เธอทั้งสองคน


เธอคนแรก เคยเล่าให้ผมฟังว่า ผมคลอดง่าย พอหมอบอกให้เบ่ง ก็คลอดเลย ไม่เจ็บเท่าไหร่ ส่วน "เธอ" อีกคน เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันจนถึง ประถม 4
ผมเล่าเรื่องราวของผมให้ทุกคนได้อ่านมาถึง 25 ตอนด้วยกัน มีบางตอนที่ผมกล่าวถึง " เธอทั้งสองคน " บ้างไม่มาก เพราะผมมีความตั้งใจอยู่แล้วว่าอยากจะกล่าวถึงโดยเฉพาะ เป็นเรื่องของความรู้สึก ความรัก ความห่วงใย ความเป็นเพื่อน ที่ละเอียดอ่อน ที่.........

เธอคนแรก เคยเล่าให้ผมฟังว่า ผมคลอดง่าย พอหมอบอกให้เบ่ง ก็คลอดเลย ไม่เจ็บเท่าไหร่ พอผม 9 ขวบ น้องสาวคนโตก็ 7 ขวบ ส่วนน้องสาวคนสุดท้อง 4 ขวบพอดี พวกเราทั้ง 3 คนถูกส่งไปอยู่กับ "อากง-อาม่า" ด้วยสาเหตุที่ "เธอ" ต้องทำงานหนักเพื่อดำเนินชีวิต และมีเหตุผลที่สำคัญมากบางประการ ที่ผมไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ ด้วยความรักและคิดถึง พวกเราจะได้พบหน้ากับ "เธอ" ทุกสัปดาห์ ทำให้ความรู้สึก ยังคงผูกพันกันเหนียวแน่น

เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ผมอายุได้ 11 ขวบ ผมได้รับหน้าที่สำคัญ คือต้องกลับไปช่วย ผมได้กลับมากรุงเทพฯ ผมชอบขายของมาก ผมมักจะขอไปที่ตลาดมหานาค ตอนตี 4 กับ "เธอ" หลังจากรับรู้ว่า ผลไม้ดองที่ต้องนำมาขายในร้านนั้น มันเยอะและหนักมาก ผมมักมีความรู้สึกว่า ผมควรจะมีส่วนร่วมในงานนี้ด้วย ผมทำทุกอย่างที่เรียกว่า งาน แต่ก็ชอบหนีไปเตะบอล-ทอยตุ๊กตุ่น ตามภาษาเด็กผู้ชาย อยู่บ่อยๆ แต่ "เธอ" ไม่รู้เหตุผลของผมหรอก ว่าทำไม จนมาทราบทีหลัง

ผมไปทอยตุ๊กตุ่นยางเพราะ ผมเล่นเก่ง ดังนั้นผมสามารถนำกลับไปขายเพื่อนได้ทุกวัน ผมชอบไปจับเบอร์ทุกวัน เพราะมีเทคนิคส่วนตัวในการสังเกตุเบอร์ทั้งหมดในแผง แทนที่จะใช้ดวง จึงทำให้ผมเก็บสะสมไว้ใต้เตียง จนครบที่ผมตั้งใจ ผมจึงนำมาทำเป็บเบอร์ได้ทั้งแผง เพื่อนๆ มาจับ จนผมได้เงินถึง 500 บาท ผมดีใจมาก นี่เป็นตัวอย่างบางเรื่อง ที่ทำให้ในเวลาต่อมา "เธอ" ยอมรับในแนวความคิด และลักษณะนิสัยของผม

เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะผมเป็นเด็กที่ไม่ต้องสั่งอะไรมาก ถ้าการบ้านไม่มาก ผมมักทำเสร็จภายในเวลาที่อยู่โรงเรียน ถ้ามากก็จะรีบทำให้เสร็จเมื่อมาถึงบ้าน จากนั้นก็จะอยู่ช่วยขายของเป็นหลัก ผมถูกรับผิดชอบให้อยู่เฝ้าร้าน เพื่อขายของ คนเดียว ตั้งแต่ 11 ขวบ ผมไม่ชอบไปเที่ยว แม้แต่เทศกาลตรุษจีน ผมขอเปิดร้านขายของคนเดียว ในขณะที่ทุกคนทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ ในหมู่ญาติไปเที่ยวตรุษจีนกันที่ต่างจังหวัด ผมมีความสุขที่ขายของมากกว่า

ผมมักจะรู้สึกเจ็บใจตัวเองเสมอ ที่ "เธอ" บอกว่า ผมเป็นลูก เรื่องของผู้ใหญ่ไม่ควรยุ่ง ผมอยากเข้าไปช่วย อยากเข้าไปห้าม แต่ก็ทำไม่ได้ เพียง 3 ปีที่ผมกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมดีใจ และบอกกับ "เธอ" ว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถึงพวกเรา 3 คนไม่มีพ่อก็ไม่เป็นไร พวกเรามี "เธอ" คนเดียวก็พอ ผมจึงได้ร่วมเป็นพยานในการหย่ากันที่อำเภอ ของทั้ง 2 ท่าน

พวกเราทั้ง 3 คนตอบแทนความเหนื่อยยากลำบากด้วยการ พยายามเข้าเรียนในโรงเรียน และมหาวิทยาลัยของรัฐให้ได้ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญทุกครั้งที่ต้องสอบ

ผมสอบเข้าโรงเรียนโยธินบูรณะ และไปจบปริญญาตรีที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี
น้องสาวคนโตจบจากโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ พร้อมใบประกาศมารยาทดีเด่น ที่ส่งผลให้ติดโควต้า ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยครูจันทรเกษม หลังจากผิดหวังจากเอ็นทรานซ์
น้องสาวคนเล็ก เก่งที่สุด จากสามเสนวิทยาลัย ไปได้เกรดสูงสุดในรุ่น ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ปัจจุบันศึกษาปริญญาเอกที่บางมด ด้วยทุนอาจารย์ของประสานมิตร

ดังนั้น ภาพภายนอกที่ผมเห็น "เธอ" หลังอุบัติเหตุครั้งนี้ "เธอเข้มแข็ง" เธอบอกว่าดีใจที่ผมคิดได้ ในขณะที่ผมได้ยินจากญาติๆ ว่าเธอร้องไห้บ่อยๆ ผมคงจะทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ผมต้องทำงาน ผมต้องทำในสิ่งที่วางแผนเอาไว้ให้สำเร็จ เหตุการณ์คราวนี้ต้องเป็นแค่อุปสรรค ผมต้องไม่เป็นภาระ ณ ช่วงเวลานั้นผมคิดได้แค่นี้ ผมจึงมีพลัง จวบจนปัจจุบันพลังเหล่านั้นยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ลดลงแม้แต่น้อย ทั้งที่มีอุปสรรคอีกมากมายรออยู่

ส่วน "เธอ" อีกคน เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันจนถึง ประถม 4 เพราะผมต้องมาอยู่กรุงเทพฯ เราไม่ได้เจอและติดต่อกันเลยจนกระทั่ง พวกเราเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 เพราะผมได้มีโอกาสไปฝึกงานในโรงงานอุตสาหกรรมตอนปี 3 และได้รู้จักเพื่อนมัธยมของเธอ จนได้เบอร์โทรศัพท์ที่บ้านของเธอมา

เรานัดเจอกันครั้งแรกที่ป้ายรถเมล์ ตรงข้ามธนาคารนครหลวงไทยสำนักงานใหญ่ เธอยอมสอนภาษาอังกฤษที่เธอถนัดให้ผมที่หอสมุดแห่งชาติ เธอจบเกียรตินิยม เอกภาษาอังกฤษ เธอทำอาหารอร่อยมาก สอนการใช้ชีวิตบางแง่มุมที่ผมมองข้ามไป ผมเคยขอโทษเธอด้วยการยืนตากฝน ผมมักมีความรู้สึกว่า เจอเธอช้าไป น่าจะได้ทำอะไรให้เธอมากกว่านี้ เราผ่านวันเวลาร่วมกันจนวางแผนที่จะแต่งงาน แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุกับผมก่อนหน้า เพียงไม่กี่เดือน

ก่อนหน้าผมรถคว่ำ เธอพึ่งจะทุกข์ใจกับแม่ของเธอที่เส้นเลือดที่สมองตีบจนเป็นอัมพาต เธอเคยคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่ได้พบผม ผมทำให้สิ่งเหล่านั้นมันหายไป ความทุกข์ใจบางเรื่องของเธอ ผมช่วยเธอไม่ได้ เธอพยายาม เท่าที่เธอจะทำได้ เธอมาเยี่ยมผมบ่อยๆ แต่เฝ้าไม่ได้ เพราะต้องรีบกลับบ้านเพื่อดูแลยายที่อายุ 81 ปี ปัจจุบันอายุ 86 ปี เธอมีภาระ เธอยังคงไม่มีใคร เพราะเธอว่าการรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย

ผมไม่เรียกร้องอะไรจากเธอ ไม่ทำให้เธอลำบากใจ ผมเข้าใจอุปนิสัยส่วนตัวของเธอ ปัจจุบันเธอก็ยังคงพยายามอยู่ ผมรักเธอ และยังคงไม่เรียกร้องอะไร มีแต่ต้องทำงานเท่านั้น คุณค่าของผมคือการทำงาน

ผมไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้ นอกจากตอบแทนความรู้สึกของ "เธอทั้ง 2 คน" ด้วยการเร่งทำงาน ถึงแม้ว่า เธอทั้ง 2 คนจะยังไม่เข้าใจผมในปัจจุบันก็ตาม ผมหวังว่าถ้างานของผมสำเร็จ เธอต้องเข้าใจ และผมก็มั่นใจในงานที่ทำ

ตอนนี้ ดูจะเครียดๆ หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

ตอนหน้าคงเป็นเรื่องกายภาพบำบัดอีกครั้งครับ


ขอบคุณครับ

ปรีดา ลิ้มนนทกุล
mobile : 089-6910225
Tel. & Fax.: 02-9232724
email : [email protected]
คำสำคัญ (Tags): #ผู้ทุพพลภาพ
หมายเลขบันทึก: 94211เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2007 01:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
คนเราความรักไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันเสมอไปหรอกค่ะ  ถึงแม้บางวันเราจะเหงา เราก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ มาทำให้หัวใจชุ่มชื่นได้ค่ะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ คนเราไม่ได้เกิดช้าหรอกค่ะ เพียงแต่ทุกอย่างถูกลิขิตมาแล้ว  ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม หรือเป็นอย่างไรก็ตาม  เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ   
  • ภูมิใจแทนเธอทั้งสองคนที่ได้ความรักอันยิ่งใหญ่  จากคนที่จริงใจ  อยากเป็นผู้ให้อยู่ทุกเมื่อ
  • ความรักเป็นสิ่งดีค่ะ
  • และเชื่อว่าเธอทั้งสองก็รักคุณค่ะ
นับถือและชื่นชมคุณปรีดาเป็นอย่างยิ่งค่ะ และขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆนี้ ขอเป็นกำลังใจให้คุณปรีดาทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จในเร็ววันนะคะ เชื่อว่าคุณทำได้แน่นอนค่ะ

สวัสดีครับ

  • มาอ่าน มาให้กำลังใจครับ
  • ทุกอย่างมีเหตุเป็นแดนเกิด
  • จะสุข ทุกข์ มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ใจของเราว่ามีความเข้าใจแท้จริงในสัจธรรม อันเป็น Ultimate Truth เพียงใด
  • ความสุขหาง่าย ด้วยการทำสิ่งที่ "ถูกต้อง" แล้ว เสวย "ความอิ่มใจ พอใจ" ไปเรื่อยๆ  จนกว่าเราทุกคน (ไม่มียกเว้น) จะคืนของยืม คือร่างกายนี้ให้เจ้าของเดิมเขาไป
  • ขอบคุณต่อเรื่องดีๆที่มีมาให้อ่านครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท