หลังจากโครงการเนื้อล้านครอบครัวล้มพับไปแล้วก็เกิดปัญหาวัวบราห์มันราคาตกไปไปตาม ๆ กัน ซึ่งคำว่าราคาตกนั้น จริงแล้ว ไม่ตกไปไหน เพียงแต่ปรับราคาลงมาสู่ราคาที่แท้จริงของตลาดเท่านั้นเอง ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงของการโปรโมต์โครงการนั้นมีการปั่นราคาโคที่รัฐบาลจะซื้อต้องเป็นโคบราห์มัน จึงทำใหราคาโคพันธุ์นี้สูงขึ้นเป็นประวัติการ
เมื่อราคาโคบราห์มันกลับมาสู่ราคาที่ใกล้เคียงความเป็นจริงหรือลดลงในสายตาของเกษตรกร ก็ส่งผลดีตลาดโคพันธุ์นี้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุน จะมีความสุขกับการตะเวนซื้อโคบราห์มัน หรือลูกผสมบราห์มันจากตลาดนัดโค - กระบือ มาขุนมากเป็นพิเศษ เพราะมีวัวงาม ๆ คุณภาพดี ๆ ให้เลือกมากขึ้น
เมื่อสอบถามเกษตรกรที่เลี้ยงโคขุน ว่าทำไมในช่วงนี้จึงนิยมนำโคพันธุ์บราห์มันมาขุนมากเป็นพิเศษ ทำไมไม่ขุนพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับจากตลาดโคขุน เช่น ชาโรเลส์ ตาก กำแพงแสน
คำตอบคือ
บราห์มัน ช่วงนี้หาซื้อง่าย ราคาไม่สูง หาซื้อได้ทั่วไปทั้งจากเกษตรกรรายย่อย จากฟาร์มขนาดใหญ่ หรือจากตลาด ขายได้ทั้งตลาดบนและตลาดล่าง
แต่ชาโรเลส์ ตาก หรือ กำแพงแสน ออกสู่ตลาดน้อย เพราะมีคนเลี้ยงน้อย หาซื้อยาก ราคาแพง เวลาขายถึงแม้ราคาสูง แต่เมื่อหักลบกลบนี้ระหว่างราคาซื้อและราคาขายแล้วกำไรไม่แตกต่างกัน
เมื่อตัดสินใจเลือกโคบราห์มันมาขุนแล้ว จะมีเกณฑ์ในการเลือกโคมาขุนอย่างไร?
"จะเน้นบราห์มันหรือลูกผสมบราห์มันหูหนูที่มีใบหูเล็ก มีโครงสร้างปานกลาง จะมีโอกาสของอัตราการเจริญเติบโตที่ดีและมีเปอร์เซ็นต์ซากมากกว่า จะไม่เน้นบราห์มันหูยาว เพราะมีโครงสร้างใหญ่ผ่านการผสมพันธุ์กับพันธุ์ฮินดูบราซิลมาแล้ว จะมีเปอร์เซ็นต์ซากต่ำ มีแต่กระดูก ไม่คุ้นทุนกินก็เยอะ"
นี่ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งสำหรับกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุน หรือเกษตรกรที่สนใจจะเลี้ยงโคบราห์มันว่า จะเลือกซื้อโคลักษณะไหนมาเลี้ยงจึงจะลดต้นทุนการผลิตและขายได้ราคาที่สูง จะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีความมั่นคงในอาชีพการเลี้ยงโค
ไม่มีความเห็น