ดิฉั้นคิดถึงความไม่ประมาท...โรงพยาบาลสถานที่ซ่อมแซม...ร่างกาย(โรงซ่อมมนุษย์)........ดิฉั้นไม่ชอบไปโรงพยาบาลทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นเยี่ยมเยียนผู้ป่วย...ไปรักษาเอง ไม่ชอบมากๆจนเลี่ยงที่จะไป ไม่ชอบไปหาหมอ...ลูกๆก็เลี่ยงการพบเจอบรรยากาศ..ที่ไม่เบิกบานมองทางไหนก็....
คราหนึ่งที่ต้องดูแล คุณพ่อ....ที่ป่วยยาวนาน...ดิฉั้นเดินเข้าออกโรงพยาบาลทุกวัน...เป็นเวลาหลายปี ....มองเห็น...เกิด...แก่....เจ็บ..เจ็บ...เจ็บ.....แต่ยังไม่เคยเห็น...ตาย....ซึ่งน่าทรมานยิ่งกว่าการตายไปเลย...ดิฉั้นคิดเช่นนั้น......พร้อมๆกันนั้นนึกเห็นใจแล...คุณหมอ..คุณพยาบาล...และคุณคนอื่นๆที่ทำงานที่โรงพยาบาลที่ต้องทำงานหนัก...คอยเพราะความประมาทของพวกเราๆ....
แต่กระนั้นในชีวิตจริงก็เลี่ยงไม่ได้ที่เราต้องไป....เมื่อต้องไปโรงพยาบาลก็มองดูเพื่อเป็นการเตือนตนให้นึกถึงการเป็นอยู่โดยไม่ประมาท...เพราะหากเจ็บแล้วเราต้องมาที่นี่....สู้เราขับรถอย่างระมัดระวัง...นั่ง ยืน...เดิน....วิ่ง....ออกกำลังกายเป็นประจำจะเป็นการป้องกันการไปสู่ที่ไม่ชอบ(ร.พ.)ได้ทางหนึ่ง....
สองสามวันก่อนดิฉั้นไปหาเพื่อน ที่ทำงานที่โรงพยาบาลวันนั้นดิฉั้นไปเจอกับศพแบบแทบจะสบตากันจึงห้ามตาไว้อย่ามอง...อย่ามอง....อย่ามอง....แต่กลิ่นนี่สิห้ามไม่ได้อบอวล...ชวนอาเจียน....สุดจะบรรยาย...สองจิตสองใจใจหนึ่งรีบจ้ำเดินออกไปให้ไกลโดยเร็ว....อีกใจก็บอกตัวเองว่าน่าจะใช้โอกาสนี้ในการพิจารณาสังขาร....ยามรัก...ยามตาย....ความสวยงาม....กับยามสิ้นลมหายใจ......
เรียนท่านพี่เมตตา พาสุขใจ
ไปโรงพยาบาล ต้อง "ทำใจ" ครับ
ตกลง เรา 2 คน ก็เลยอ๊วกกันตรงนั้นเลยใช่ไหมค่ะ
อ้อ ยังพูดเล่น ๆ กับคุณเมตตาเลยว่า "นี่ถ้าคนมีแฟนทำหน้าที่อยู่ที่ห้องดับจิตนี้ เวลาเขานัดหมายพบเจอกัน เขาคงบอกว่า "เจอกันหน้าห้องดับจิต" มั๊ง
คุณจิ๊บขา
ถ้าให้คิดตอนนี้ คิดไม่ออก เพราะปวดหัวมั่ก ๆ
แต่ถเห้คิด ก็บอกว่า "คิดถึง" ฮา...........