ผมใช้เวลาสามวันในการเตรียมเส้นใย ฟอก ย้อม ล้างสี ฟอกกาวทั้งหมดเป็นสารเคมี งานนี้เป็นการใช้เวลานานที่สุดที่ต่อเนื่องกันสามวัน หลังงานเสร็จและจะกลับขอนแก่น
ผมรู้สึกว่าตัวเองคันศรีษะอย่างแรง เหมือนคนไม่ได้อาบน้ำมาสิบปี คันมากจนคิดว่าตัวเองเป็นรังแค ตอนเย็นก่อนกลับขอนแก่นผมรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยมาก เหนื่อยจนอยากจะนอนพัก ผมล้มตัวนอนลงแม้จะเป็นตอนหกโมงเย็น ซึ่งโบราณห้ามนอนตอนนี้
ก่อนนอนผมรีบสระผมให้เรียบร้อย แต่อาหารคันศรีของผมก็ไม่หายไปและมีอาหารหน้าชาเล็กน้อย ผมคิดว่าคงเป็นเพราะแดด ความร้อนจากเตาหม้อฟอกย้อม และควันไฟ
ผมกลับมาขอนแก่น อาการผืนขึ้นที่หน้าก็ปรากฎและอาการคันเริ่มลามมาถึงบริเวณหน้าฝาก คิ้ว เปลือกตา ใบหน้ารู้สึกได้ว่ามันหนาขึ้นอย่างบอกไม่ถูก จนถึงวันนี้ผ่านไปเกือบถึงสัปดาห์อาการคันของผมยังไม่หายไป
ผมรู้ทันทีว่าไม่ใช่เพราะควันไฟและความร้อนจากหม้อฟอกย้อมหรอกแต่มันคือ สารเคมีที่พุ่งขึ้นมาจากหม้อฟอกย้อมนั้นเอง
ผมรีบโทรไปบอกอาการเหล่านี้กับแม่ทันที แม่เองเคยแพ้แต่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง และผมมั่นใจว่าช่างทอผ้าของผมส่วนใหญ่เกิดอาการแพ้สารเคมีเหล่านี้แต่ไม่ยอมบอกอาการให้ผมฟัง
หลังเสร็จทอผ้าชุดนี้ที่ย้อมแล้วนี่ ผมจะเลิกการใช้สารเคมีโดยเด็ดขาดและหันไปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงจากการทำงานของช่างทอ ชาวบ้านผู้น่าสงสารของผม และเลิกสนับสนุนช่างทอที่ทอด้วยสารเคมีเด็ดขาด อย่างน้อยก็เพื่อตัวเขาเอง
ท่านผู้บริโภคที่ใช้ผ้าเองก็น่าจะหันมาซื้อผ้าที่ปลอดสารเคมีกันมากขึ้นนะครับ เพราะหากเราลดการซื้อผ้าที่ใช้สารเคมีลง ชาวบ้านน่าจะผลิตผ้าย้อมเคมีน้อยลงและหันมาใช้สารธรรมชาติมากขึ้น
ผมมั่นใจว่าช่างทอผ้าของผมส่วนใหญ่เกิดอาการแพ้สารเคมีเหล่านี้แต่ไม่ยอมบอก
อาการให้ผมฟัง..................
......................................................อาการแพ้ เป็นแบบนี้
หรือ ....ไว้ พี่จะไปถาม ช่าง แถวบ้านบ้าง.....
สงสารคนย้อมผ้า....
พี่หน่อยที่คิดถึง