ตายแล้วไปเกิดได้อย่างไร


ความเห็นส่วนตัว - กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน

บันทึกนี้เกี่ยวเนื่องกับ งานเขียนเรื่อง ตายแล้วไปเกิดได้อย่างไรของ ลพ.จรัญ   

 TEXT

คนตายแล้วไปเกิดได้อย่างไร
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/BM/how.doc

ตายแล้วไปไหน
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/BM/where.doc

ชีวิตภายหลังความตาย
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/BM/after.doc


หนังสือเล่มอื่น ๆ ครับ
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/book.htm

บันทึกนี้เป็นเพียงบทวิเคราะห์หลังจากที่ได้อ่านงานเขียนดังกล่าว และเป็นเพียงการเชื่อมโยงอย่างคร่าวๆตามจินตนาการณ์เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากความจริง หรืองานเขียนของท่านผู้รู้หลายขุมนัก และเพื่อความเข้าใจในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นกรุณาอ่านบันทึกนี้ DEATHNOTE

ผู้เขียนพยายามจินตนาการว่าโลกของวิญญาณหรือดินแดนสวรรค์หรือนรกเป็นอย่างไร ดวงจิตหลังการตายของมนุษย์จะมีความทุกข์หรือไม่ ?

อ้างอิง:

ทันทีที่จุติ(ตาย)เกิดขึ้น  ปฏิสนธิก็สืบต่อกันไม่ขาดสายเหมือนน้ำที่ไหลติดต่อกันในลำธาร  ไม่มีอะไรมาคั่นกลางเลย  แม้ว่าจะตายที่นี่แล้วไปเกิดที่เชียงใหม่ เพราะจิตเกิดดับรวดเร็วยิ่งนัก ลัดนิ้วทีเดียวถึงแสนโกฏิขณะฉะนั้น ทันทีที่จุติเกิดขึ้น จิตที่สืบติดต่อกันนั้นก็ต้องพ้นปฏิสนธิจิตด้วยอำนาจของกรรมเป็นตัวส่ง

ธรรมชาติของจิต เกิดดับรวดเร็วยิ่งนัก(การทำงานของคอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในยังมิอาจเทียบ) 

การตกนรกก็เช่นกัน หลังการตายเราอาจจะไปเกิดในโลกนรกตามแรงกรรมแบบทันทีทันใดหากเทียบกับเวลาบนโลกแล้ว เพียงอึดใจเดียวผู้ที่อยู่ในโลกนรก อาจทนทุกข์ทรมาณนานเป็นกัปป์ นั่นเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เวลาของสามโลกไม่เท่ากัน และเกิดการปฏิสนธิก็สืบต่อกันไม่ขาดสายเหมือนน้ำที่ไหลติดต่อกันในลำธาร  ไม่มีอะไรมาคั่นกลาง 

(เทียบได้กับการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้งของคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันโปรแกรมได้หลายโปรแกรมพร้อมๆกัน ซึ่งแท้จริงแล้วมิอาจทำงานได้พร้อมกันแต่เป็นการสลับกันทำงานที่ไวระดับสัญญาณClock เราจึงมองเสมือนว่าคอมพิวเตอร์สามารถรันได้หลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน) 

 

ส่วนเหตุที่จะไปตกนรกหรือขึ้นสวรรค์หลังความตายนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำ หรือที่เรียกว่ากรรมนั่นเอง และคาดว่าสิ่งที่เราเรียกว่าผี หรือวิญญาณเป็น ผู้ที่ตายแบบไม่หมดอายุไข จนต้องอยู่ในสภาพวิญญาณต่อไปเพื่อชดใช้กรรม จนกว่าจะหมดแรงของกรรมนั้นๆจึงได้ไปเกิดใหม่.ในสภาวะอื่นตามกระบวนการ

อ้างอิง :

 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแยกกรรมที่จะเป็นเหตุนำให้สัตว์ไปปฏิสนธิ  ๔ ประ-การ คือ  

๑. ครุกรรม (กรรมหนัก)   

๒.อาสันนกรรม (กรรมใกล้ตาย)  

๓. อาจิณณกรรม (กรรมที่กระทำอยู่เสมอ)

๔. กตัตตากรรม  (กรรมเล็กน้อย)

สิ่งนี้สามารถอธิบายให้ชัดแจ้งยิ่งขึ้นไปอีกดังนี้ คุณสมบัติของจิตอย่างหนึ่งก็คือการสั่งสมกรรม(กรรมขาวและกรรมดำ) หากสั่งสมกรรมที่มีน้ำหนัก(คุณภาพ)มาก ไม่ว่าจะคุณภาพเลวหรือคุณภาพดี น้ำหนักนั้นจะส่งผลก่อน ดังที่พระท่านได้แสดงไว้ 4 ประการ  เพื่อให้เห็นภาพ ขออธิบายสิ่งนี้เทียบกับความฝัน แม้ว่าความฝันจะเป็นสิ่งที่เชื่อไม่ได้ แต่หากมองกลับมุม ฝันกลับสามารถยืนยันในสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยืนยันไม่ได้ เช่นฝันบอกเหตุ เป็นต้น 

1.การที่คนเราจะฝันได้นั้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากประสบการณ์บางอย่างที่ฝังใจ (ฝันเรื่องเดิมๆซ้ำกัน) หากไปดูหนังผีมา ก็อาจจะฝันร้ายเห็นผี สิ่งนี้เทียบได้กับเหตุจาก ครุกรรม (กรรมหนัก)  ส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมาก็จะจำฝันนั้นได้ เทียบได้กับ การเกิดมาแล้วเป็นคนชั่วหรือดีโดยสันดาร หากเป็นกรรมดีก็ อาจจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์พิเศษ (ตาที่สาม ฝักใฝ่ในธรรมะตั้งแต่เกิด จิตเป็นสมาธิได้เร็ว หรือพวกที่มี IQ ระดับ Genius) หากเป็นกรรมชั่ว ....ไม่อยากจะคิด 

2.หากเก็บสถาณการณ์ก่อนหลับไปฝัน หรือกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในตอนตื่น ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาหนักอก จึงเก็บไปฝัน สิ่งนี้เทียบได้กับเหตุจาก  อาสันนกรรม (กรรมใกล้ตาย) และ 3. อาจิณณกรรม (กรรมที่กระทำอยู่เสมอ)  ส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมาแล้ว จะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง เทียบได้กับ การเกิดมาแล้วติดนิสัยบางอย่าง หรือมี พรสวรรค์ขั้นอาชีพ (วาดรูป ร้องเพลง นักเขียน นักวิทยาศาสตร์)

ส่วนฝันเป็นตุเป็นตะ จำไม่ได้เลย แต่รู้ว่าฝันอย่างเมามันมาก สิ่งนี้เทียบได้กับเหตุจาก  4. กตัตตากรรม  (กรรมเล็กน้อย) คุณเคยฝันร้ายไหม หากในฝันกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง ตกใจตื่นยังรู้สึกเหนื่อย ที่สำคัญฝันนั้นหลอกเราได้แทบ 100% หากจะเทียบนรกกับฝันร้ายแล้ว(ยากจะเทียบ) คงจะเป็นฝันร้ายที่ร้ายที่สุดชนิดที่คุณไม่เคยเจอ สุดแสนทรมาณ ร้ายแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการกระทำ(กรรมในที่นี้เปรียบกับการกระทำในตอนตื่น) ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังฝันร้าย เพราะมันเป็นของจริง ที่ยากจะเอาไปเทียบกับฝัน เป็นฝันร้ายที่มิอาจตื่นจนกระทั่งหมดแรงกรรม หากมีกรรมดำอื่นมาเสริม ก็ต้องฝันร้ายต่อไปไม่สิ้นสุด นานแสนนาน ชั่วกัปป์กัล   เนื่องจากจิตทำงานเร็วเหลือเกิน  

ลักษณะเช่นนี้ตรงกับที่ นักวิทยาศาสตร์ ได้ทำการทดลองและค้นพบว่า ฝันในช่วงไกล้ตื่นของเราจะเป็นชนิดม้วนเดียวจบ โดยใช้เวลาเพียงนิดเดียวก่อนที่จะตื่น    แต่อย่าได้คิดเชียวละว่านรกเป็นเพียงความฝัน มิเช่นนั้นแล้วหากโชคดีได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์ (0.0ศูณย์ไม่จำกัด%) ผู้ที่เกิดมาจะมีปาปะมิตรชนิดที่นรกส่งมาเกิด!!!

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. ครุกรรม เทียบกับ ฝันร้ายเพราะดูหนังฝี (ฝังจิตฝังใจ)

กรรมดี - เกิดมาแล้วมีความสามารถพิเศษ อัฉริยะ ฯลฯ
กรรมชั่ว - เกิดมาแล้ว พิการทางสมอง ไม่สมประกอบ พิการแบบซ้ำซ้อน ฯลฯ

2. อาสันนกรรม เทียบกับ การฝันเกี่ยวกับเรื่องราวก่อนหลับ

กรรมดี - เกิดมาในที่ หรือสิ่งที่จิตผูกพันธ์ มีพรสวรรค์ขั้นอาชีพ (วาดรูป ศิลปะ  ร้องเพลง นักเขียน นักวิทยาศาสตร์) ฯลฯ
กรรมชั่ว - มีพรสวรรค์ด้านอาชญากรรม หรือการโกงกิน ฯลฯ


3. อาจิณณกรรม เทียบกับ การฝันเกี่ยวกับเรื่องที่ครุ่นคิดอยู่ หรืออะไรที่ทำบ่อยๆตอนตื่น

กรรมดี - การเกิดมาแล้วติดนิสัยบางอย่าง เช่นพูดเพราะ ใจเย็น อ่อนโยน มีความชำนาญด้านการงานนั้นๆ  ฯลฯ
กรรมชั่ว - เป็นคนใจร้อน พูดขัดหูคน ฯลฯ

4. กตัตตากรรม เทียบกับ การรู้ว่าฝันเยอะแยะ แต่ตื่นมาแล้วจำไม่ได้

กรรมดี - เป็นคนธรรมดาทั่วๆไป  ฯลฯ
กรรมชั่ว - ยากจน หรือลำบากกว่าคนทั่วๆไป ฯลฯ

สิ่งที่อยู่กับเราทุกค่ำคืน อาจจะบอกอะไรบางอย่างกับเราได้

 
หมายเลขบันทึก: 94207เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2007 01:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 19:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • พูดได้น่ากลัว และเห็นภาพดีนะครับ
  • ผมเห็นด้วย
  • แต่ของแบบนี้มันผลุบๆ โผล่ๆ เห็นเอง รู้เอง
  • บอกเพื่อน เพื่อนก็ไม่เชื่ออีก
  • ผมเน้นทำปัจจุบันให้ดีที่สุดครับ
  • ทำเหตุดีแล้ว ผลได้ไม่ดีให้มันรู้ไป

ธรรมะสวัสดีครับ

ภาพที่เห็นในกองไฟนี่น่าสนใจดีนะครับ เล่าให้ฟังหน่อยซิครับ

ที่มาของภาพครับอ่านแล้วขนลุก

ยังไงเชิญคุณ

P

ไปปล่อยอาวุธธรรมในบันทึกร้อนด้วยนะครับ ช่วยกันระดมปืนที่เรามีอยู่ทุกกระบอกครับ

ติดอาวุธให้ธรรมะ แล้วพุทธานุภาพจะปรากฎ (^---^)

สวัสดีครับ .. เข้ามาอ่าน แล้ว น่าติดตามอ่าน ครับ ได้แง่คิด .. ขอบพระคุณ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท