ร้านอาหารจานด่วนเจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในหมู่เด็กและวัยรุ่น
วัยรุ่นแรกอย่างฉันก็ชอบเหมือนกันในบางโอกาส ถ้ามีเพื่อนกลุ่มใหญ่ไปด้วย เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็สนุกดี รู้สึกว่าได้ลดวัยลงหน่อย
ร้านประเภทนี้มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ต่างคนต่างคิดกลยุทธ์สารพัดออกมาใช้ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ กลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ใช้คือ รีฟิล (Refill) ซึ่งหมายถึง การเติมได้ไม่อั้น
รายการที่เป็นรีฟิลมีทั้ง “เครื่องดื่ม (Beverage)” และ “อาหาร (Food)” แต่ส่วนมากมักจะเป็นคำที่ใช้กับเครื่องดื่ม ถ้าเป็นอาหารจะใช้คำ All you can eat หรือ กินได้ไม่อั้น ซะมากกว่า
กติกาก็เหมือนๆกัน คือ ตราบใดที่อยู่ในร้าน ก็เชิญรับประทานได้ตามสบาย ใครกินน้อยกินมากก็จ่ายราคาเดียวกันตามที่ทางร้านกำหนดไว้ กินเสร็จแล้วไม่มีการนำอาหารติดตัวออกไปเด็ดขาด
เปิดบริการแบบนี้ได้ไม่นาน เจอพิษสงคนไทยตักมาแล้วกินไม่หมด เหลือทิ้งอย่างน่าเสียดาย บ่อยๆ เข้า หลายๆร้านก็เริ่มสอนมารยาทให้ลูกค้าแบบตรงไปตรงมาโดยการคิดเงินเพิ่มในส่วนที่กินเหลือ
การเติมไม่อั้นจะแตกต่างจากการกินได้ไม่อั้นตรงที่มีบริการจากพนักงาน ไม่ต้องเดินไปตักไปเติมเอง หมดเมื่อไหร่ก็แจ้งพนักงาน ซึ่งก็จะมาจัดการเติมให้ตามที่ต้องการ
ลูกค้าที่มาใช้บริการแบบเติมไม่อั้นและกินไม่อั้นนั้น มีพวกพฤติกรรมไม่งามที่เจ้าของกิจการรังเกียจนักหนาคือ ก้นกาว
บางคนนั่งเอ้อระเหยนานจนเกินพอดี บางทีมาเป็นกลุ่มแล้วสลับกันหายไปไหนก็ไม่รู้ พักใหญ่ๆก็กลับมานั่งกินต่อ เปลี่ยนให้อีกคนออกไป
บางกลุ่มจัดประชุมกันเลย คุยไปกินไป ไม่ต้องเช่าห้องประชุมที่ไหน สะดวกสบายดีทุกอย่าง
ร้านขายอาหารแบบนี้จึงแก้ปัญหาด้วยการกำหนดเวลาเปิดและปิดบริการเป็นช่วงๆ เพราะขืนเปิดตลอดวัน มีหวังเจ๊ง
ถ้าเกิดการนั่งนานจนทำให้ไม่มีโต๊ะไว้บริการลูกค้าใหม่ ทางร้านก็ต้องหาทางแก้ไขด้วยวิธีที่ไม่ทำให้เสียลูกค้า
ร้านแห่งหนึ่งใช้วิธีประกาศว่า ใครกินเสร็จแล้วชำระค่าอาหารในช่วงเวลาจากนี้ไป 15 นาทีจะมีของขวัญพิเศษให้ ปรากฏว่าลูกค้าหลายโต๊ะยินดีย้ายตัวเองออกไป ทำให้มีพื้นที่รองรับลูกค้าใหม่ได้
พฤติกรรมที่ไม่งามอีกอย่างที่พบเห็นบ่อยคือ โกงกิน
โกงกินคนละอย่างกับพวกที่เข้าไปบริหารบ้านเมืองนะคะ พวกนี้จะทำกันเป็นกลุ่ม เพราะคนแยะๆ ทำให้พนักงานไม่เห็นว่ากำลังโกงกินกันอยู่
ฉันพาหลานๆไปกินพิซซ่า ได้ที่นั่งหันหน้าไปยังวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มากัน 5 คน ได้ยินเสียงสั่งพิชช่าและรายการอาหารอื่นๆ ดังลั่นไปหมด
เมื่อพนักงานถามว่าจะรับเครื่องดื่มอะไร เสียงสั่งแบบธรรมดา 4 แบบรีฟิล 1 พร้อมกับพูดกับพนักงานทีเล่นทีจริงว่า มีอูฐสองโหนกมาตัวเดียว เรียกเสียงเฮจากเพื่อนๆ
ระหว่างที่กิน ก็เลยมีภาพชีวิตตรงหน้าให้สังเกตพฤติกรรมของหนุ่มสาวสมัยใหม่ไปด้วย ได้สำรวจวิธีการแต่งกาย กิริยาท่าทาง
พอมองไปถึงเรื่องมารยาทการกิน ตาหาเรื่องก็ดันเห็นว่าแก้วที่เป็น Refill นั้น มีหลายมือหยิบขึ้นมาดื่ม วนกันไปวนกันมา พอหมดแก้วก็ขอเติมใหม่
การรู้จักเคารพกฎกติกาและเคารพตัวเองของคนสมัยนี้หายไปไหนหมดนะ เฮ้อ!
อดคิดไม่ได้ว่าหนุ่มสาวอนาคตของชาติพวกนี้จะเติบโตขึ้นไป โกงกิน ของที่มูลค่ามากกว่านี้หรือเปล่าหนอ
นึกถึงเพื่อนคนหนึ่งเคยวิเคราะห์ให้ฟังว่า “เมืองไทยน่ะ อะไรๆก็ดีไปหมด เสียอย่างเดียวที่มีคนไทย ถึงไม่เจริญสักที” ตอนนั้นโกรธเพื่อนเป็นวรรคเป็นเวร เพราะฉันก็คนไทยเต็มขั้น
พอเห็นพฤติกรรมไม่งามที่สะท้อนออกมาเป็นภาพรวมของคนไทยหลายๆอย่างเข้า ชักจะโกรธเพื่อนไม่ลงแล้วแฮะ
ใครมีลูกมีหลานก็ช่วยๆกันอบรมหน่อยนะคะ อย่าให้เพาะนิสัยไม่ซื่อสัตย์ เอาเปรียบผู้อื่น แม้จะดูว่าเรื่องตรงนี้เล็กน้อยเต็มที
เติมไม่อั้นหรือกินไม่อั้นนั้น สำหรับหนึ่งอิ่มหนึ่งคนค่ะ
การรู้จักเคารพกฎกติกาและเคารพตัวเองของคนสมัยนี้หายไปไหนหมดนะ
ถอนหายใจด้วยคนค่ะ ที่แปลกคือ ทำไมพฤติกรรมแบบนี้จึงได้รับการยอมรับอย่างหน้าตาเฉยในกลุ่มว่าเป็นเรื่องที่เท่ห์และดี ดิฉันว่าค่านิยมโกงคนซึ่งๆ หน้าแล้วเขาจับไม่ได้ แบบที่ผู้ใหญ่ ผู้บริหารประเทศนักการเมือง ทำให้ดู กำลังเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายสำหรับเด็กรุ่นใหม่ค่ะ กลายเป็นว่ายิ่งโกงได้มากแล้วเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน (เพราะหน้าบางกว่า หรือคาดไม่ถึง) ยิ่งเป็นความเก่ง
เขาไม่ได้บอกว่าาให้รับประทานคนเเดียวแก้วเดียวป้าก็ไปเป็นเจ้าของแบรนเนมเองเลยครับบผมว่าความจริงแล้วไอ้คนที่โกงหรือไม่โกงอยูที่ตัวเราเองไม่ใช่อยู่ที่การกินน้ำrefillแล้วจะโกงนะครับอยู่ที่พ่อแม่ของเด็กและสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แก้วน้ำแก้วหนึ่งไม่ใช่กินน้ำเติมไม่อั้นคอมเมนนะครับอย่าหัวร้อน