รู้ธรรมเพื่อรู้ทาง ตอนที่ ๓ ปลายทางของความมั่งคั่ง


ทางก็มีแล้ว ผู้ชี้ทางก็มีอยู่นี่แล้ว ผู้ใดปรารถนาจะถึงปลายทาง ก็จงเพียรดำเนินไปสู่หนทางนั้น ด้วยตัวของท่านเอง

งานเรียบเรียงชุดนี้นะครับ ผมได้ศึกษามาจากพระไตรปิฎกที่ผมพอหามาศึกษาได้ ประกอบกับ
หนังสือเชิงธรรมมะของท่าน ว.วชิรเมธี
ที่มีจำหน่ายอยู่ตามแผงทั่วไป เรียนเชิญทุกท่านศึกษาเพื่อความปกติสุขของตัวท่านเอง

          ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะรู้จักคำว่า ทุนนิยม บริโภคนิยม วัตถุนิยม หลายคนในโลกใบนี้กำลังบ้าคลั่งกับการแสวงหาทรัพย์สมบัติ จนกลายสภาพจาก มนุษย์ผู้เป็นสัตว์ประเสริฐ ไปเป็น มนุษย์ผู้เป็นสัตว์เศรษฐกิจ คนบางคนใช้ชีวิตในแต่ละวันให้หมดไปกับการมุ่งแสวงหาความร่ำรวย มีความอยากมีอยากได้ ไม่รู้จักอิ่มจักพอ เห็นแก่ตัว ไม่มองคนรอบข้าง    ขาดการให้ทาน ขาดการอุ้มชูช่วยเหลือสังคมแลเพื่อนมนุษย์ ลืมกระทั่งคำว่าจริยธรรม

          ซึ่งเหตุเหล่านี้นะครับ ก็เป็นเหตุแห่งการทุจริตประพฤติมิชอบ การพนัน ความอิจฉา การเอารัดเอาเปรียบต่างๆ เพื่อนำทรัพย์ที่ได้ไปสนองกิเลสของตน ถามว่าคนจำพวกนี้มีมากน้อยแค่ไหน ผมเรียนเชิญท่านผู้อ่านพิจารณาเอาจากคนรอบข้างก็ดี สื่อต่างๆที่รายงานมาก็ดี หรือพิจารณาตนเองก็ดี พิจารณาแล้วก็สมควรพิจารณาคำสอนของพระพุทธองค์ประกอบ ทั้งนี้เพื่อรักษาความดี แลให้ความดีของท่านรักษาตัวของท่านเอง

กาลหนึ่งพระพุทธองค์ได้เทศนาไว้ ...  

อาตมาเห็นผู้คนที่มีทรัพย์ในโลก                       ได้ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแล้ว
ไม่ยอมให้(ใคร)เพราะความหวง                        ได้ทรัพย์แล้วเก็บสะสมไว้
และปรารถนากามคุณ (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) ยิ่งๆขึ้นไป

 พระราชาทรงกดขี่แย่งชิงเอาแผ่นดิน
ทรงครอบครองแผ่นดินซึ่งมีสมุทรสาครรอบล้อม
ตลอดสมุทรสาครฝั่งนี้ ยังไม่ทรงพอ
ยังปรารถนาจะครอบครองสมุทรสาครฝั่งโน้นอีก ...

ทั้งพระราชาและคนอื่นเป็นจำนวนมากยังไม่ปราศจากตัณหา
ก็เข้าถึงที่ตาย
ยังไม่เต็มตามที่ต้องการเลย ก็ละทิ้งร่างกายไป

เพราะความอิ่มด้วยกาม (สิ่งอันพึงปรารถนา) ไม่มีในโลก ...

หมู่ญาติพากันสยายผมคร่ำครวญถึงคนที่ตายนั้น
และพูดว่า
ทำอย่างไรหนอ พวกญาติของเราทั้งหลายจึงจะไม่ตาย

แต่ก็นำศพนั้นซึ่งห่อไว้แล้ว
ช่วยกันยกสู่เชิงตะกอน
แลช่วยกันเผา ละโภคทรัพย์มีแต่ผ้าผืนเดียว
 
เมื่อคนจะตาย ญาติ มิตร หรือ สหาย ก็ช่วยไม่ได้
ทายาททั้งหลายก็ขนทรัพย์สมบัติของเขาไป


                                                                  ส่วนสัตว์ที่ตายไปก็ย่อมไปตามกรรม 
                                                    บุตร ภรรยา ทรัพย์ ข้าวของเงินทอง ก็ติดตามไปไม่ได้
  
                                       ทรัพย์ช่วยคนให้มีอายุยืนไม่ได้ ทั้งช่วยให้คนละความแก่ก็ไม่ได้
                                                       นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตนั้นว่าน้อยนักไม่ยั่งยืน 
                        มีความแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
ทั้งคนมั่งมีและคนยากจนก็ย่อมประสบเช่นนั้น
                                                            ทั้งพาลและบัณฑิตก็ประสบเหมือนกันทั้งนั้น

คนพาลนั่นแหละถูกเหตุแห่งทุกข์กระทบเข้า
ย่อมหวั่นไหวเพราะความเป็นคนโง่
ส่วนบัณฑิตถูกกระทบเข้าก็ไม่หวั่นไหว
เพราะเหตุนั้นแล...

ปัญญาเท่านั้นเป็นเหตุบรรลุนิพพาน ซึ่งเป็นที่สุดแห่งภพในโลกนี้
ปัญญาจึงประเสริฐกว่าทรัพย์ ...
 

...................................

 

 

          การทำงานทำการมุ่งหน้าทำมาหากินนั้นก็ดี จะขึ้นสูงจะลงต่ำนั้นก็ดี เป็นการมุ่งไปในทางข้างหน้า แต่สุดท้ายแล้วถนนของแต่ละท่านย่อมมีวันสิ้นสุด ผมจึงอยากจะเตือนว่าระหว่างการเดินทางของชีวิตนั้น อย่าลืมสร้างบุญสร้างกุศล จะถือศีลก็ดี ทำทานก็ดี ตามโอกาสตามสมควร ทางที่ดีก็คือการทำงานนั้น ควรทำอย่างสุจริตเต็มความสามารถ เพื่อวันใดที่เราสิ้นลม กรรมดีที่เราสร้างมาจักเป็นทุนในการเดินทางไปยังที่ดีที่สูง   
ผมจึงเรียนขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน รักษาความดีของตนเองไว้ . . . จนวินาทีสุดท้าย

 

................................... 

สุดท้ายเรียนเชิญท่านผู้อ่านแสดงความคิดเห็น หรือขยายความในส่วนของบทความที่ยังบกพร่อง
ทั้งนี้เพื่อเป็นทานแก่ผู้ที่มาอ่านเอาความรู้ต่อไป
 

................................... 

บทความที่เกี่ยวข้อง   -  รู้ทางเพื่อรู้ธรรมตอนที่ ๑      การล้างบาปด้วยน้ำมนต์                    
                                      -  รู้ธรรมเพื่อรู้ทาง ตอนที่ ๒    คนโกรธที่ปรากฏอยู่ในโลก
 

.................................

 

 

หมายเลขบันทึก: 95368เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2007 13:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • เป็นบทความที่ดีและเห็นด้วยค่ะ แต่ญิกาว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคนในองค์กรของคุณบางคนนะค่ะ คุณน่าจะเอาบทความนี้และครั้งก่อนๆ ไปให้เขาดูบ้างนะค่ะ ญิกาว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ตัวของเขาเอง....
  • หวังว่าจะมีบทความดีๆอย่างนี้มาให้อ่านอีกนะค่ะ
  • ภาพประกอบสวยมากนะค่ะ...ถ่ายเองหรอค่ะ

                                                       ญิกา

เรียน คุณญิกา

  • องค์กรที่ว่านั้นคงหมายถึง องค์การนิสิต หรือ นิสิตสาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา หรือ อื่นๆ ไม่แน่ใจ
  • แต่ ... ธรรมะมีประโยชน์กับทุกคนรวมทั้งผู้เขียน หรือผู้อ่านเช่นคุณ การทำงานกิจกรรมของนิสิตในมหาวิทยาลัยนั้น แทบทั้งหมดจะเป็นการทำแบบจิตอาสา ที่ไม่มีค่าจ้าง ไม่มีอะไรตอบแทนในรูปวัตถุ
  • ดังนั้นหากจะมีอะไรผิดพลาดไปบ้าง ก็คงต้องมี เพราะการทำอะไรคงไม่มีใครสามารถทำให้คนหมู่มากสามารถพึงพอใจไปได้ทั้งหมด ทั้งนี้รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน ที่ไม่มีใครไม่เคยทะเลาะหรือผิดใจกับใคร
  • เจตนาของคุณญิกานั้นผมเข้าใจว่าดี อยากให้มีการพัฒนา ผมก็มีเจตนาเช่นกัน
  • หากมีอะไรแนะนำผมเกี่ยวกับการทำงานองค์การนิสิต หรืออื่นๆ เรียนเชิญแนะนำ หรือเห็นอะไรที่ไม่น่าพอใจ เรียนเชิญเสนอแนะได้ ประสบการณ์ตัวผมยังน้อย ยินดีรับรู้
  • ขอบคุณที่สนใจธรรมะ เพราะการคิดดีทีดี จะทำให้ความดีจักสร้างความดีรักษาตัวของท่านเอง

 

ปล.องค์การนิสิตชุดปัจจุบันนี้เป็นชุดใหม่ที่พึ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำงาน ขณะนี้กำลังเตรียมงานรับน้องมหาวิทยาลัยอยู่ ท่านใดมีข้อเสนอแนะเรียนเชิญครับ

เสริม

  • อยากจะฝากบอกอะไรใครเมล์มาบอกผมก็ได้ครับ แต่ผมไม่อยากให้นำตัวองค์กรมาผูกนะครับ เช่น "ไอ้ปืนที่อยู่องค์การฯมันทำอย่างนั้น" หรืออะไรต่างๆ
  • เพราะการกระทำของบุคคลในนามปัจเจกก็เรื่องหนึ่ง หรือจะทำในนามองค์กรก็เรื่องหนึ่ง
  • ใจดีใจสบาย ไร้จิตย่อมไร้ใจ ไร้ใจย่อมไร้ทุกข์
  • ขอบคุณครับ
จากแม่ /สพท.นนทบุรี เขต 2
แม่คิดว่า แม่ทำบุญมาด้วยอะไรหนอ จึงได้มีลูกที่มีจิตสำนึกดีอย่างปืน แม่อ่านบทความแล้วมีความสุขมาก ขอให้หนูมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนะลูกนะ

ขอขอบคุณ... คุณบีเวอร์

  • ก่อนอื่นขออนุโมทนา... สาธุ สาธุ สาธุก่อน
  • เท่าที่สังเกตมา... ตอนนี้บล็อกของคุณเป็นเลิศใน Go2know 2 เรื่อง
  1. มีการแสดงธรรมที่ตรงตามพระไตรปิฎก และมีการอ้างอิง (reference) ซึ่งต่อไปเรียนเสนอทำการอ้างอิงให้คล้ายกับการอ้างอิงทางวิชาการ เช่น ระบุปีที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ ฯลฯ เพื่อเป็นแบบอย่างสำหรับคนอื่นต่อไป
  2. ภาพประกอบอยู่ในระดับมืออาชีพ และเป็นภาพประกอบที่ดีที่สุดใน Go2know

ขอกล่าวสาธุการ... สาธุ สาธุ สาธุ

ตอบ คุณแม่

  • ขอบคุณ คุณแม่มากครับ ทราบว่าอ่านทุกบทความ
  • ยินดีครับ

ตอบ อาจารย์หมอวัลลภ

  • ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ จะนำไปปฏิบัติครับ
  • ผมเรียนด้านการผลิตสื่อ หากทำออกมาแล้วให้ผู้อื่นว่าได้ คงจะเสียชื่อผู้สอนและสถาบัน
  • จึงคิดว่างานใดใดแม้จะเล็กน้อยก็จะทำให้เต็มความรู้ความสามารถจึงจะสมศักศรี สมความรู้ที่ได้เรียนมา

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ

  • ขออนุโมทนาสาธุ!ด้วยคน
  • อย่างว่าแหละคนสมัยนี้ไม่รู้จักพอ ที่ไม่ใช้คำว่ามนุษย์เพราะว่ามนุษย์อาจคิดได้ดีกว่านี้
  • ที่บอกว่า"มนุษย์เป็นสัตว์เศรษฐกิจ"เลยนึกถึง พวกหมู พวกไก่ ที่เลี้ยงกันเป็นฟาร์มให้มนุษย์กิน ถ้าเกิดว่าถ้ามีคนทำฟาร์มมนุษย์ขึ้นมาก็คงจะสยองน่าดู
  • ป.ล.ภาพสุดท้ายแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าถนนหนทางข้างต้องมีสูงต่ำบ้าง ขึ้นอยู่กับหนทางที่เลือกเดิน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท