้เห็น แผ่นปฎิบัติงานของพนักงานทำความสะอาดและช่างซ่อมดูแลที่นั่น เจ็บใจที่แบตเตอรี่ถ่ายรูปหมด (เป็นบทเรียนให้พกแบตสำรอง)
เป็นกระดาษ A4 พับครั่งแสดงตารางเวลา+เช็คลิสต์ที่ต้องทำว่าต้องทำอะไรบ้าง เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากเพราะกระดาษแค่ใบเดียวจุข้อมูลได้ครบด้านมาก เริ่มจาก
จากความรู้ที่แอบเห็นนี้ทำให้ผมได้ไอเดียมาใช้กับห้องยาในครับ คือ
"แผ่นสิ่งต้องทำ (To Do List)" ซึ่งผมคิดไว้หลายแบบแล้วแต่ต้องทดลองทีละอัน ถเทแล้วเวิร์คน่าจะได้ทำใบต่อๆ ไป เริ่มจาก
ข้อสุดท้ายอยากได้มากครับ เพราะหลายครั้งได้ฟังปัญหาแต่ด้วยการที่จดไม่ทัน (ทักษะการจดผมยังไม่ดีพอ) หรือหลายคนพูดจับใจความไม่ครบ ทำให้ไอเดียหลายอย่างหลุดไปอย่างน่าเสียดาย (ขาดคุณลิขิต/เลขาไป) หากทุกคนสามารถจดได้เองรวมทั้งพูดไป จดไปได้นี่ความฝันเลย(ทุกคนเป็นคุณลิขิต อย่างน้อยก็ลิขิตความคิดตนเองออกมา)
2. ในฐานะกรรมการ KM -อยากทำรายชื่อ (KM) Expert ครับ ก่อนหน้านี้ผมนึกคำพูดไม่ออกแต่ถ้าใช้คำนี้ก็ชัดเจนดี คือ ในสถาบันเราน่าจะทำโครงสร้างชัดเจนเลยว่าใครน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญและให้ข้อมูลด้านนั้นดีที่สุด เพื่อความสะดวกดีกว่าให้คนต้องการหาข้อมูลไปงมกันเองขอรับ ส่วนโครงสร้างอื่นๆ ค่อนข้างชัดแล้วแต่หน้าที่แต่ละฝ่ายอยากมีลิสตืรายการออกมาเหมือนกันว่าเราทำอะไรบ้าง ไม่ต้องซีเรียสขอรับ เราจดสิ่งที่ทำก่อนจากนั้นเราค่อยๆ พัฒนาไป เพราะการจดทำให้เราเห็นสิ่งที่ขาดหรือสิ่งที่ดีในตัวเรา อะไรที่ยังไม่รุ้+ไม่ได้ทำก็ค่อยๆ ศึกษา เข้าทำนองปริยัต(เรียนรู้)บางส่วนแล้วปฎิบัติไปเรื่อยๆ อย่าปริยัติทีเดียว..แล้วปฎิบัติรวดเดียว...(ตายแห๋งๆ ผมคนแรกละ)
3. IT infrastructure เป็นอะไรที่ผมมองว่ายากมากแต่ 7-11 ดันทำได้
ผมเลยต้องมองว่าเราจะทำอะไรได้มั่ง
4. เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คล้ายข้อ 3. ครับคืออันบนแลกเปลี่ยนผ่าน IT
5...เขียนเรื่องส่วนรวมแล้วท่าจะยาว เดี๋ยวขอยกไปอีกหัวข้อดีกว่านะเนี่ย
เพิ่งมีโอกาสมาอ่าน เป็นบันทึกที่ยาว แต่อ่านสนุกครับ ได้ idia มิเสียแรงความเป็น เภสัชกร ที่มีนิสัยที่ต้อง ตรวจ เช็ค จนเป็นนิสัยถาวรกันอยู่แล้ว ที่สำคัญจันทร์เมามาย ตรวจสอบแบบมีมุมมองของความรู้ แล้วย้อนกลับมาทำกับงานตนเอง ชอบมากครับ มันดูมีความสุขดีครับ (โดยเฉพาะ เรื่องการเข้าห้องน้ำของคุณ)
ไปไหน มาไหน พกกล้อง(ที่มีแบต) ไปด้วย แล้วกลับมาเล่าอีกนะครับ สนุกมากครับ