ข้อคิดจากวันสงกรานต์

ข้อคิดจากวันสงกรานต์   ในช่วงสงกรานตร์ปีนี้ดิฉันได้ทำทั้งบุญและทานค่ะ   ดิฉันจัดงานรดน้ำดำหัวให้แม่สามีและให้ญาติทางสามีมารดน้ำคุณแม่ของสามีที่บ้านดิฉัน       ไปทำบุญที่วัดอัมพวันในวันที่14     ไปเยี่ยมพระป๋องเมื่อวันที่15   ในวันที่16- 17 เตรียมงานที่ค้างไว้และมาอ่านข้อคิดดีๆจากหนังสือพิมพ์ค่ะ 

   วันนี้อ่านข้อธรรมคำสอนของสมเด็จพระมหาธีราจารย์   เจ้าอาวาศวัดชนะสงครามที่ให้ไว้ปฏิบัติตนเพื่อความเจริญมีดังนี้ค่ะ 

 รู้ขยัน 

 รู้ประหยัด 

 ซื่อสัตย์สุจริต 

 คบมิตรดี 

 กตัญญูกตเวที

 รักสามัคคี 

 มีความอดทน 

 เคารพผู้ใหญ่ 

 ใกล้ชิดผู้บังคับบัญชา 

 เจริญ 

   ดิฉันมาตรวจสอบดูแล้วรู้สึกตัวเองทำได้     แต่ทำได้ไม่ได้ดีอยู่หนึ่งข้อคือ     การใกล้ชิดผู้บังคับบัญชาค่ะ  

   ในช่วงที่อาจารย์น.พ. วัลลภ ไทยเหนือเป็นอธิบดี    เราเคยไปต่างจังหวัดและทานอาหารเย็นร่วมกันพร้อมกับมีเพลงฟัง        ท่านอธิบดี วัลลภจะชอบร้องเพลงมาก 

  มีครั้งหนึ่งที่พวกเราประมาณ 7-8คนนั่งทานอาหารเย็นอยู่ห่างๆจากนาย         รองอธิบดีก็มาร้องเรียกให้มาใกล้กันหน่อย        บางคนยังอิดออด น่าโมโห 

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระประแดง     หมอชัยวุฒิซึ่งสนิทกับท่านอธิบดีเอ่ยขึ้นว่า        พี่ลภน่าจะเรียกพวกเค้ามานั่งด้วยนะ        ท่านเลยเอ็ดว่า  มันไม่อยากมาก็ช่างสิวะ       จะให้พี่ทำอย่างไรเรียกแล้วก็ไม่มา    

 ที่กรมอนามัยจะมีคนล้อมท่านมาก     แต่ที่กรมคร.  จะไม่ค่อยมีมากนัก        แต่จะนั่งสบายๆ     ใครอยากร้องก็ร้องใครอยากไปนอนก็นอน 

   ดิฉันเคยอยากให้เด็กๆมานั่งใกล้ๆเวลามีงาน     แต่รู้สึกเด็กๆจะเกร็งๆและทานอาหารไม่อร่อยทำให้นึกถึงตัวเองเหมือนกันค่ะ     

  ใครมีประสบการณ์อย่างไรก็เล่าแลกเปลี่ยนกันได้ค่ะ     อย่าลืมตรวจสอบดูแล้วปฏิบัติตามรับรองเจริญแน่ๆค่ะ  

   นานๆขอนินทาเจ้านายบ้างค่ะ 

[สิ']

การใกล้ชิดผู้บังคับบัญชา นี้เป็นดาบสองคมค่ะ ถ้าคนดี ก็ดี ถ้าคนไม่ดี ก็พังกันไปข้าง หรือทั้งสองข้างด้วยค่ะ  จึงเห็นว่าเป็นข้อธรรมที่ต้องพิจารณาให้ดีค่ะ ส่วนข้ออื่นๆควรส่งเสริมให้เป็นวัฒนธรรมในบำราศฯค่ะ

ปล.รูปที่ถ่ายล่าสุดนี้ ผอก. ดูสดใสมากค่ะ

[อัจฉรา]

ขอบคุณที่เข้ามาทักทายค่ะ