ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า หากคุณใช้ Linux หรือ Unix ตัวอื่นๆ คุณไม่จำเป็นต้องใช้ Flashget เป็นตัวช่วย Download ใน Firefox หรอก เพราะบน Linux นั้น มีตัวช่วย Download ให้เลือกใช้กันหลายตัว ตัวที่คล้ายๆ Flashget หน่อยก็เช่น d4x หรือ Kget (KDE Get) ก็ใช้ได้ดีเช่นกัน หรือใครจะใช้ wget, curl ก็แล้วแต่ชอบ หากถามว่าทำไมผมต้องใช้ Flashget บน Linux ด้วย คำตอบของผมคือ ผมแค่อยากลอง ก็เท่านั้น อาจจะดูเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนไปสักหน่อยแต่ก็น่าลองครับ
มาเริ่มกันเลย สิ่งที่คุณจะต้องมีบน Linux คุณก็คือ Firefox พร้อมด้วย Flashgot Extensions คุณจะต้องลงโปรแกรม Wine ด้วย ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลอง subsystem ของ Win32 บน Linux ทำให้คุณสามารถรันโปรแกรม (ไม่ทุกโปรแกรม) ของ Windows บน Linux ได้ ยิ่งถ้าเป็นโปรแกรมเล็กโอกาสที่จะรันบน Linux ด้วย Wine ก็ยิ่งจะมีสูง
จากนั้นก็ทำการดาวน์โหลดโปรแกรม Flashget มาจากเว็บ http://www.amazesoft.com แล้วก็ทำการติดตั้งโดยใช้คำสั่ง
*หมายเหตุ ไฟล์ติดตั้งที่ผมดาวน์โหลดมามีชื่อว่า flashget182en.exe
มาถึงขั้นตอนนี้คุณก็สามารถใช้ Flashget บน Linux ได้แล้ว
ขั้นตอนต่อไป คือ การทำให้ Firefox ใช้ Flashget เป็นตัวช่วยดาวน์โหลด ทำได้โดย เข้าไปที่ Menu ของ Firefox ต่อไปนี้ Tools -> Add-ons แล้วเลือก Preferences ของ Flashgot จะปรากฏหน้าต่างตามรูปข้างล่างนี้
สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคือ เพิ่มโปรแกรม Flashget ที่เราเพิ่งติดตั้งผ่าน Wine เข้าไปใน Extension นี้ ให้กดปุ่ม "เพิ่ม"
แล้วก็ตั้งชื่อได้ตามใจชอบ ผมตงชื่อให้มันว่า "WineFlashGet" เพราะคิดชื่ออื่นไม่ออก
จากนั้นก็สร้าง shell script ง่ายๆ สำหรับเรียกโปรแกรม Flashget ผ่าน Wine ให้สร้าง Text File ขึ้นมาด้วยโปรแกรมอะไรก็ได้โดยมีข้อมูลต่อไปนี้อยู่ภายใน
#!/bin/sh
wine ~/.wine/drive_c/Program\ Files/FlashGet/flashget.exe $1
บันทึกให้เรียบร้อยผมบันทุกโดยใช้ชื่อว่า "WineFlashGet.sh" แล้วเปิด Terminal ขึ้นมา เพื่อเปลี่ยน mode ให้กับ script นี้สามารถโดน execute ได้
กลับมาที่ Firefox หลังจากที่ตั้งชื่อโปรแกรมว่า WineFlashGet ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อกดปุ่ม OK จะมีหนาต่างให้กรอกรายละเอียดขึ้นมาดังรูป
แล้วก็ใส่ Path ของ script ที่สร้างไว้เมื่อกี้ลงไปในชื่อ Executable Path แล้วกด OK จากนั้นก็ปิดโปรแกรม Firefox ไปเลย "ปิดไปเลยนะครับ ปิดให้หมดทุกหน้าต่าง" ไม่งั้นจะไม่เห็นสิ่งที่คุณเพิ่มไปใน Extension
คราวนี้มาลองใช้กัน ให้เปิด Firefox ขึ้นมาใหม่แล้วก็ไปตรวจดูใน Flashgot Extension ให้แน่ใจว่า WineFlashGet (หรือชื่ออื่นที่คุณตั้ง) ได้ถูกกำหนดให้เป็นตัวช่วยดาวน์โหลดแล้ว
เมื่อเลือก FlashGot ลิงค์นี้โปรแกรม Flashget ก็จะขึ้นมารับหน้าที่ต่อ
บอกได้เลยว่า "จ๊าบแสรดดดด"