มีเรื่องป่องแปนมาเล่าอีกครั้ง เรื่องนี้เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านมาไม่นานและยังคงอยู่ในปัจจุบันและคงกินช่วงเวลาในอนาคตอีกหลายเดือน เรื่องนี้มีอยู่ว่า
ผมรับปากอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่งเอาไว้ราวเดือนว่าจะทอผ้าส่งให้อาจารย์ภายในสิ้นเดือนนี้ เมื่อเอาเข้าจริงเหลือเวลาไม่มากก็จะถึงกำหนดส่งผ้าแล้ว แต่ผ้าทอของผมก็ยังไม่ไปถึงไหน เชื่อไหมว่าสาเหตุมาจากหลายอย่าง
-
งานบวชของคนในชุมชน งานนี้ช่างทอของผมหยุดทอกันทุกคนเพื่อไปช่วยงานบวชของคนในชุมชน หากท่านไหนทำงานในชุมชนคงเข้าใจบริบทนี้ ช่วงนี้กินเวลาหลายวันเนื่องจากต้องไปเตรียมงานก่อนหน้าหลายวัน ไม่ไก้ไม่ได้เพราะถึงคราวเราแล้วใครจะช่วย
-
สงกรานต์ปีใหม่แบบไทย ๆ ช่วงนี้กินเวลาราวสัปดาห์เพราะเป็นช่วงที่ลูกหลานช่างทอผ้ากลับมาจากทำงานต่างถิ่น บ้างก็มีญาติมาเยี่ยมดังนั้นนั้นเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นในครอบครัว งานนี้ก็พอเข้าใจ
- หลังเสร็จกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมใหญ่ ๆ ก็เจอฮีตคองในงานบุญเบิกบ้านและเลี้ยงปู่ตาประจำบ้านงานนี้หมดเวลาไปสามวันเห็นจะไม่ผิด เรื่องนี้ก็พอเข้าใจแต่หลังจากนี้งานทอผ้าของผมคงเดินหน้าต่อไปแน่ ๆ
- แต่เจ้ากรรมผมกลับบ้านไปดูงานทอผ้าอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ก็พบว่างานทอผ้าไม่เดินหน้าไปเลย เรื่องนี้ผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรจนกระทั่งได้เจอช่างทอจนต้องร้อง อ๋อแบบป๋องแปน มิน่าล่ะ
- ก่อนหน้านั้นผมเข้าใจว่าฤดูฝนชาวบ้านอีสานไม่ทอผ้าเพราะต้องไปทำนา จึงไม่มีการทอผ้า แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปจากความรู้หนึ่งกลายเป็นแค่ความรู้ติ่งหนึ่งเท่านั้นเกี่ยวกับผ้าทอ
- ช่างทอผ้าอีสาน หากทอผ้าในหน้าฝนนั้นเป็นเรื่องยากมาก จึงไม่ค่อยมีคนทอผ้า เนื่องจากละลองฝนเมื่อไปถูกเส้นไหม(พื้นบ้าน)แล้วจะทำให้เส้นไหมพองตัวมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อแห้ง งานนี้รูฟันฟืมจึงไม่สามารถขยับได้ ถึงขยับได้ก็ยากลำบาก เส้นไหมอาจจะลุ่ยได้ทำให้เนื้อผ้าไม่สวย
- ผมป่องแปนจนลืมโกรธช่างทอของผมทันทีและต้องขอบคุณที่ช่วยให้ความรู้ชุดใหม่แก่ผม