วันแรกที่ไปถึงอิสตันบูล ขณะที่นั่งรถบัสเข้าเมืองเพื่อไปยังโรงแรมที่พัก ฝั่งขวามือของถนนจะเป็นชายทะเลทอดยาวโดยตลอดค่ะ ทิวทัศน์สองข้างทางชวนดูไปซะหมดเพราะภูมิทัศน์แปลกตากว่าเมืองต่างๆ ที่ป้าเจี๊ยบเคยไปเยือน
ทันใดนั้น..ตาก็ปะทะกับตลาดขายปลาทอดยาวเหยียด จนทนไม่ได้ต้องร้องขึ้นมาว่า “จะได้มาดูตลาดนี่มั๊ย” ถามไปยังงั้นเองเพราะรู้อยู่ว่าไม่มีในโปรแกรม แบบว่าหยั่งเสียงเพื่อนๆ เผื่อมีคนสนับสนุน..ได้ผลค่ะ ตลาดปลาที่เห็นมีอันได้รับเกียรติเพิ่มเข้ามาในรายการทัวร์อิสตันบูล ..ฮ่าๆ ๆ
ตลาดปลานี้อยู่ในในเขตกำกะปิ ป้าเจี๊ยบออกเสียงให้เข้ากับบรรยากาศจากชื่อที่เขียนว่า Kumkapi ค่ะ
กำกะปิเป็นชื่อเขต (District) หนึ่งของนครอิสตันบูล ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลมาร์มาราหรือทะเลหินอ่อน ทะเลนี้ตั้งชื่อตามเกาะกลางทะเลที่เป็นแหล่งผลิตหินอ่อนค่ะ
ในสมัยไบเซนไทน์ (Byzantine) เรียกกำกะปิว่า Kondoskali แปลว่าท่าเรือเล็กๆ กำกะปิจึงเป็นสถานที่ที่มีประวัติยาวนานเป็นร้อยปีมาแล้วในด้านการประมง
ปัจจุบันกำกะปิมีชื่อเสียงในเรื่องตลาดปลาและภัตตาคารอาหารทะเล จึงมีทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวแวะมารับประทานอาหารที่นี่กันมาก โดยเฉพาะตอนค่ำจะคึกคักและคึกครื้นเป็นพิเศษ
ปลาที่นำมาวางขายที่นี่มีวิธีแสดงความสดด้วยการ "โชว์เหงือก" ค่ะ ตอนที่เห็นไกลๆ ป้าเจี๊ยบยังสงสัยเลยว่าอะไรติดอยู่ที่ปลา เหงือกสีแดงมากเหมือนของปลอมเลย ป้าเจี๊ยบอดไม่ได้ต้องถ่ายรูปไว้ดู เพราะบ้านเราไม่โชว์ปลาที่ขายกันแบบนี้
ปลาที่ชอบมากคือปลาหูดค่ะ นี่ก็ตั้งชื่อเองอีกแล้ว ตัวใหญ่ประมาณฟุตหนึ่ง ตามลำตัวมีปุ่มปมเหมือนหูดขึ้นเต็มไปหมด ป้าเจี๊ยบคาดว่าต้องเป็นที่นิยมมาก เพราะมีร้านหนึ่ง ตกแต่งร้านด้วยรูปปลาชนิดนี้เรียงแถวเป็นแนวยาวเชียวค่ะ ดูไกลๆ นึกว่าปลาจริงทั้งหมด เข้าไปใกล้ถึงได้เห็นว่ามีของจริงอยู่ 4-5 ตัวเท่านั้น ป้าเจี๊ยบไม่มีเวลาสัมภาษณ์คนขาย เพราะมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่มากนัก ..ก็เที่ยวตลาดปลาเป็นรายการแถมนี่คะ
ที่ได้แถมก็เพราะ ฝั่งตรงข้ามกับตลาดปลาเป็นที่ตั้งของภัตตาคารจำนวนมาก ป้าเจี๊ยบกินอาหารกลางวันที่กำกะปินี่แหละค่ะ พอกินเสร็จก็เลยได้ชะแว้ป..
มื้อนี้มีขนมปังกับซุปซีฟู้ดหอมกรุ่นและรสกลมกล่อมมาก อร่อยจนกินเกลี้ยงชามเลยค่ะ คิดว่าน่าจะใช้น้ำสต็อกที่ทำจากกุ้งสีส้มๆ อย่างที่เห็นในตลาด
จานหลักเป็นปลาย่างค่ะ ถ้าจะเรียกกะบับปลาก็น่าจะได้ แต่ย่างแบบ Grill บนเตาถ่านเหมือนบ้านเรา ไม่ใช่แบบ Roast อย่างกะบับเนื้อแกะที่เล่าไปแล้ว
ตอนไปที่ตลาดปลาก็มีย่างขายด้วยเหมือนกันค่ะ ถ้าใครไม่อยากกินในภัตตาคาร ก็ซื้อได้ที่นี่ หน้าตาเหมือนๆ กัน เพียงแต่ไม่มีเครื่องเคียงให้
ปลาย่างของป้าเจี๊ยบเสริฟมาพร้อมกับข้าวผัดเนย 1 สกูป มะเขือเทศ 1 ชิ้น ร็อกเก็ตใบใหญ่มากๆ 4-5 ใบ กับเลมอน 1 ซีก ตอนแรกมองปลาในจานที่ยกมาเสริฟก็คิดว่างั้นๆ เพราะหน้าตาบอกว่าเป็นตระกูลแมคคาเรล...ปลาสามัญประจำบ้าน!
แต่พอตักเข้าปากคำแรก ก็รู้สึกได้เลยว่าปลาสดมาก ไม่มีกลิ่นคาวใดๆ และย่างได้พอเหมาะพอดี เนื้อปลาไม่แข็งกระด้าง สมกับที่มีชื่อเสียงด้านอาหารทะเล ปรุงได้นุ่มนวลและรสชาติดีจริงๆ เพราะป้าเจี๊ยบไม่ต้องเติมเครื่องปรุงรสอื่นใดอีกทั้งสิ้น ...ก็เกลี้ยงจานสิคะ
นี่ค่ะ..กำกะปิ..และอาหารมื้อกลางวัน
คุณหมอมาโนช แวะมาบอกป้าเจี๊ยบใน บันทึกอิสตันบูลตอนแรก มีข้อความตอนหนึ่งว่า “…Istanbul เป็นเมืองที่ผมไปแล้วชอบมากที่สุดเลย” แล้วถามว่า “…ป้าเจี๊ยบได้แวะที่ท่าเรือด้วยไหมครับ อาหารทะเลอร่อยและถูกมาก….” แถมเล่าว่าได้กินหอยกับปูตัวโตๆ ด้วย แต่ไม่ได้บอกชื่อท่าเรือให้ทราบ ป้าเจี๊ยบคิดว่าคุณหมอ “ไปกำกะปิ” มาแน่ๆ เลยค่ะ…
รูปสวยมาก เที่ยวไป กินไป ถ่ายรูปมาเผื่อแผ่เพื่อนๆ อีก
ขอบคุณค่ะ ป้าเจี๊ยบ
สงสัยว่าเขาต้องตัดกรามปลาออก
หรือ เขาหักคอปลารึเปล่าคะ
จึงเห็นเหงือกชัดอย่างนี้
ไม่ได้เห็นวิธีทำค่ะ อยากจะลองทำดูบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยซื้อปลาเป็นตัวๆ มากินสักที เลยยังไม่มีโอกาส : )
สวัสดีครับป้าเจี๊ยบ