เรียนรู้ความเหมือนของศาสนาต่างๆจากประวัติศาสตร๋ยุคสมัย Axial (4)

ขอเล่นง่ายๆด้วยการนำรูปมาให้ดูก่อนแปลหนังสือต่อนะคะ

โซโรอัสเตอร์

    

ที่มาของภาพจากซ้ายไปขวา: religion-cults.com และ iranologie.com

ตัวอักษรของภาษาอเวสถาน

ที่มาของภาพ: ancientscripts.com

ตัวอักษรของภาษาสันสกฤตโบราณ

 

ที่มาของภาพ:  iskcon.org.uk

ชาวอารยันพวกที่รักการต่อสู้ผจญภัยและรถเทียมม้าคู่ใจ

 

 

ที่มาของภาพ: library.thinkquest.org

แผนที่การย้ายถิ่นฐานของชาวอารยันที่ใช้ภาษาสันสกฤต

ที่มาของภาพ:  pitt.edu

---------------------------------------------------------------------------

[ภาพจาก npr.org]

แคเร็น อาร์มสตรอง กลายเป็นหนึ่งในนักเขียนคนโปรดไปแล้วค่ะ เธอเคยเป็นแม่ชีแคทอลิกมาก่อนที่จะมาศึกษาประวัติศาสตร์ด้านศาสนาอย่างจริงจัง

คุณแคเร็นเข้าใจที่มาที่ไปของทุกศาสนาหลัก มองเห็นความเหมือนในคำสอนของศาสนาต่างๆ และ พูดถึงมันได้อย่างเชี่ยวชาญ ดูจะเชียวชาญกว่าเจ้าของด้วยซ้ำค่ะ ฟังสัมภาษณ์เธอแล้วเธอตอบคำถามได้ดีจริงๆ

ถ้าสนใจ ฟัง online ได้ที่นี่ค่ะ เป็น stream online ไม่ต้องดาวโหลดค่ะ แต่ต้องมี real player หรือ window media player

--------------------------------------------------------------------------- 

มีคนถามว่าเธอนับถือศาสนาอะไร 

เธออธิบายว่า 

“

I usually describe myself, perhaps flippantly, as a freelance monotheist. I draw sustenance from all three of the faiths of Abraham. I can't see any one of them as having the monopoly of truth, any one of them as superior to any of the others. Each has its own particular genius and each its own particular pitfalls and Achilles' heels. But recently, I've just written a short life [story] of the Buddha, and I've been enthralled by what he has to say about spirituality, about the ultimate, about compassion and about the necessary loss of ego before you can encounter the divine. And all the great traditions are, in my view, saying the same thing in much the same way, despite their surface differences.

”

ที่มา: wikipedia

เธอเชื่อว่า God, Brahman, The Tao, Viod, Nothingness, Oneness, และ นิพพาน คือสิ่งเดียวกัน มันคือความจริงที่ิอธิบายไม่ได้ด้วยคำพูด แต่เข้าถึงได้ด้วยตนเอง

---------------------------------------------------------------------------

• อ่านบันทึกตอนต่อไปได้ที่นี่ค่ะ
• อ่านบันทึกต่อนแรกได้ที่นี่ค่ะ
  

 

[ขจิต ฝอยทอง]

• สังเกตว่าชาวต่างประเทศสนใจศึกษาศาสนากันอย่างจริงจัง
• ต่างจากคนไทยนะครับอาจารย์
• ขอบคุณครับ

[ใหม่]

มารออ่านต่อ ชอบความเห็นที่แคเร็น อาร์มสตรองตอบจัง

[มัทนา]

อ. ขจิต:

คนไทยก็มีค่ะที่ศึกษาจริงจัง แต่อาจจะอยู่แต่ในวงมหาวิทยาลัยซะมาก (ทั้งในมหาวิทยาลัยสงฆ์ และ ฝ่ายฆราวาส)

เพียงแต่ไมค่อย่มีหนังสือให้เราอ่านตามท้องตลาดทั่วไปเท่าไหร่

 

ท่านพุทธทาสคนหนึ่งหล่ะค่ะที่ศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ และทิ้งหนังสือไว้ให้เราหาอ่านได้ตามร้านหนังสือทั่วไป

 

เอ....คิดไปคิดมา...คนไทยเราถ้าไม่ได้อยู่โรงเรียนก็ไม่ค่อยเข้าห้องสมุดกันนะคะ หนังสือพวกนี้จริงๆหาได้ตามห้องสมุด ไม่ต้องซื้อก็ได้

แหม...พูดแล้วก็อยากเปิดห้องสมุดเอกชนจริงๆคะ 

[มัทนา]

ใหม่: ไว้รอเสาร์อาทิตย์ก่อนแล้วจะมาต่อนะ  

ใช่แคเร็นตอบคำถามดีจริงๆตอนไป npr สำเนียงอังกฤษฟังเพลินดีด้วย 

[โอชกร ภาคสุวรรณ]

อ.มัทนา

ผมก็เชื่อว่าพื้นฐานที่มาของศาสนามาจากสิ่งเดียวกัน....เพียงแต่มันขึ้นกับการอธิบายและสื่อสารให้คนเข้าใจมากกว่า...จากประสพการณ์ตอนประถมเรียนที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษา ก็เข้าไปนั่งในโบสถ์กับเขาเหมือนกัน ก็พอเข้าใจในคริสต์ศาสนา...มีเพื่อนเป็นอิสลามที่คุยกันสนิท...พอตอนอยู่มัธยม เรียนที่เตรียมอุดม ก็มีการนั่งสมาธิ เรียนพุทธศาสนา...แต่ที่ได้ก็ตอนแม่พาไปอยู่ summer กับหลวงปู่หลุยนั้นละ ...เห็นหลายๆอย่างก็พอเข้าใจในสิ่งที่เป็นความเชื่อ..แต่สุดท้ายก็ต้องปฎิบัติเอง...สติกับสมาธิ

ยากก็ตรงนี้ละ...

โอชกร

[Man In Flame]

ก่อนยุคสมัย  Axial พระเจ้าไปอยู่ไหนกันหมดหนอ ปล่อยให้มนุษย์หลงงมงายบูชายัญ กันอยู่ได้ ตอนเป็นลิงเป็นค่าง พระเจ้าหนีหายหมด พอเริ่มจะเป็นมนุษย์พระเจ้าเพิ่งจะมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงพระเจ้าจะมีเมตตาช่วยเหลือมนุษย์จริงๆไหมนะ? หรือว่าพระเจ้าจะขี้ลืม มานึกขึ้นได้ตอนมนุษย์พัฒนาความคิดขึ้น

บ่นไปตามประสาไก่เอย

• เรื่องนี้ก็น่าสนใจครับ The Lost Years of Jesus

 

[มัทนา]

อ. โอชกร:ได้เห็นมาหลายๆแบบดีนะค่ะ จะได้เข้าใจเป็นเพื่อนได้กับทุกศาสนา 

Man In Flame: อ่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความหมายว่า  พระเจ้าคืออะไร? : )