เล่าเรื่อง มหัศจรรย์เท้าเบาหวาน


เล่าเรื่องมหัศจรรย์เท้าเบาหวาน
      ...............หลังจากดิฉันกลับจากการทำ AAR ที่ รพ.เทพธารินทร์ ได้ประมาณ 7 วัน ทีมงานเบาหวาน ตกลงนัดหมายที่จะจัดกิจกรรมวันเบาหวาน ขึ้นซึ่งปีนี้ เราจัดเรื่องเท้าเบาหวานในวันที่ 14 พฤศจิกายน  2548 กระบวนการทำกิจกรรม คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากใช้ knowledge management ที่เราจะใช้กับกลุ่มเบาหวานในกิจกรรมนี้ เราเตรียมงานโดยใช้ ห้องเรียนรู้ ที่ศูนย์สุขภาพเมือง  เป็นห้องขนาดพอดี พอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถจุคนไข้ได้ประมาณ 20 กว่าคน เช้าวันนั้นทีมงานเริ่มประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการที่ยินดีจะเข้ากลุ่มมาลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรม  คนไข้เริ่มงงและถามว่าจะมาทำอะไรนะ “ แลกเปลี่ยนเรียนรู้เท้าเบาหวาน”  สมาชิกบอก “ วันนี้หมอมีอะไรจะมาสอนป้า ป้าอยากฟัง แต่จะให้ป้ามาพูด ป้าพูดไม่เป็นนะ ”  บ้างก็บอกว่า “ป้าไม่ได้มีอะไรจะมาบอกใครหรอก ป้าไม่ใช่หมอ”
      คุณลุงติ๋ม ที่เป็นเบาหวานมา 1 ปี บอกว่า  “ลุงเป็นเบาหวาน เท้ายังดีอยู่ ต้องฟังด้วยหรือ” แต่คุณลุงก็เดินอมยิ้มตามเรามาในห้อง ขณะเดียวกันดิฉันก็เริ่มทำการตรวจประเมินเท้าและบอกผลให้ผู้ป่วยเบาหวานทราบผลการตรวจเท้าของแต่ละราย ผู้ป่วยที่เฝ้ามองดูอยู่ห่าง ๆ เริ่มมาขอตรวจ และสุดท้ายขอเข้ากลุ่มด้วยความอยากรู้ ทั้งหมดจำนวน  20 ท่าน เสริมเก้าอี้อีก 3 ท่าน (อีก 6 ท่านบอกขอดูอยู่ที่หน้าห้องก็ได้) จนทีมงานต้องบอกจะเพิ่มกิจกรรมเป็น 2 รอบ (แหม...เหมือนหนังเลยเพิ่มรอบด้วย)  ก่อนเข้าห้องเริ่มทำกิจกรรมดิฉัน เห็นคุณยายท่านหนึ่ง คุณยายชื่อ สุดใจ อายุ 72 ปี เป็นคนไข้เบาหวานที่พึ่งมาใช้บริการที่คลินิกของเราได้ไม่นาน ถูกตัดเท้าข้างซ้ายได้ประมาณ 4 เดือน นั่ง wheel chair  ดิฉันยิ้มและคิดได้  เราเจอนางเอกของเรื่องเล่าวันนี้แล้ว  พอดีกับที่คุณยายเอ่ยปากขอเข้าร่วมกิจกรรมด้วย  ดิฉันตอบตกลงเสียงดังอย่างดีใจ พร้อมกับเข็นรถคุณยายเข้าไปในห้องเรียนรู้ คุณยายยิ้มแก้มปลิ อย่างมีความสุข
กิจกรรมของเราวันนี้ เริ่มจากกล่าวเปิด และบอกเป้าหมายของการทำกิจกรรมในวันนี้
-    สมาชิกทุกคนแนะนำตัวและทำความรู้จักกัน จนเริ่มคุ้นเคยและกล้าพูดกล้าซักถาม
คุณยายสุดใจนางเอกของเรื่อง  เล่าที่มาที่ไปของการตัดขา ด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว ยายเล่าว่า “วันนี้ชั้นดีใจจริงๆ อยากบอกให้ฟังเอาบุญ มดมันกัดเท้าเท่านั้นจริงๆ คุณยายเล่าว่า “ ยายเป็นเบาหวานมา 30 ปี รักษาสารพัดวิธี เอาง่ายเข้าว่า เพราะอยู่กับลุง 2 คน ลูกหลานไม่ได้อยู่ด้วย เท้าชาก็ไม่นึกว่าจะเป็นมาก ถูกมดกัดไม่รู้ตัว จนเป็นแผล เป็นตั้งนานก็ยังไม่ยอมมาโรงพยาบาล ทนเอา จน 2-3 เดือน แผลมันเยิ้ม-เหม็น ปวดมาก ทรมานมาก มานอนโรงพยาบาล ต้องอ้อนวอนให้หมอตัดขา พอหมอตัดขารู้สึกโล่ง “ วันนี้ได้ยินว่ามีจะมีการพูดเรื่องแผลที่เท้าจึงอยากมาร่วมด้วย ยายบอกว่า” “ยายไม่มีเงินทำบุญอะไรที่ไหน ลำพังเงินค่ารถมาโรงพยาบาลแทบไม่มี เขียนหนังสือไม่ได้ จะเขียนบอกใครก็ไม่ได้ จึงมานั่งพูดคุย เอาบุญ คุณยายเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ สลับกับการซักถามจากสมาชิกดิฉันสังเกตเห็นสีหน้าของสมาชิกท่านอื่น ๆ ที่เริ่มให้ความสนใจตั้งใจ ฟังอย่างใจจดใจจ่อ คุณยายจัดแจงถอดขาให้ดูเป็นตัวอย่าง พูดไปก็ยิ้มไปหัวเราะไป คุณยายดูมีความสุขจนดิฉัน ทีมงานและสมาชิกที่รับฟังสัมผัสได้    คุณป้าลำดวน บอกว่า เมื่อก่อนเคยชาเท้า แต่ตอนนี้ไม่ชาแล้ว ใช้วิธีตื่นขึ้นมาตอนเช้า  ยังไม่ต้องลุกนะ ยกเหยียดขาอย่างนี้ อย่างนี้ พร้อมสาธิตท่าประกอบ (..ออกอาการมัน... ) ข้างละ 10 ครั้ง อาการก็ดีขึ้น
คุณลุงตุ๋ย ถามว่า เท้าชา ต้องทำอย่างไร
สมาชิกเล่าว่า “ช่วงไหนน้ำตาลขึ้น จะชาเท้าตอนเช้า ตอนนี้ไม่ชามา 6 เดือนแล้ว  ลองให้น้ำตาลไม่สูงอาการก็จะดีเองแหละ”
คุณลุงตุ๋ย “ฟังแล้วบอกจะลองไปทำดู ทั้ง 2 อย่างนั้นแหละ แล้วมาคราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร คุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย พลัดกันเล่า ผลัดกันถาม ด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นและแจ่มใส เสร็จจากการพูดคุย ทีมงานเริ่ม สาธิตการตัดเล็บ กิจกรรมการตรวจดูแลเท้าด้วยตนเอง ใช้ผ้าเย็น โลชั่น เช็ดถูตรวจเท้า ทำมาจนถึง 11.30 น. จึง เสร็จสิ้น  เป็นอันว่าวันนี้หนังรอบ 2 ของเราฉายไม่ได้ซะแล้วซิ ต้องยกยอดไปคราวหน้า
11.20 น.  คุณหมอนิพัธ  เสร็จภาระกิจ เข้ามาร่วมงาน รวมยอดทั้งกล่าว เปิด และกล่าวปิด ไปในเวลาเดียวกัน


เสร็จจากกิจกรรม ดิฉันเห็นคุณลุง คุณป้าบางท่าน ยังคงนั่งพูดคุยกันต่อ ดิฉันแอบแซวว่า เดี๋ยวได้ตรวจช้านะ  เร็วๆ เข้า ถึงคิวตรวจแล้ว ท่านตอบว่า “ เดี๋ยวอยู่คุยต่ออีกซักประเดี๋ยว  หมอให้ตรวจคนสุดท้าย  กลับตอนเย็น-ค่ำก็ไม่ว่ากันแล้ว”พูดเสร็จก็หัวเราะกันทั้งกลุ่ม
ดิฉันแอบชื่นชม คุณยายสุดใจ สร้างคุณค่าให้ตนเอง และเรียกความสุขกลับมาทุกครั้งที่เล่าเรื่องให้คนอื่นฟัง คุณยายให้คุณลุงสามี ไปขี่รถสามล้อรับจ้างต่อและให้มารับยายตอนเย็นก่อน รพ. เลิก ยายจะนั่งคุยกับเพื่อนๆ


สรุปผลของการทำกิจกรรมวันนี้
1.      สมาชิกประเมินผลพอใจมาก 100% (หย่อนบัตรที่มีรูปคนยิ้มปากกว้างที่สุด) และยินดีเข้าร่วมกิจกรรมอีกในครั้งต่อไป 100%   อ้อ... ทีมงานวางกล่องประเมินผลไว้ให้สมาชิกประเมินผลได้โดยไม่ต้องเกรงใจทีมงาน 
2.      ในส่วนของคุณยายเอง เมื่อดิฉันได้พูดคุยกับคุณยายสุดใจก่อนกลับบ้าน คุณยายบอกว่า “วันนี้มันอิ่มเอมหัวใจ” “มีความสุขและสนุกมาก” “ยายไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออก แต่พูดอะไรไปคนเค้าก็ฟัง” ดิฉันเห็นคุณยายน้ำตาคลอในระหว่างที่พูด ดิฉันคิดว่านี้คงไม่ใช่น้ำตาเห็นความเศร้าแน่นอน
3.      สมาชิกได้เทคนิคการตรวจเท้าโดยใช้ผ้าขนหนูเช็ด-นวดโลชั่น
4.      ท่าบริหารเท้าของป้าลำดวน
5.      คุณลุงตุ๋ย ลดน้ำตาล ลดอาการชา
6.      อาการชาของจริงจากประสบการณ์ของคุณยายสุดใจ (ที่พยาบาลเล่าได้ไม่เหมือนทั้งน้ำเสียงและสีหน้า)
7.      หัวเราะและมีความสุข ลดน้ำตาลได้ จากลุงกมล


 

  สิ่งที่สมาชิกต้องการในการเข้ากลุ่มครั้งต่อไป

1. การตัดเล็บที่ถูกต้อง 2. เท้าชาทำอย่างไร 3. อยากให้เพื่อนๆเบาหวานมาร่วมเล่าเรื่องกันเยอะๆ

4. อยากให้จัดแบบนี้หลายๆครั้ง

                                            ผู้เล่าเรื่อง รัชดา พิพัฒน์ศาสตร์ กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว

  

คำสำคัญ (Tags): #ตลาดนัดความรู้
หมายเลขบันทึก: 9177เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2005 15:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เป็นเรื่องเล่าที่ดีมาก อ่านแล้วรู้สึกซึ้งใจไปกับผู้ป่วยด้วย อยากรู้จังว่าใครเป็นคนเล่า บอกชื่อหน่อยก็ดีนะคะ

รัชดา ครับ ขอบคุณอาจารย์ที่ให้กำลังใจครับ

สนุกมากเลยครับ 

แถมได้ไอเดียดีๆด้วย  โดยเฉพาะการ AAR ทันทีหลังทำกิจกรรม รวมทั้งให้ประเมินความพึงพอใจแบบง่ายๆครับ

ผมขออนุญาติ นำไปเป็นตัวอย่างให้ ทีม self  health group ที่ คลินิกเบาหวานของ รพ.นะครับ เพราะเห็นภาพมากๆเลย

 

การรักษาโรคเบาหวานแบบหายขาดโดยสมุนไพรไทย

หายขาดจริงๆครับ

โดยความบังเอิญที่คุณพ่อผมได้เดินทางมาหาที่บ้านที่จังหวัดขอนแก่นแล้วมาเจอกับ คุณ ยายผมที่ป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปี โดยการรักษาตลอด 12ปีที่ผ่านมาต้องไปรับยาทุกอาทิตย์ ตื่นตั้งแต่ตี 5เพื่อไปโรงบาล แกบอกว่าทรมานมากใครไม่เป็นไม่รู้หรอก เพื่อนๆแกได้ตัดนิ้ว-แขน-ขา บางคนตาบอด และตายไปก็หลายสิบคนแล้ว

พ่อบอกกับแม่ว่าแกมีสูตรสมุนไพรโบราณสมัยคุณปู่ผมที่อยู่ที่มาเลย์เซียก่อนเดินทางมาไทยและนำมาผสมกับสมุนไพรของคุณตาผมที่นำมาจากไร่ที่ จังหวัดเลยผสมชงทานกัน ตอนแรกแกไม่ยอมทาน กลัวสารพัดผ่านไปหลายวันเข้าพ่อผมแกก็ชงทานทุกวันให้แกดูเป็นตัวอย่าง แกเลยยอมหลังจากทานไปสัก 3-4วันแกบอกว่าจะปัสสาวะบ่อยมากและจะมีอาการร้อนวูบวาบ และอาการชาปลายนิ้วตอนเช้าได้หายไปและหลังจากทานไปได้ 7วันแกอยากทานนั่นทานนี่(ปรกติไม่ยอมทานอะไร) ผิวพรรณจากแห้งๆเริ่มมีน้ำมีนวล และขาเริ่มมีกำลังสามารถลุกขึ้นเดินได้ จนแม่ได้พาไปตรวจที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ผลออกมาว่าน้ำตาลในเลือดจากเดิม 230 ลดลงเหลือเพียง 115เท่านั้น เอง จนหมอเองก็ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แกทานมาได้สักประมาณ 1เดือนแล้วกลับไปวัดน้ำตาลอีกก็ได้รับผลว่าปรกติดี จวบจนถึงปัจจุบันนี้คุณหมอ ได้ทำการแจ้งว่าไม่ต้องมาตรวจแล้วครับ หายจากการเป็นเบาหวานแล้ว ก็ทำให้ทุกคนในบ้านประหลาดใจมากครับ

ผมคนนึงที่ไม่เชื่อครับ ก็เลยเอามให้น้องๆที่ทำงานที่ร้อยเอ็ดนำไปให้คนที่บ้านทาน ผลก็เป็นเช่นเดิมกับยายผมทานไปน่าจะประมาณ 83คน มีที่ไม่หาย 3คน ซึ่งจากการสอบถามแล้วได้ความว่าทานไปเพียง 1-3วันแล้วไม่กล้าทานต่อครับ

ส่วนท่านอื่นๆปัจจุบันหายขาดแล้วเพราะไม่ได้นำไปทานอีกเลย

ผมจึงบอกคนที่หายว่าถ้าทานแล้วหายให้ระลึกถึงคุณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วที่ได้คิดค้นสูตรโบราณนี้ไว้ให้แก่คนรุ่นนี้ครับ

อัศจรรย์จริงๆครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อที่ คุณ ธิดา อึ้งนภารัตน์ 123/456 ม.เพรสซิเดนท์ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000หรือโทร 083-3459197

ทำไมมดถึงกัดเท้าผู้ป่วยเบาหวานคะ

อยากทราบถึงสาเหตุและวิธีป้องกันน่ะคะ

ถ้าทายาเบต้าดีนมดก็จะหายไปพักหนึ่ง พออาบน้ำตัวยาหายไปก็กลับมาอีก ขอคำชี้เเนะด้วย

ขอบคุณคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท