ชีวิตจริงของอินเทอร์น : ๔ เดือนกับงานจัดการความรู้


ในเดือนที่สี่นี้ตรงกับช่วงสิ้นปีการศึกษาซึ่งเป็นช่วงชุลมุนที่สุดของปี น่าชื่นชมที่ทีมงานจัดการความรู้ของช่วงชั้นอนุบาลได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยเทคนิค เรื่องเล่าเร้าพลัง กับคุณครูในช่วงชั้นอย่างสม่ำเสมอ และยังใช้การ AAR มาช่วยสรุปการทำงานในปีที่ผ่านมาด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้นคุณครูหัวหน้าช่วงชั้น และวิชาการช่วงชั้น ยังได้นำเอาหลักของสุนทรียสนทนาไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ปกครองที่มีความเห็นต่าง ให้เกิดการเปิดใจ และในที่สุดก็สามารถพูดคุยกันในบรรยากาศของกัลยาณมิตรที่มีการรับฟังกันอย่างลึกซึ้ง ที่ช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้จากการสนทนาครั้งนี้ 

งานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่เกิดขี้นในเดือนนี้คือ การจัดงานประชุมสัมมนาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๐ สำหรับครูและบุคลากรของโรงเรียนเพลินพัฒนา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ ๓ พฤษภาคม  ณ ที่พักสวัสดิการอ่าวมะนาว  กองบิน ๕ จ.ประจวบคีรีขันธ์  งานนี้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการปฏิบัติการโรงเรียน 

วัตถุประสงค์ของการจัดงานคือ ให้บุคลากร ๑๗๐ คน ได้ผ่อนคลายจากงาน และมีโอกาสได้รู้จักกันและกันให้มากขึ้น น้องใหม่ได้รับการสานต่ออุดมการณ์ และได้สัมผัสกับวัฒนธรรมการทำงานที่อาศัยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญ 

หลังจากเดินทางถึงที่พักแล้วกิจกรรมหลังอาหารเที่ยงคือ กิจกรรมฝึกสติแบบกายเลื่อนไหว แต่ใจนิ่ง ด้วยการกำกับสติด้วยบทเพลงประกอบการเคลื่อนไหวร่างกาย จากนั้นคุณครูก้า อาจารย์กรองทอง บุญประคอง ผู้อำนวยการโรงเรียน ก็มาพูดคุยถึงกติกาการอยู่ร่วมกันใน ๓ วันนี้  จากนั้นจึงเข้าสู่กิจกรรมการทำผ้ามัดย้อม 

กิจกรรมการทำผ้ามัดย้อม หรือกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า ย้อมรักมัดใจ เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้กลุ่มคนต่างวัยได้ทำงานร่วมกัน ได้ประสานความสัมพันธ์ ได้เรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกันผ่านการสร้างชิ้นงานศิลปะ ที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ และการจัดวางจังหวะที่พอเหมาะพอดี ที่ต้องอาศัยการจัดการความรู้เข้ามาเป็นตัวช่วยให้งานประสบความสำเร็จ  

กิจกรรมนี้สอนให้รู้จักกับการทำงานที่ไม่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่เริ่มจากความสำเร็จของคนที่เคยทำผ้ามัดย้อมมาแล้ว ครูแนน- ปัทมา และลูกสาว คือ Best Practice ที่ทำผ้ามัดย้อมได้สวย และรู้ขั้นตอน ตลอดจนเทคนิคการทำอย่างแม่นยำ  นำผลงานที่เคยทำมาให้ทุกคนชม แนะนำขั้นตอนการทำจนเข้าใจ  มีผู้ช่วยคือคนที่เคยทำมาบ้าง กระจายกันอยู่ตามกลุ่มต่างๆ 

เงื่อนไขมีอยู่ว่า กลุ่มคนที่จะมาทำผ้ามัดย้อม คือกลุ่มคนที่เข้ามาเริ่มงานในปีการศึกษาเดียวกัน สมาชิกคนหนึ่งจะได้ผ้ายาว ๑/๔ เมตร ฉะนั้นเมื่อจำนวนสมาชิกจึงไม่เท่ากัน  ความยาวของผ้าแต่ละผืนจึงไม่เท่ากันตามไปด้วย การออกแบบลายผ้าจึงเป็นไปตามความยาวของผ้า และการตกลงใจของสมาชิกในกลุ่มว่าสนใจจะสร้างลวดลายชนิดใด เมื่อมีข้อจำกัดทางด้านเทคนิคก็มาปรึกษาหารือกัน 

ในการย้อมผ้าต้องอาศัยเกลือมาเป็นตัวช่วยให้สีติดทน แต่ดิฉันตั้งใจจะไม่เตรียมเกลือมาด้วย เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้โอกาสลงไปตักน้ำทะเลมาใช้ เพื่อให้เกิดความทรงจำที่มีสภาพแวดล้อมของสถานที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ทำ   

หลังจากที่ผ้ามัดย้อมสีต่างๆแช่อยู่ในกาละมังมาแล้ว ๑ คืนก็ถึงเวลาคลี่ออกมา ทุกคนตื่นเต้นมาก เพราะผลงานที่เกิดขึ้นเป็นการทำงานร่วมกันของทุกคนในกลุ่ม ร่วมกับการแทรกตัวลงไปในเนื้อผ้าของสี ทีย้อมลงไปเพียงสีเดียว แต่ผลสุดท้ายแล้วเกิดเป็นสีแก่อ่อน ไปจนถึงขาว ในส่วนที่มีการกั้นสีไว้ด้วยรอยพับ ด้วยการมัด การปิดทับด้วยวัสดุต่างๆ  ที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการเตรียมผ้าก่อนนำไปย้อม 

ลายผ้าที่เกิดขึ้นสวยจนเราตะลึง ผ้าบางผืนสวยเหมือนมีใครวาดรูปดอกไม้ลงไป  อีกผืนสวยเหมือนฟองคลื่นในทะเล มีหลายผืนที่เกิดจากการพับและมัดอย่างประณีตจนเกิดเป็นลวดลายเรขาคณิตที่น่าทึ่ง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ชวนให้นึกถึงงานการสอนของครู ที่จริงๆแล้วเรารู้ไม่ได้มากนักว่า สิ่งที่เราสอน กิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้นจะไปเติบโตในตัวของผู้เรียนอย่างไร 

 

 

ผู้เป็นครูจึงตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นความงอกงามในตัวศิษย์ ที่เกิดขึ้นจากส่วนผสมผสานของวัสดุความรู้ที่ได้ไป และกลไกการสร้างความรู้เองที่มีอยู่ภายในตัวของผู้เรียนแต่ละคน    

หมายเลขบันทึก: 94567เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2007 19:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อย่างงี้ต้องโชว์รูปผลงานคะ... จะรอดูคะ

ขอบคุณค่ะคุณ น.เมืองสรวง  แต่เรื่องที่จ๋าจะให้แสดงผลงานให้ดูต้องขอไปปรึกษาครูส้มก่อนนะคะ

เอารูปสวยๆมาขึ้นให้ดูแล้วนะคะ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท