ธาราบำบัด…น้ำทิพย์แห่งชีวิต


ที่มา : หนังสือบันทึกคุณแม่ คอลัมน์ SCOOP หน้า 28 ฉบับที่ 94 พฤษภาคม 2544

กล้ามเนื้อซีกซ้ายอ่อนแรงทั้งซีกคล้ายคนเป็นอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากหลอดเลือดทางสมองพิการมาแต่กำเนิดของ “น้องเพื่อน” (นามสมมุติ) วัย 1 ขวบ 2 เดือน แต่คอยังพับและนั่งเองไม่ได้ คุณแม่จึงคิดหากิจกรรมให้ ทำเพ่อต้องการให้ลูกมีการเคลื่อนไหว โดยหวังแต่เพียงให้ลูกยืนและเดินได้เร็วขึ้น

กิจกรรมที่คุณแม่เลือกก็คือ “ว่ายน้ำ” หลังจาก 1 ปีผ่านไปปัจจุบันน้องเพื่อนอายุ 2 ขวบ 3 เดือน สามารถเกาะยืนด้วยตัวเองได้ กล้ามเนื้อมือจากที่เคยอ่อนแรง กลับหยิบจับสิ่งของได้มากขึ้น

“น้องป่าน” (นามสมมุติ) อายุ 1 ขวบ 2 เดือน คอพับ กล้ามเนื้อหลังไม่มีแรง นั่งไม่มั่นคง ไม่มีจุดศูนย์รวมของสายตา (เหมอนคนตาเหล่) อันเนื่องมาจากเป็นเด็กลุ่มอาการกาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) หลังจากที่คุณแม่พาน้องป่านไปว่ายน้ำ 15 ครั้ง ขาของน้องป่านเริ่มถีบตัวและมีลักษณะความพร้อมที่จะลกขึ้นยืน และทรงตัวในการยืนดีขึ้น นอกจากนั้นยัง มีพัฒนาการด้านสังคม เริ่มคุและส่งยิ้ม

“น้ำ” จึงไม่ใช่แค่ทรัพยากรธรรมชาติที่คนเรานำมาใช้อุปโภคและบริโภคเท่านั้น แต่น้ำมีคุณอนันต์มากมายต่อมนุษย์ เป็นได้แม้กระทั่งบำบัดรักษาโรคที่ไม่ธรรมดังเช่น น้องเพื่อน น้องป่าน ฯลฯ

คุณลองนึกย้อนดูจะเห็นว่ามนุษย์มีความผูกพันและสัมพันธ์กับน้ำมาตั้งแต่การปฏิสนธิ

น้ำเป็นผู้นำพาเอาเซลล์แห่งความรักจากผู้เป็นพ่อ โยงใยความรักถึงแม่ (จากการพบกันระหว่างสิ่งมีชีวิตเพศผู้และเพศเมีย มนุษย์เกิดขึ้นมาจากการเดินทางของน้ำอสุจิของเพศชายที่ไปบรรจบกับไข่ของเพศหญิง) ก่อเกิดเป็นมนุษย์ในครรภ์ และเราก็ได้อาศัยน้ำในครรภ์นี้ เป็นเกราะที่สำคัญในการปกป้องตนเองจากสิ่งกระทบภายนอก เพื่อหล่อเลี้ยงตัวเองในระหว่างการสร้างกระดูก สร้างเซลล์เนื้อเยื่อ เซลล์สมอง เนื้อและกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ จนสามารถเกิดครบเป็นองค์มนุษย์ได้ในที่สุด น้ำในครรภ์ที่ว่านี้ก็คือ “น้ำคร่ำ”

“น้ำคร่ำ” สระว่ายน้ำแห่งแรกของชีวิตก่อนทารกจะกำเนิดต้องเคยอยู่ภายในถุงน้ำคร่ำในครรภ์มารดา ที่มีอุณหภูมิประมาณ 37.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิร่างกายของคุณแม่เล็กน้อย เนื่องจากมีน้ำคร่ำที่อยู่รอบ ๆ ตัวเด็กในครรภ์ จะเป็นตัวลดแรงเสียดสีในช่องท้องกับตัวทารก เด็กจึงสามารถโตได้โดยไม่ถูกอะไรมาจำกัด และยังดิ้นไปมาได้ด้วย ที่สำคัญที่สุดน้ำคร่ำเป็นเครื่องป้องกันการกระเทือนได้เป็นอย่างดีทารกจึงปลอดภัยเมื่ออยู่ในครรภ์ นอกจากนั้นธรรมชาติได้สร้างให้ทารกได้รับการพัฒนาในระบบประสาทสัมผัสต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมที่จะใช้ระบบประสาทสัมผัสต่าง ๆ เหล่านั้นได้ เมื่อออกมาสู่โลกภายนอก

น้ำหนักตัวของทารกในระยะแรกจะน้อยและลอยอยู่ในน้ำคร่ำ จึงคล้ายอยู่ในสภาพสุญญากาศ ทำให้ทารกสามารถเคลื่อนไหวแขน ขาได้สะดวก เมื่อน้ำหนักตัวทารกมากขึ้นจะเริ่มจมลงสู่ฐานของมดลูก ทำให้เกิดการสัมผัสระหว่างผิวหนังของทารกกับผิวด้านในของมดลูก การสัมผัสดังกล่าจะเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของระบบประสาทสัมผัสรับความรู้สึก เสริมสร้างให้เกิดใยประสาทของการรับความรู้สึกมากขึ้น และแตกแขนงประสานกันมากขึ้น (การเคลื่อนไหวของน้ำคร่ำรอบ ๆ ตัวทารก เปรียบเหมือนมือแม่ที่คอยลูบไล้ทารก) เพื่อให้พร้อมที่จะใช้งานได้ในอนาคต

แม้เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ อันเป็นผลที่ทำให้เราต้องพรากจากน้ำในครรภ์ (น้ำที่ให้คุณประโยชน์แก่การสร้างและเติบโตของอวัยวะในร่างกาย และจุดเริ่มต้นของพัฒนาการ) แต่คุณประโยชน์ของน้ำ ยังมีความผูกพันกับมนุษย์เสมอ ไม่ได้หมดไปพร้อมกับการเกิดให้เหลือเพียง ดื่ม กิน อาบ อย่างที่คนส่วนใหญ่มองเห็นเท่านั้น แต่น้ำยังมีผลต่อการพัฒนาฟื้นฟูศักยภาพของมนุษย์ ให้สามารถฟื้นคืนกลับมาเป็นบุคคลที่สมบูรณ์อีกครั้งได้อีกด้วย

นั่นก็คือการพัฒนาศักยภาพมนุษย์จากการบำบัดด้วยน้ำ ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์และคล้ายเป็นเรื่องเหลือเชื่อในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเรื่องจริงที่ให้ความหวังแก่ลูกของหลาย ๆ ท่านเช่นที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ของน้องเพื่อน (นามสมมุติ) และคุณแม่ของน้องป่าน (นามสมมุติ) ดังที่กล่าวไปแล้ว

ธาราบำบัด…น้ำทิพย์แห่งการบำบัด

จากการศึกษาของ Skinner AT and Thomson AM. ในหนังสือ Physlologlcal and therapeutic effects of exercise in warm water และจากการศึกษาของ Lee MJ. Hydrotherapy ในหนังสือ Aid to Physiotherapy กล่าวถึงความสำคัญของน้ำในการช่วยมนุษย์ และผลที่ได้จากการออกกำลังกายในน้ำ โดยเกิดจากผลความร้อนของน้ำ กับการออกกำลังของกล้ามเนื้อในน้ำโดยตรง ดังนั้นจึงได้เกิดโครงการรักษาร่างกายด้วยน้ำ หรือที่เรียกว่าธาราบำบัดขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญของธาราบำบัดประกอบด้วย 2 ประการ คือ

    1. ความร้อนของน้ำ ที่อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 37 องศาเซลเซียส เท่ากับอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย และอุณหภูมิความร้อนเหมือนตอนที่เราเคยมีพัฒนาการต่าง ๆ เมื่อยู่ในน้ำคร่ำ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่เมื่อเราอาบน้ำอุ่นแล้วทำให้เกิดความรู้สึกสลายตัว
    2. การออกกำลังของกล้ามเนื้อในน้ำโดยกำหนดระยะเวลาที่อยู่ในน้ำประมาณ 20 นาที เพราะตามปกติมนุษย์ต้องอยู่บนบก จึงจะสามารถระบายสิ่งสกปรกจากรูขุมขน และระบายความร้อนออกมาในรูปของเหงื่อ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องระบายออกไป เพื่อให้ระบบการทำงานทั่วทั้งร่างกายอยู่ในภาวะปกติ

ประโยชน์ของน้ำต่อการบำบัด

ความร้อนของน้ำ จะช่วยให้เกิดความไวของระบบประสาทรับความรู้สึกรอบนอกลดลงจึงทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดของร่างกาย และอาการเกร็งลดลง ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายเป็นผลทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ทำให้การไหลเวียนเลือดบริเวณข้อและกล้ามเนื้อดีขึ้น นอกจากนั้นน้ำอุ่นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณรอบนอก ทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้นรวมถึงกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อด้วย

แรงลอยตัวของน้ำจะพยุงตัวเด็กให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น การทรงตัวดีขึ้นเพราะแรงลอยตัวในน้ำสามารถช่วยพยุงน้ำหนักของร่างกายได้ทั้งตัว ซึ่งไม่สามารถทำได้สะดวกบนบก เพราะการพยุงน้ำหนักของร่างกายบนบกมักเกิดแรงกดตามจุดต่าง ๆ ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและการเคลื่อนไหวถูกจำกัด ซึ่งต่างกับเมื่อร่างกายอยู่ในน้ำ น้ำหนักตัวเราจะลดลงตามหลักฟิสิกส์คือ ถ้าเราลอยตัวอยู่ในน้ำโดยโผล่เพียงศีรษะและคอ น้ำหนักตัวของผู้ป่วยจะลดลง 50% (คิดจากส่วนสูงของน้ำในสระธาราบำบัด 1.25 เมตร) ทำให้สามารถเคลื่อนไหวตัวในน้ำได้สะดวกกว่าอยู่บนบกที่มีแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งแรงกระทำต่อผู้ป่วยจะถูกหักล้างกับแรงลอยตัวของน้ำ ทำให้ขณะที่อยู่ในน้ำ ท่าออกกำลังบางท่าที่ผู้ป่วยทำไม่ได้บนบก ก็จะสามารถทำได้อย่างง่ายดายเมื่ออยู่ในน้ำ เนื่องจากแรงลอยตัวของน้ำนั้นเอง

ดังนั้นการออกกำลังในน้ำจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางระบบประสาท ซึ่งบางรายต้องการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น เด็กกลุ่ม อาการดาวน์ซินโดม (Down Syndrome) และการออกกำลังกายในน้ำทำให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวข้อไปพร้อม ๆ กันได้หลายทิศทางเป็นการสร้างความมั่นใจ การผ่อนคลายทางด้านจิตใจ และสร้างความภูมิใจให้แก่ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อน เพราะทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้สามารถขยับตัวไปมา โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร (ในน้ำ) ได้อีกครั้งหนึ่ง เกิดความหวังทั้งพลังกายและใจ ที่จะปรับปรุงศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น เป็นต้น

คุณรัชนก เหลืองแจ่ม นักกายภาพบำบัดแผนกธาราบำบัด โรงพยาบาลศิศรินทร์ กล่าวว่า การบำบัดด้วยน้ำ หรือธาราบำบัดเป็นความคิดของชาวอเมริกันเกี่ยวกับการพัฒนาเด็ก ซึ่งมีความเชื่อว่า การพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้านใดก็ตาม ถ้าได้พัฒนาแต่เล็ก ก็จะทำให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ฉะนั้นทางโรงพยาบาลจึงรับเด็กตั้งแต่อายุ 4 เดือนจนกระทั่งถึง 2 ปี ในเด็กปกติส่วนเด็กที่มีกลุ่มอาการจะรับโดยไม่ได้ระบุอายุ

เหตุที่เริ่มเมื่ออายุ 4 เดือน เพราะกล้ามเนื้อคอของเด็กเริ่มแข็ง สามารถชันคอและตั้งศีรษะได้ดีแล้ว และเริ่มมีพัฒนาการในการใช้กล้ามเนื้อมือ การว่ายน้ำจึงเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อมือ การว่ายน้ำจึงเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อได้ เพราะในน้ำมีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าบนบกแต่มีแรงดันของน้ำที่ช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหว และคล้ายสิ่งแวดล้อมเดียวกันกับเมื่อตอนที่เด็กอยู่ในครรภ์

ธาราบำบัดจึงเป็นเหมือนอาหารเสริมในการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อของเด็กให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นในเด็กปกติ และช่วยบำบัดในเด็กกลุ่มอาการต่าง ๆ เพราะในเด็กปกตินั้นก็มีพัฒนาการตามขั้นปกติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาเกี่ยวข้องแต่ความต้องการของผู้ปกครองที่ต้องการให้เด็กว่ายน้ำแต่เล็ก อาจเนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ความคุ้นเคยของเด็กกับน้ำที่เคยมีอยู่แต่เติมสูญเสียไป ซึ่งอาจเป็นจริงในข้อที่กล่าวเพราะความคุ้นเคยของเด็กต่อของเหลวยังคงอยู่แต่ความจริงในการรับรู้ของตัวเด็กเมื่ออยู่ในครรภ์เด็กไม่ได้รับรู้ด้วยว่าตัวเองอยู่ในน้ำอย่างที่ผู้ใหญ่รับรู้หรือเข้าใจ

คุณรัชนก เหลืองแจ่ม ยังได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของน้ำในการบำบัดว่า การพัฒนาเด็กปกติในน้ำหลังจากเด็กเกิด จะเป็นการพัฒนาในด้านสังคมมากกว่าจะเป็นเรื่องของพัฒนาการเด็กซึ่งจะแตกต่างจากเด็กกลุ่มอาการที่จะได้รับประโยชน์ในด้านการเร่งพัฒนาการด้วย โดยสามารถชี้แจงได้ดังนี้

ประโยชน์ของน้ำที่เด็กจะได้รับระหว่างเด็กปกติและเด็กกลุ่มอาการ

ประโยชน์จากธาราบำบัด

สิ่งที่เด็กทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับ

เด็กปกติ

เด็กกลุ่มอาการ

(มีผลทางการบำบัด)

การกระตุ้นพัฒนาการชั้นพื้นฐานของเด็ก

การสร้างและเชื่อมโยงความคุ้นเคย และกระตุ้นระบบการสัมผัสระหว่างเด็กกับน้ำเด็กได้ออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย

พัฒนาการก็ยังคงเป็นไปตามวัยแต่กล้ามเนื้อและกระดูกจะแข็งแรงเร็วขึ้น จึงอาจทำให้เด็กคลานหรือยืนได้เร็วกกว่าเด็กวัยเดียวกันเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงว่า เด็กจะฉลาดกว่าเด็กอื่น ๆ แต่อย่างไร

ช่วยฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง สามารถลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อต่อต่าง ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ และเพิ่มความสามารถในการทำงานของร่างกาย เช่น การเดินและการทรงตัว

สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก

1. ให้คุณได้มีเวลาเล่นกับ

ลูก (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นในน้ำ จึงเล่นกับลูกได้)

2. เมื่อเด็กทำไม่ได้ แต่เด็กจะรู้ว่าเขามีคุณที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

เป็นการสร้างความรักและความผูกพันระหว่างกันและกัน

เด็กมีความมั่นใจในตัวคุณ เพราะเด็กกลุ่มอาการมักขาดความเชื่อมั่นในตนเอง แต่เขาก็รู้ว่าคุณจะเป็นผู้ที่คอยให้กำลังใจเขา ทำให้เด็กกล้าที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย และออกกำลังมากขึ้น

 

ประโยชน์จากธาราบำบัด

สิ่งที่เด็กทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับ

เด็กปกติ

เด็กกลุ่มอาการ

(มีผลทางการบำบัด)

การกระตุ้นประสบการณ์ด้านสังคม(มีมนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่นนอกเหนือจากพ่อแม่)

เด็กกล้าที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นที่นอกเหนือจากคุณ เช่นครูฝึก เป็นต้น ทำให้ไม่เป็นเด็กขี้อายและกล้าแสดงออก

เข้ากับผู้อื่นในสังคมได้ง่าย

เด็กกลุ่มอาการมักปิดกั้นตนเองจากสังคม เช่น เด็กกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมจะเป็นเด็กขี้กลัว และตกใจง่าย การกระตุ้นประสบการณ์นี้จะทำให้เด็กปิดกั้นตนเองน้อยลงเป็นการสร้างความมั่นใจในตัวเองให้กับเด็ก ที่จะทำให้เด็กกล้าแสดงออกเหมือนเด็กปกติด้วย

อื่น ๆ

1. ทำให้ระบบการไหล

เวียนของเลือดสะดวก

2. ขจัดสิ่งสกปรกตามรูขุมขนออกไป

3. ช่วยลดความไวของปลายประสาทรับความรู้สึก ทำให้ให้เกิดความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ

   

ถึงกระนั้น เด็กที่มีกลุ่มอาการจำเป็นที่จะต้องได้รับการฝึกฝนด้านพัฒนาการโดยอาศัยการบำบัดในน้ำบ่อย ๆ เพราะถึงแม้ว่าเด็กจะออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ วันละประมาณ 20 นาที แต่เวลาที่เหลือเมื่ออยู่ที่บ้านคุณรัชนกแนะนำให้คุณแม่ช่วยกระตุ้นเด็กเมื่ออยู่ที่บ้านด้วยถ้าเป็นไปได้ โดยพาเด็กไปสระว่ายน้ำที่อื่นควบคู่กันไป (หรือฝึกให้ที่บ้าน แต่เด็กต้องอยู่ในที่ที่ยืนไม่ถึง เพื่อเน้นให้น้ำเป็นแรงพยุงตัวเด็กจะดีกว่าให้เด็กได้ยืนถึงพื้น การที่เด็กยืนไม่ถึงพื้นจะช่วยในเรื่องให้ร่างกายของเด็กได้เคลื่อนไหวให้มากที่สุดด้วย

ศาสตร์ของน้ำจึงเป็นเรื่องที่มีค่า และมีผลต่อชีวิตมนุษย์โดยตรง ไม่ว่าจะในเรื่องของการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน การบำบัดรักษาทางวิทยาศาสตร์ ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ทั้งสิ้น และท้ายที่สุดก็ไม่ควรละเลยที่จะกล่าวถึงน้ำที่เป็นเรื่องของนามธรรมที่จะพัฒนาศักยภาพชีวิตของมนุษย์ และสิ่งที่ไม่สามารถละเลยเช่นกัน นั่นก็คือน้ำใจที่เราคนในสังคมไทยควรมีให้แก่กันและกัน ไม่ว่าเขาจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ผิดปกติหรือไม่ก็ตาม การให้โอกาสช่วยเหลือแก่คนเหล่านี้เท่าที่จะทำได้ย่อมถือได้ว่าเป็นกุศลที่น่าสรรเสริญที่สุดค่ะ

หมายเลขบันทึก: 98303เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2007 14:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ คุณอธิษฐาน

  • ดิฉันเพิ่งมีโอกาสไปออกกำลังกายในสระน้ำอุ่นมา รู้สึกผ่อนคลายจริง ๆ
  • อ่านบันทึกนี้แล้ว ได้รับประโยชน์ที่นำไปบอกต่อได้มาก ขออนุญาตินำไปเผยแพร่นะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

ลูกชายดิฉันก็เป็นเด็กดาวซินโดมแต่เขามีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมเพราะดิฉันจะเข้าคลินิกเด็กพัฒนาการของโรงพยาบาลศูนย์ของรัฐยอมรับเมื่อรู้ว่าเขาเป็นดาวดูแลเขาอย่างใกล้ชิดทำตามที่คุณหมอแนะนำให้ความรักและความอบอุ่นเหมือนพี่ชายทั้งสองคนที่เป็นเด็กปกติ คลอดเขามาด้วยน้ำหนัก 3.5 กก. เป็นเด็กที่ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรงไม่มีโรคอื่นติดตัวมานอกจากอาการดาว ร่างกายเขาเหมือนเด็กปกติแต่พูดช้าเพราะ 3 ขวบแล้วเขาเรียกแม่ พ่อ ได้ ชื่อสัตว์เช่น วัว ปู ได้เป็นบางคำแต่ฉันไม่ย่อท้อหรอกค่ะฉันต้องสู้เพื่อลูก ฉันสอนลูกพูดที่บ้านด้วยทุกวันเมื่อกลับจากโรงเรียน(แม่เป็นครู) ตอนลูกอายุ 2 ขวบ 8 เดือนน้องเขาก็เข้าโรงเรียนศูนย์เลี้ยงเด็กครูเขาก็พูดให้ฟังว่าลูกชายรู้เรื่องทุกอย่างแต่ไม่พูด ทำตามที่ครูสอนให้หยิบให้จับ ให้รำ ให้ทำตามคำสั่งได้ทุกอย่าง ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่อีกหลาย ๆ คนที่ยังยอมรับลูกไม่ได้ ไม่ต้องตกใจอาการดาวไม่ได้เท่ากันทุกคน บางคนมีอาการน้อย บางคนมีอาการหนัก แต่เขาก็เกิดมาแล้วให้โอกาสลูกเถอะนะคะ เพราะเขาไม่มีความผิดอะไร เราเองต่างหากที่ไม่ป้องกัยตนเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท