แนวการคัดเลือก Best practice ของ กศน.2550

แต่จากประสบการณ์ของการคัดเลือกเมื่อปีที่แล้วรู้สึกว่าทางฝ่ายผู้จัดไม่ค่อยได้ใช้สิ่งที่ได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็นคนดีว่าเป็นสิ่งดีนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้เท่าที่ควร สิ่งดีๆเหล่านี้น่าจะช่วยขับเคลื่อนงาน กศน.ในวงกว้างมากกว่านี้ ให้มีความหมายมากกว่าที่จะได้ชื่อว่าจัดการคัดเลือกกันตามประเพณี ฉะนั้นปี 2550 นี้เมื่อได้สิ่งดีๆคนดีๆมาแล้วได้โปรดให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ให้มากกว่านี้ เพราะกว่าจะได้สิ่งนี้บุคคลหน่วยงานนี้หรือชุมชนนี้ๆมา มันต้องลงทุนลงแรงคัดเลือกกันอย่างขมักเขม้นเหลือเกิน

         อ่านเว็ปไซต์ของ กศน.ก็ทำให้ทราบว่าปี 2550 นี้ เขาจะมีการคัดเลือกสิ่งดีๆที่ กศน.ดำเนินการกันอีกแล้ว ปีนี้กำหนดคัดเลือกเอาสิ่งดีๆจำนวน 13 ประเภท ดังต่อไปนี้

1.  

   1. หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน ดีเด่นที่สนับสนุน กศน.

   2. ห้องสมุดประชาชนดีเด่น

   3. ศูนย์การเรียนชุมชน  ดีเด่น

   4. ศูนย์การเรียนชุมชน ชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” ดีเด่น

   5. สถานศึกษา ดีเด่น

   6. ศิษย์การศึกษานอกโรงเรียน ดีเด่น

   7. ผู้บริหารสถานศึกษา ดีเด่น

   8. ครูการศึกษานอกโรงเรียน ดีเด่น

   9. ผู้ปฏิบัติงานในสถานศึกษา ดีเด่น

   10. ภูมิปัญญาท้องถิ่น ดีเด่น

   11. ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น

   12. องค์กรแห่งการเรียนรู้ ดีเด่น

   13. โครงงานคุณธรรมนำความรู้ ดีเด่น

        คิดว่าคงจะเป็นการสร้างเครือข่ายคนดีๆ กิจกรรมดีๆ หน่วยงาน และองค์กรดีๆให้เกิดขึ้นได้อีกมากมาย

        แต่จากประสบการณ์ของการคัดเลือกเมื่อปีที่แล้วรู้สึกว่าทางฝ่ายผู้จัดไม่ค่อยได้ใช้สิ่งที่ได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็นคนดีว่าเป็นสิ่งดีนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้เท่าที่ควร สิ่งดีๆเหล่านี้น่าจะช่วยขับเคลื่อนงาน กศน.ในวงกว้างได้มากกว่านี้ ให้มีความหมายมากกว่าที่จะได้ชื่อว่าจัดการคัดเลือกกันตามประเพณี ฉะนั้นปี 2550 นี้เมื่อได้สิ่งดีๆคนดีๆมาแล้วได้โปรดให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ให้มากกว่านี้ เพราะกว่าจะได้สิ่งนี้บุคคลหน่วยงานนี้หรือชุมชนนี้ๆมา มันต้องลงทุนลงแรงคัดเลือกกันอย่างขมักเขม้นเหลือเกิน

        รายละเอียดอ่านจาก 

http://www.nfe.go.th/nfe_v2/frontend/theme/index.php

[โอ๋-อโณ]

เห็นด้วยค่ะครูนง พบเองที่สถาบันที่เราทำงานนี่แหละค่ะ ตอนให้รางวัลประกาศว่าทำไมแต่ละท่านจึงได้รางวัล เราฟังแล้วขนลุกว่าแต่ละท่านน่าชื่นชมมากๆ อยากให้แต่ละท่านมาเล่าด้วยตัวเองว่า ท่านคิดอย่างไรจึงทำงานจนได้รางวัลอย่างนั้น เชื่อว่าจะเป็นพลังดีๆที่ส่งออกมาถึงพวกเราได้มากมายมหาศาล แต่...เปล่าเลยค่ะ ท่านๆเหล่านั้นรับรางวัลกันแล้ว แม้แต่กล่าวขอบคุณก็ยังไม่ได้พูดเลย (คิดถึงเวลาเค้ามอบรางวัลออสการ์ ฯลฯ ที่เค้ายังให้คนมารับรางวัลพูดด้วย) แล้วท่านก็กลับไปก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อไป ปีต่อๆไปก็เลือกกันมาใหม่โดยไม่ได้นำสิ่งดีๆ เรื่องดีๆเหล่านี้มาขับเคลื่อนองค์กรอะไรเลย น่าเสียดายมากๆค่ะ

[สิงห์ ป่าสัก]

• อ่านบันทึกของครูนง และความคิดเห็นของพี่โอ๋-อโณ แล้วเห็นด้วยกับสิ่งที่ทั้งสองท่านได้พบเห็นและบันทึกไว้ครับ
• อาจเป็นเพราะคนคัดเลือก หรือทำการประกวดผลงานดีเด่นต่างๆ ยังไม่เข้าใจหรือทำหน้าที่ขยายดีได้ไม่สมบูรณ์  มอบรางวัลแล้วก็เป็นอันว่าเสร็จงาน
• หากเข้าใจและทำการต่อยอด ก็จะสามารถสร้างแผนที่คน,แผนที่ความรู้ขึ้นมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้
• ขอบพระคุณมากครับ  

[ครูนงเมืองคอน]

อ.โอ๋ ครับ

• ผ        มอยากให้เป็นอย่างที่อาจารย์โอ๋ว่าเลยจริงๆครับ ความรู้ฝังลึกและเคล็ดวิชา วิทยายุทธ์ของแต่ละคนแต่ละกลุ่มแต่ละองค์กร แต่ละพื้นที่แต่ละชุมชน จะได้มีการ ลปรร สร้างแรงกระเพื่อมให้กับงาน กศน.ได้
• ผมมองไปถึงว่าประสบการณ์เหล่านี้น่าจะนำไปจัดตลาดนัดความรู้ กศน.ด้วยซ้ำ ซึ่งในแต่ละปี จะมีจำนวนคนนนดี กิจกรรมดี องค์กรดี ชุมชนนดีทบทวีมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นชุมชนคนทำงาน นักปฏิบัติ แพร่หลายในวงกว้าง
• ขอบคุณที่เข้ามาต่อความเห็นให้ครับ

 

[ครูนงเมืองคอน]

น้องสิงห์ป่าสัก ครับ

• ใช่เลยครับ ไม่น่าจะมอบโล่ มอบรางวัลเสร็จ ก็เสร็จสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างกัน
  
• โอ! แผนที่คนดี แผนที่ความรู้  ความคิดนี้สุดยอดมากเลยครับ ผมมองเห็นคุณค่าและประโยชน์จากความคิดนี้มหาศาลเลยครับ
• ขอบคุณนะครับที่เข้ามาเยี่ยม ให้ความเห็นไว้
  

[หนุ่ม ร้อยเกาะ]

        ครูครับ ถ้าทำตาม กฏ กติกา มารยาท ก็จะได้ ผลผลิต ผลลัพท์ ที่ดีๆ จากสังคม แต่ถ้า คุณขอมา (คนไทย) มากไป หน่อย ก็น่าเสียดาย คนที่เขาตั้งใจทำงานเหมือนกันนะ  แต่คิดว่าที่นครฯ คงไม่มี รายการอย่างนี้นะ ครับ

 

[ครูนงเมืองคอน]

คุณหนุ่มเมืองร้อยเกาะ ครับ

• เห็นด้วยครับว่าถ้าไม่มีรายการคุณขอมา จะเกิดผลลัพธ์ดีๆกับสังคมมากมาย
• ไม่แต่จังหวัดนครศรีฯนะครับทั่วประเทศเลยครับ          
• ขอบคุณนะครับ ทางสุราษฎร์เป็นอย่างไรมั่ง