ประวัติ ความเป็นมาของมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ(1/2)


พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช



"เศรษฐกิจของเราขึ้นอยู่กับการเกษตรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รายได้ของประเทศได้มาใช้สร้างความเจริญด้านต่าง ๆ เป็นรายได้จากการเกษตรส่วนใหญ่จึงอาจกล่าวได้ว่าความเจริญของประเทศต้อง อาศัยความเจริญของการเกษตรเป็นสำคัญ และงานทุกๆ ฝ่ายจะดำเนินก้าวหน้าไปได้ก็เพราะการเกษตรของเราเจริญ"

ประกอบ กับ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทโดยรับราชการใกล้ชิดพระองค์ท่าน ในหน่วยงานสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานคณะ กรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากประราชดำริ (กปร.) สำนักนายกมากว่า 16 ปี ได้สัมผัสชีวิตเกษตรกรในทั่วภูมิภาคของประเทศ ได้พบกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินทำกิน ความยากจน ความรู้ในเรื่องการเกษตร ตลอดจนปัญหาสุขภาพ การศึกษาและอื่นๆ กอรปกับได้ถวายการรับใช้พระองค์ท่านได้เห็นพระองค์ท่านทุ่มเทพระวรกาย กำลังพระราชทรัพย์ อีกทั้งเวลาส่วนใหญ่ กับการพัฒนาค้นคว้า และทดลองสิ่งต่างๆ ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการเลี่ยง สัตว์การปลูกพืช การทำนาข้าว การปรับปรุงดินและน้ำ การศึกษาการปลูกป่า พืชสมุนไพร การปลูกแฝก โรงสี และเทคโนโลยีชีวภาพ การวิจัยเรื่องพลังงาน และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งลงมือปฏิบัติการด้วยตัวพระองค์เอง ดังได้พระราชดำรัชกับกลุ่มชาวนาว่า

"ข้าพเจ้า มีโอกาสได้ศึกษา และทดลองทำนามาบ้าง และทราบดีว่าการทำนานั้น มีความยากลำบากเป็นอุปสรรคอยู่มิใช่น้อย จำเป็นต้องอาศัยพันธุ์ข้าวที่ดี และต้องใช้วิชาการต่างๆ ด้วยจึงจะได้ผลเป็นล่ำเป็นสัน อีกประการหนึ่ง ที่นานั้นเมื่อสิ้นฤดูทำนาแล้ว ควรจะปลูกพืชอื่นๆ บ้างเพราะจะเพิ่มรายได้อีกไม่น้อย ทั้งจะช่วยให้ดินร่วน ช่วยเพิ่มปุ๋ยกากพืช ทำให้ลักษณะเนื้อดินดีขึ้น เหมาะสำหรับจะทำนาในฤดูถัดไป "

พระองค์ท่าน ทรงเน้นให้เกษตรกรและประชาชนรู้จักพึ่งพาตนเอง จึงได้พระราชทานแนวคิดเรื่อง "ทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อเป็นหลักคิดให้กับทุกๆ คน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อ.วิวัฒน์ จึงได้รวบรวมกลุ่มคนในหลายๆ อาชีพ ที่มีแนวคิดแนวอุดมการณ์ในการที่จะฟื้นฟูประเทศ โดยการนำแนวิดเรื่องทฤฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ ให้ใช้กับการทำการเกษตร และการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งรณรงค์ให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมี หยุดพึ่งพาชาติตะวันตก หันกลับมาพึ่งพาตนเอง โดยใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดกันมาเพื่อเน้นการทำเกษตรที่ยั่งยืนบนแผ่นดิน ไทยจึงได้จัดตั้งเป็น "ชมรมกสิกรรมธรรมชาติไท" มาเป็นเวลากว่า 4 ปี


หมายเลขบันทึก: 98665เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2007 17:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
P

สวัสดีครับเพื่อน

  • ดีมากๆ เลยครับ ขอเป็นกำลังใจในการเดินเส้นทางนี้ เส้นทางแห่งความยั่งยืนและพอมีพอกิน พอใช้ พอใจ และเพียงพอ
  • คงมีโอกาสได้เจอกันอีกครับผม

สวยจังเรยง่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท