น้ำตาตกที่สายรุ้ง
ระวังลูกช้างมานะ
- เมื่อเปิดอีเมลดูก็พบว่า เพื่อนชาวฟิลิปปินส์ ส่งจดหมายมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของพี่น้องที่โดนน้ำป่าไหลหลากที่น้ำตกสายรุ้ง อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ๓๗ ศพ
- ไม่นานก็มีเพื่อนสิงคโปร์แสดงความเสียใจเข้ามาอีก ทำให้ละอายใจนิดๆว่า เขารู้มากกว่าเรามาก
- ผมก็ได้เพียงแต่ติดตามข่าวทีวี อ่านหนังสือพิมพ์บ้างไม่มาก เมื่อมีการสูญเสียครั้งใด เราก็เสียใจ สะเทือนใจไปด้วยทุกครั้ง จะเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ๆ คนหมู่มากสูญเสียเกิดขึ้นบ่อยๆ
- เคยได้ยินเพื่อนใต้ บอกว่าเวลาอาบน้ำที่อย่างนั้นระวังลูกช้างมานะ ถ้ามาให้รีบวิ่งหนี มารู้ตอนหลังหมายถึงน้ำป่าไหลหลากนี่แหละ เราไม่รู้นึกว่าลูกช้างจริงๆที่ตัวเป็นๆ แต่ไม่ใช่ พี่น้องชาวใต้มีความเนียนในเรื่องนี้กรุณาเล่าเพิ่มความรู้ให้ผมหน่อยก็จะเป็นพระคุณครับ
- ตกประมาณสามทุ่มไปเจอพี่สาวคนนครศรีฯที่ถนนสีลม กทม. ด้วยความที่คิดว่า พี่เขาอาจมีญาติที่อาจโดนไปด้วยก็ได้ เลยรีบแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผลปรากฎว่าพี่เขาไม่รู้เรื่องว่ามีอะไรเกิดขึ้นเลย
- จึงทำให้รู้ว่าบางสิ่งที่เรารู้ เราเข้าใจ เขาสนใจ และเราพูดกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้เรื่องรู้ราวร่วมกันไปกับเราทุกคนเสียเมื่อไหร่ จริงมะ
คำสำคัญ (Tags): #บรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน
หมายเลขบันทึก: 90671เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2007 23:19 น. ()ความเห็น (7)
- สวัสดีครับพี่แทฟส์
- เป็นเรื่องเศร้าเลยครับ ผมเพิ่งทราบเหมือนกันครับ
- สงสัยการเตือนภัยในเรื่องนี้ ขาดตกบกพร่องครับ
- มีภาพตอนนี้มาฝากครับผม
จะเห็ฯว่าทางใต้ฝั่งตะวันตกยังไม่หยุดเลยครับ ยังมืดครื้มอยู่ครับ
ขอให้ทุกชีวิตที่จากไปจงสู่สุขคติด้วยเถิด และสำหรับชีวิตที่ยังต้องดำเนินไป จงมีแต่ความระมัดระวัง ดำเนินทุกอย่างด้วยสติและปัญญาครับ
ศึกษาข้อมูลก่อนไปในสถานที่เสี่ยงในสถานการณ์ต่างๆ ด้วยนะครับ
ผมไม่ทราบสาเหตุในเบื้องลึก หากท่านใดทราบรบกวนขอข้อมูลด้วยนะครับ จักเป็นพระคุณยิ่งครับ
ขอบคุณมากครับ
เม้ง
- สวัสดีครับอาจารย์เม้ง
- การเตือนภัย หรือการระวังภัยสาธารณะบ้านเรายังไม่มาตรฐานครับ
- ไกลหน่อยก็ตอนสึนามิ กรมอุตุนิยมวิทยาแทบไม่ทราบอะไรเป็นอะไรเลยตั้งนาน
- ใกล้เข้ามาหน่อยรถโดยสารที่ไฟลุกครอกตายที่สระบุรี ก็เสียหายมาก
- เหตุเกิดที่น้ำตกสายรุ้งนี้ หากเตือนกันก่อน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเทศกาลสงกรานต์ด้วย คนจะต้องเยอะแน่ๆ
- หากจริงจังเน้นย้ำกันดูสงกรานต์คราวนี้ อุบัติเหตุลดลงได้ คนตายก็ลดลงมาก
- แสดงว่าเตือนกันป้องกันกันได้ ไม่ใช่สุดวิสัย ไม่ใช่เวรกรรมอะไร ผมว่าเราหละหลวมกันมากกว่า
- รถเมล์ใน กทม.ก็เช่นกัน เกิดอุบัติเหตุทีก็เสียหายมาก หากเราไปเห็นรถเมล์ที่ซิดนีย์ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลย์เซีย ฮ่องกง โซล จะเห็นว่าเขาล็อคความเร็วไว้เลย
- แม้เกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเราจะเห็นความเสียหายน้อยมาก แม้เสียชีวิตก็น้อย
- แสดงว่าเรามีทางเตือนภัยกันก่อนได้
- สาเหตุเบื้องลึกเรื่องน้ำป่าไหลหลากคราวนี้ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน
- ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม
- เราไม่อยากเห็นความเสียหายเช่นนี้ไม่ว่าจะเกิดกับใครทั้งสิ้น
- เพราะมีแต่ความเสียใจครับ
 |
สวัสดีครับท่านแท็ฟส์
- เมื่อวานได้ฟังจากข่าวรายงานว่า ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี คนเสียไปก็เยอะ
- วันนี้ผมได้คุยกับน้องคนหนึ่งที่ตรัง น้องเค้าบอกว่า จริงๆ เคยเกิดมาแล้วที่น้ำตกสายรุ้ง ส่วนที่อื่นไม่เคยเกิด ในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา แต่คนตาย สิบกว่าคนในครั้งนั้น และมีต้อนไม้ ท่อนซุงไหลลงมากับน้ำด้วย
- ผมก็ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะต้องตรวจสอบทุกๆ ครั้งที่มีเมฆก่อตัวในบริเวณเสี่ยง ไม่ว่าจะภูเขาหรือเขาหัวโล้นก็ตามในแผ่นดินไทย ก็จะมีผลต่อปัญหาเหล่านี้ทั้งสิ้น หากมีฝนตกติดต่อกัน
- สงสัยผมต้องไปเขียนต่อยอดงานที่ทำอยู่แล้ว ว่าตรงไหนมีเมฆตลอดต่อเนื่องเวลาในที่เดียวตลอดเวลา พร้อมเช็คกับพื้นที่จริงจากเครือข่ายในพื้นที่ แล้วนำมาสู่การพยากรณ์การเตือนในเบื้องต้น ประกอบกับเทศกาลหรือภาวะปกติ
- ปริมาณต้นไม้ในป่าก็ส่วนหนึ่งมีส่วนในเรื่องการเกิดเหตุการณ์เหล่านี้
- คิดแล้วเศร้าครับ หวังว่าประสบการณ์เหล่านี้จะทำให้มีในระบบฐานข้อมูลการป้องกันภัยพิบัติสำหรับครั้งต่อไปครับ
- ขอบคุณมากนะครับ สำหรับข้อมูลครับ
|
สวัสดีครับ อาจารย์ช่วย
 |
แสดงว่าสถานที่แห่งนั้นมีประสบการณ์ แม้จะนาน ๒๔ ปีก็ต้องจดจำกัน
- เจ้าหน้าที่ที่ดูแลงานด้านนี้
- หากฉลาดเท่าอาจารย์ช่วยสักครึ่งหนึ่ง ได้เห็นภาพที่ให้มาน่าจะจับทางได้นะ
- หรือว่าเขาใส่เกียร์ว่างกันก็ไม่รู้
- แต่แน่ๆไม่อยากให้ญาติพี่น้องเหล่านั้น ลูกเล็กเด็กแดงเหล่านั้นมาตายเพราะเหตุพันนี้เลย
- อย่าลืมมาต่อยอดให้สูงๆไปนะเลยอาจารย์ช่วย
- เขาหัวโล้น มันเหมือนกับคนหัวล้าน นั่นแหละครับ ไม่ยอมซับน้ำเลย
- ใครไปทำให้มันโล้นล่ะ ก็มนุษย์อีกนั่นแหละ
- เราต้องช่วยกันรณรงค์สร้างสำนึกรักทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องด้วยกันครับ
- ขอบคุณอาจารย์เม้งที่มาเติมเต็มแก่กันและกัน
- ยังขยันบันทึกไม่สร่างซานะ
- สวัสดีครับท่านแท็ฟส์
- เพิ่งได้ข้อมูลเพิ่มครับ วันนี้จากตรัง
- เพื่อนบอกว่าเจ้าหน้าที่ลงไปเตือนกันแล้วด้วยครับ แต่คนไม่เชื่อกันครับ อันนี้หล่ะลำบากเลยครับ
- สงสัยต้องใช้วิธีการอื่น เช่น ใช้หวอ เรียกให้ไปรับเหรียญพระดีไว้เป็นที่ระลึก หรือไม่ก็บอกว่า คนกำลังทำพิธีขอหวยอีกที่หนึ่งให้ขึ้นมาเร็วๆ
- ตอนนี้งานที่ทำทางด้านนี้ เป็นเพียงงานอดิเรกอยู่เลยครับ ต้องต่อยอดอีกซักพอสมควร แต่ผมจะต้องทำแน่ หลังจากจัดการเรื่องเรื่องเรียบร้อยหมดครับ ดังนั้นขอให้คนไทยให้ความร่วมมือด้วยครับ
- แล้วเชื่อมือในคนไทยด้วยกันด้วยครับ ตลอดจนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยโดยยอมรับตามเหตุผล และอย่าฝืนดันทุรัง ผมเชื่อว่าจะดีมากๆ
- ซึ่งผมว่าตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ อย่างเรื่องพายุ คนไทยมันจะเชื่อและทำตาม เพราะโดนเหตุการณ์ที่หนักหนามาแล้ว แต่ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์หนักๆ มาก่อนที่จะมาล้อมคอกกันครับ
- งานที่ทำในด้านเหล่านี้ ต้องลงทุนครับ เพื่อความปลอดภัยในทางชีวิต และให้ข้อคิดทางปัญญาครับ
- ขอบคุณมากนะครับผม
|
สวัสดีครับท่านช่วย
|
- คงจะมีการเตือนแบบแกนๆ
- หากมีระดับ มันต้องเตือนแบบแข็งขัน จริงจังคาดโทษ อาจถึงขั้นเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้
- หมายถึงข้อมูลถึง มีดีกรีของการป้องกัน
- เหมือนการเดินข้ามถนนใกล้ที่มีสะพานข้ามถนนไม่เกิน ๒๐๐ เมตรก็ต้องตายฟรี เป็นต้น
- ผมหวังว่าอาจารย์เม้งจะมาช่วยได้ ดังชื่อ
- การอ้างตามหลังที่เหตุการณ์เกิดไปแล้วนี่ฟังดูดี แต่ไม่ประทับใจครับท่าน
- อย่างสึนามิ คนนี้ก็มีข้อมูล คนโน้นเคยทำนายไว้แล้ว อธิบดีฯก็บอกว่าเคยบอกแล้ว แต่พวกกลัวนักท่องเที่ยวหาย เป็นต้น
- แจกเหรียญไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวมาเหยียบกันตายอีก จะกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก
- การเตือนภัย ผมว่าจะคิดเสียเงินด้านเดียวไม่ได้ นี่คือต้นทุนทางสังคม ประเทศเก็บภาษีต้องมาลงทุนด้านนี้
- ป้องกัน ดีกว่าแก้ไข จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
- จะหาว่าหล่อไม่เตือนไม่ไดนะจะบอกให้
- สวัสดีครับพี่
- เห็นด้วยทุกประการเลยครับ
- การเตือนภัยต้องลงทุนเพื่อป้องกันความเสียใจที่คาดไม่ถึงครับ เพื่อชีวิตของสิ่งต่างๆก่อนเหตุการณ์หายนะจะเดินทางมา
- การวัวหายล้อมคอกมันไม่ได้เรื่องหรอกครับ เหตุผลที่ว่าหรือพูดตอนหลังมันดูเหมือนทำให้ภาพสวยครับ แต่ทำได้คือทำให้เกิดการสำนึกในครั้งต่อไปได้ดีครับ
- เหมือนเหตุที่เกิดที่กะทูนนานแล้ว คนเค้าเข็ดหลาบและเคารพมากขึ้นเพราะว่ามันเคยละลายหมู่บ้านเค้ามาแล้ว กลายเป็นเลนโคลน
- เวลาเกิดเหตุเราจะหาแพะเสมอ พอนานๆ ไปก็ลืมทั้งแพะทั้งคนจับแพะทั้งคอกแพะ
- การเตือนภัยมันต้องเป็นการเฝ้าระวังตลอดเวลาครับ ผู้เชี่ยวชาญจะต้องเข้าถึงได้ตลอดเวลาในแต่ละด้าน เพราะคนเหล่านี้ต้องอุทิศตนส่วนหนึ่งให้ชาติหรือส่วนรวมครับ
- เครื่องมือที่ใช้ก็ต้องร่วมกันพัฒนาครับ แบ่งเบาภาระกันนะครับ
- เดี๋ยวจะหาว่าคนไม่หล่อเตือนแล้วไม่ฟัง อิๆๆ