ป้าเจี๊ยบ
น้อง พี่ อา ป้า ครู อาจารย์ คุณ นางสาว ดร. รศ. ฯลฯ รสสุคนธ์ โรส มกรมณี

เติมได้ไม่อั้น...แต่ต้องรู้จักอั้นกันบ้าง


จาก "เติมได้ไม่อั้น" ในนิตยสาร Gourmet & Cuisine

          ร้านอาหารจานด่วนเจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย   ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย   โดยเฉพาะในหมู่เด็กและวัยรุ่น

          วัยรุ่นแรกอย่างฉันก็ชอบเหมือนกันในบางโอกาส   ถ้ามีเพื่อนกลุ่มใหญ่ไปด้วย  เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็สนุกดี   รู้สึกว่าได้ลดวัยลงหน่อย 

          ร้านประเภทนี้มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง  ต่างคนต่างคิดกลยุทธ์สารพัดออกมาใช้ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ   กลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ใช้คือ รีฟิล (Refill)  ซึ่งหมายถึง การเติมได้ไม่อั้น  

          รายการที่เป็นรีฟิลมีทั้ง เครื่องดื่ม (Beverage)” และ อาหาร (Food)”   แต่ส่วนมากมักจะเป็นคำที่ใช้กับเครื่องดื่ม    ถ้าเป็นอาหารจะใช้คำ All you can eat  หรือ กินได้ไม่อั้น  ซะมากกว่า

          กติกาก็เหมือนๆกัน คือ ตราบใดที่อยู่ในร้าน  ก็เชิญรับประทานได้ตามสบาย   ใครกินน้อยกินมากก็จ่ายราคาเดียวกันตามที่ทางร้านกำหนดไว้    กินเสร็จแล้วไม่มีการนำอาหารติดตัวออกไปเด็ดขาด   

          เปิดบริการแบบนี้ได้ไม่นาน  เจอพิษสงคนไทยตักมาแล้วกินไม่หมด   เหลือทิ้งอย่างน่าเสียดาย    บ่อยๆ เข้า   หลายๆร้านก็เริ่มสอนมารยาทให้ลูกค้าแบบตรงไปตรงมาโดยการคิดเงินเพิ่มในส่วนที่กินเหลือ

          การเติมไม่อั้นจะแตกต่างจากการกินได้ไม่อั้นตรงที่มีบริการจากพนักงาน  ไม่ต้องเดินไปตักไปเติมเอ  หมดเมื่อไหร่ก็แจ้งพนักงาน   ซึ่งก็จะมาจัดการเติมให้ตามที่ต้องการ

          ลูกค้าที่มาใช้บริการแบบเติมไม่อั้นและกินไม่อั้นนั้น  มีพวกพฤติกรรมไม่งามที่เจ้าของกิจการรังเกียจนักหนาคือ ก้นกาว
         
บางคนนั่งเอ้อระเหยนานจนเกินพอดี   บางทีมาเป็นกลุ่มแล้วสลับกันหายไปไหนก็ไม่รู้  พักใหญ่ๆก็กลับมานั่งกินต่อ   เปลี่ยนให้อีกคนออกไป
         
บางกลุ่มจัดประชุมกันเลย  คุยไปกินไป  ไม่ต้องเช่าห้องประชุมที่ไหน  สะดวกสบายดีทุกอย่าง

          ร้านขายอาหารแบนี้จึงแก้ปัญหาด้วยการกำหนดเวลาเปิดและปิดบริการเป็นช่วงๆ เพราะขืนเปิดตลอดวัน  มีหวังเจ๊ง
         
ถ้าเกิดการนั่งนานจนทำให้ไม่มีโต๊ะไว้บริการลูกค้าใหม่   ทางร้านก็ต้องหาทางแก้ไขด้วยวิธีที่ไม่ทำให้เสียลูกค้า
         
ร้านแห่งหนึ่งใช้วิธีประกาศว่า  ใครกินเสร็จแล้วชำระค่าอาหารในช่วงเวลาจากนี้ไป 15 นาทีจะมีของขวัญพิเศษให้  ปรากฏว่าลูกค้าหลายโต๊ะยินดีย้ายตัวเองออกไป  ทำให้มีพื้นที่รองรับลูกค้าใหม่ได้

          พฤติกรรมที่ไม่งามอีกอย่างที่พบเห็นบ่อยคือ โกงกิน
         
กงกินคนละอย่างกับพวกที่เข้าไปบริหารบ้านเมืองนะคะ    พวกนี้จะทำกันเป็นกลุ่ม  เพราะคนแยะๆ ทำให้พนักงานไม่เห็นว่ากำลังโกงกินกันอยู่

          ฉันพาหลานๆไปกินพิซซ่า  ได้ที่นั่งหันหน้าไปยังวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มากัน 5 คน  ได้ยินเสียงสั่งพิชช่าและรายการอาหารอื่นๆ ดังลั่นไปหมด
         
เมื่อพนักงานถามว่าจะรับเครื่องดื่มอะไร  เสียงสั่งแบบธรรมดา 4  แบบรีฟิล 1  พร้อมกับพูดกับพนักงานทีเล่นทีจริงว่า มีอูฐสองโหนกมาตัวเดียว  เรียกเสียงเฮจากเพื่อนๆ

          ระหว่างที่กิน  ก็เลยมีภาพชีวิตตรงหน้าให้สังเกตพฤติกรรมของหนุ่มสาวสมัยใหม่ไปด้วย  ได้สำรวจวิธีการแต่งกาย  กิริยาท่าทาง
         
พอมองไปถึงเรื่องมารยาทการกิน   ตาหาเรื่องก็ดันเห็นว่าแก้วที่เป็น Refill นั้น   มีหลายมือหยิบขึ้นมาดื่ม    วนกันไปวนกันมา   พอหมดแก้วก็ขอเติมใหม่

          การรู้จักเคารพกฎกติกาและเคารพตัวเองของคนสมัยนี้หายไปไหนหมดนะ   เฮ้อ!

          อดคิดไม่ได้ว่าหนุ่มสาวอนาคตของชาติพวกนี้จะเติบโตขึ้นไป โกงกิน ของที่มูลค่ามากกว่านี้หรือเปล่าหนอ
         
นึกถึงเพื่อนคนหนึ่งเคยวิเคราะห์ให้ฟังว่า “เมืองไทยน่ะ  อะไรๆก็ดีไปหมด เสียอย่างเดียวที่มีคนไทย  ถึงไม่เจริญสักที”  ตอนนั้นโกรธเพื่อนเป็นวรรคเป็นเวร  เพราะฉันก็คนไทยเต็มขั้น
          พอ
เห็นพฤติกรรมไม่งามที่สะท้อนออกมาเป็นภาพรวมของคนไทยหลายๆอย่างเข้า ชักจะโกรธเพื่อนไม่ลงแล้วแฮะ

          ใครมีลูกมีหลานก็ช่วยๆกันอบรมหน่อยนะคะ   อย่าให้เพาะนิสัยไม่ซื่อสัตย์  เอาเปรียบผู้อื่น  แม้จะดูว่าเรื่องตรงนี้เล็กน้อยเต็มที

          เติมไม่อั้นหรือกินไม่อั้นนั้น  สำหรับหนึ่งอิ่มหนึ่งคนค่ะ  

      

หมายเลขบันทึก: 96939เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2007 01:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

การรู้จักเคารพกฎกติกาและเคารพตัวเองของคนสมัยนี้หายไปไหนหมดนะ  

ถอนหายใจด้วยคนค่ะ ที่แปลกคือ ทำไมพฤติกรรมแบบนี้จึงได้รับการยอมรับอย่างหน้าตาเฉยในกลุ่มว่าเป็นเรื่องที่เท่ห์และดี ดิฉันว่าค่านิยมโกงคนซึ่งๆ หน้าแล้วเขาจับไม่ได้ แบบที่ผู้ใหญ่ ผู้บริหารประเทศนักการเมือง ทำให้ดู กำลังเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายสำหรับเด็กรุ่นใหม่ค่ะ  กลายเป็นว่ายิ่งโกงได้มากแล้วเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน (เพราะหน้าบางกว่า หรือคาดไม่ถึง) ยิ่งเป็นความเก่ง

  • ป้าเจี๊ยบก็พยายามสอดแทรกเรื่องแบบนี้เวลาสอนนักศึกษาค่ะ คุณ กมลวัลย์  แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้คิดกันบ้างหรือเปล่า
  • ตอนนี้แก่ได้ที่แล้วค่ะ  เวลาเห็นอะไรไม่งามเลยกล้าประจันหน้าเจรจากับต้นเหตุมากกว่าสมัยสาวๆ  แม้กับคนที่ไม่รู้จัก  แต่ก็ต้องดูสภาพการณ์ให้ดีก่อน เพราะเรื่องแบบนี้ อาจเจ็บตัวฟรีได้...

เขาไม่ได้บอกว่าาให้รับประทานคนเเดียวแก้วเดียวป้าก็ไปเป็นเจ้าของแบรนเนมเองเลยครับบผมว่าความจริงแล้วไอ้คนที่โกงหรือไม่โกงอยูที่ตัวเราเองไม่ใช่อยู่ที่การกินน้ำrefillแล้วจะโกงนะครับอยู่ที่พ่อแม่ของเด็กและสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แก้วน้ำแก้วหนึ่งไม่ใช่กินน้ำเติมไม่อั้นคอมเมนนะครับอย่าหัวร้อน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท