พระบรมราโชวาท ปัญญา (๔)
"…
การที่บุคคลจะนำวิชาความรู้ความสามารถของตนมาปฏิบัติ
ให้สำเร็จผลที่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์อย่างแท้จริงได้
จำเป็นต้องอาศัยความเห็นความเข้าใจที่กระจ่างแจ่มแจ้ง อันเรียกว่า
ปัญญา เป็นเครื่องชี้ชัดตัดสิน. ปัญญา
ความเห็นความเข้าใจชัดนี้
จะเกิดได้ก็เฉพาะเมื่อมีการฝึกฝนที่ถูกและสมควร
ซึ่งหมายถึงฝึกการกระทำความประพฤติทั้งปวงให้อยู่ในระเบียบที่สุจริตดีงาม
ฝึกความคิดจิตใจให้หนักแน่น และมั่นคงในความเป็นกลาง
จะพิจารณาวินิจฉัยเรื่องใดกรณีใด ก็อาศัยเหตุผล
ความถูกต้องเหมาะสมเป็นหลัก ให้จนประจักษ์ในความจริง
ไม่ปล่อยทิ้งไว้เป็นปัญหา. จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งสำหรับบัณฑิต
ที่จะพยายามฝึกกายฝึกใจให้เที่ยงตรงดำรงอยู่ในระเบียบและระบบที่ถูกต้อง
เพื่อสร้างเสริมปัญญาให้พัฒนาเพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้น. ทุกคนก็จะสามารถใช้ความรู้ความคิดปฏิบัติงาน
และนำพาตนให้ก้าวถึงความเจริญความสำเร็จอันสมบูรณ์ในชีวิตได้สมประสงค์.
…"
(พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๒๔ มกราคม ๒๕๓๔)
นักจัดการความรู้คงน้อมรับใส่เกล้านะครับ
การจัดการความรู้ เป็นการพัฒนางานประจำที่เราปฎิบัติ
เป็นเรื่องที่ต้องใช้ปัญญา ต้องฝึก สร้างชุมชนนักปฏิบัติ หัด
“ลปรร”และ
ต้องใช้ความจริง คือ Fact management
ไม่ใช่เป็นกิจกรรมหรือ
เรื่องใหม่อะไร
เราคงต้องศึกษาพระบรมราโชวาทให้ถ่องแท้ครับ
JJ (Yogjakarta,Indonesia)