ประชุมคณะทำงานสวัสดิการชมชน ที่ พอช.สนง.ปฏิบัติการภาคใต้
วันศุกร์ที่ผ่านมาไปประชุมคณะทำงานสวัสดิการชุมชนภาคใต้ ที่ห้องประชุมสำนักงานปฏิบัติการภาคใต้ จ.พัทลุง ได้ทราบถึงภาพรวมของการดำเนินงานในพื้นที่พัฒนาสวัสดิการชุมชนภาคใต้ซึ่ง ได้เริ่มดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการซึ่งมีฐานมาจากกองทุนต่างๆ แตกต่างกันไป มาตั้งแต่ปี 2547 ล่าสุดปี 2549 องค์กรการเงินชุมชนได้ขยายพื้นที่การทำงานออกไปรวมทั้งสิ้น 108 กองทุน (ข้อมูลจากสถาบันพัฒนาองค์กรการเงิน สำนักงานปฏิบัติการภาคใต้ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2550)และคาดการณ์ว่าปี 2550 จะมีการขายเพิ่มไม่น้อยกว่า 100 กองทุน จากนั้นก็เป็นการนำเสนอความคืบหน้าของการดำเนินงานของค์กรการเงินของแต่ละจังหวัดซึ่งจังหวัดที่ก้าวหน้ามากที่สุดตอนนี้ของภาคใต้ก็คือจังหวัดสงขลา และกลุ่มที่ต้องคอยจับตาเป็นพิเศษก็คือกลุ่มของ สาม จังหวัดชายแดนภาคใต้จากปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนแต่ก็มีความพยายามอย่างมากที่จะจัดตั้งองค์กรการเงินและระบบสวัสดิการชุมชนฝ่ากระแสความเสี่ยงและความไม่ปลอดภัยที่มีอยู่ โดยช่วงบ่ายของวันนั้นมีการทำ workshop โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยจากโจทย์ที่ว่า
"แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนงานสวัสดิการชุมชน3ปี(2550-2552) "
- การขยายผลให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด
- การยกระดับพัฒนาพื้นที่
- กลไกการขับเคลื่อนงานสวัสดิการชุมชน
ทั้งนี้ก็โดยให้คณะทำงานของจังหวัดต่างๆ แบ่งกลุ่มออกตามโซนพื้นที่ แล้วไปหารือกันเพื่อที่จะตอบโจทย์ที่วางไว้ ผ่านไปประมาณ 2 ชม.ก็มานำเสนอกันโดยภาพรวมของการนำเสนอก็ได้แก่ประเด็นเหล่านี้
- น่าจะมีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนโดยกำหนดช่วงเวลาที่จะมาพบกันตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
- มีการศึกษาดูงาน จากพื้นที่อื่นๆ
- ตั้งศูนย์เรียนรู้ขึ้นมาทุกจังหวัดเพื่อให้ความรู้เรื่องสวัสดิการแก่คนในพื้นที่
- ทำสื่อประชาสัมพันธ์ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จแล้ว เพื่อให้ใช้เป็นแนวทางให้กับกลุ่มอื่นๆ
- เพื่อให้เกิดกลไกการขับเคลื่อนจะต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้
- เชื่อมโยงกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เช่น อพม. อสม.
ทั้งหมดนี้ตัดตอนเอามาเพียงส่วนหนึ่งซึ่งก็เป็นภาพรวมของการประชุมวันนั้น ซึ่งจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์การประชุมวันนั้นได้หรือไม่นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการถ่ายทอดต่อและนำไปสู่การปฏิบัติการจริง ซึ่งเบื้องต้นนั้นทุกจังหวัดจะต้องส่งรายชื่อคณะกรรมการสนับสนุนการจัดสวัสดิการท้องถิ่นให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นและเป็นแนวทางเดียวกันก่อน ซึ่งความคืบหน้าเป็นอย่างไรนั้นคงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ
