ผลจากการส่งจิตออกนอก คิดถึงอนาคตดังกล่าวก็คือ ดิฉันเกิดความเหนื่อยหน่ายและหดหู่ใจเป็นอันมาก ทำให้นอนหลับยาก และเพลียตอนกลางวัน แต่ที่แปลกก็คือ ดิฉันพยายามเจริญสติอยู่ตลอดและได้เห็นความเหนื่อยหน่ายของจิตแล้วแล้วขณะที่เกิด เมื่อเห็นแล้วก็ดูและรอให้อารมณ์เหนื่อยหน่ายและหดหู่นั้นๆ หายไป แต่เที่ยวนี้อารมณ์นี้อยู่กับดิฉันนานมาก เป็นวันๆ
ปรากฎว่า ดิฉันไม่เห็นสาเหตุ (สมุทัย) ซึ่งก็คือ "ความคิดที่ไม่อยู่กับปัจจุบัน" ดิฉันเห็นแต่ผล (ทุกข์) ซึ่งก็คือ "จิตอยู่ในสภาพที่หดหู่" นั่นเอง
ดิฉันย้อนกลับไปอ่านบันทึกเรื่อง อริยสัจ ๔ คืออะไรที่ตัวเองเขียนไว้ ก็ทำให้เห็นได้ว่าตัวเองได้เคยสรุปไว้แล้วว่าจิตที่ส่งออกนอกไปคิดล่วงหน้านี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ เลยได้ตัวอย่างมาย้ำเตือนตัวเองอีกทีว่าเวลาเจริญสติ จะต้อง
"พิจารณาเหตุ"
เมื่อเห็น "ผล" ด้วย
สวัสดีปีใหม่เช่นเดียวกันค่ะ
เมื่อครู่ก็เพิ่งแวะไปอ่านของเรื่องนอนกอดนางฟ้ามาเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณที่ให้กำลังใจในการปฏิบัติธรรมของดิฉันอยู่เสมอนะคะ ; )
สวัสดีครับอาจารย์
เห็นด้วยค่ะคุณหมอ kmsabai
ว่าถ้าตั้งใจคิดไปวันข้างหน้า สามารถคิดด้วยสติได้ค่ะ ดิฉันเรียนมาทางการบริหารงานบ้าง และเคยคิดเหมือนกันว่าถ้าเราไม่คิดวางแผนไปข้างหน้า แล้วเราจะทำงานสำเร็จได้อย่างไร ประมาณว่าอยู่กับปัจจุบันตลอดแล้วมันจะได้เรื่องหรือ... ประมาณนั้นค่ะ
แต่แท้จริงแล้ว เราสามารถคิดในอนาคตแต่จิตอยู่ในปัจจุบันได้ค่ะ คือไม่กังวล เป็นทุกข์ แค่รับทราบว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้น หรือต้องการจะทำอะไรบ้างในอนาคต คือคิดล่วงหน้าอย่างมีสติที่อาจารย์ว่าค่ะ
เผอิญประสบการณ์จิตหดหู่ของดิฉันที่เล่าในบันทึกนี้ ดิฉันยอมรับเลยค่ะ ว่าตามดูสภาวะนี้ จนลืมพิจารณาเหตุค่ะ ; )
ธรรมะสวัสดีครับ
ไม่ดุแน่นอนค่ะ คุณธรรมาวุธ ; )
ขอบคุณที่นำรอยยิ้มมาให้ค่ะ อนุมานได้ดีจัง "ส่งคนไปนอก" 5555
อารมณ์มันเป็นอะไรซักอย่างที่เกิดขึ้นแล้วบางครั้งใจสั่น อึดอัด หวิวเหมือนจะขาดใจ ซึมๆ มีหลายอย่างแล้วแต่เหตุการณ์ ถ้าเราอยู่วงในคลุกเคล้าอยู่ เราก็จะไม่รู้ว่ามีความแตกต่างของอารมณ์ ถึงเห็นก็ยังไม่ชัดว่ามันเป็นอะไรกันแน่ จะหาวิธีแก้ก็อาจทำได้โดยเปลี่ยนบรรยากาศ หาอะไรทำ แต่ความรู้สึกลึก ๆ ยังมีอยู่ หากอารมณ์ชนิดเดิมไม่มาปรากฏซ้ำ อารมณ์นั้นจะค่อยจางหายไป หรือขณะนั้นเรานึกได้ว่าอ้อสิ่งที่เห็นหรือได้ยินเป็นเพียงการแสดง หรือยังไม่เกิดขึ้นจริง หรือเป็นเพียงสภาวะ มันจับต้องไม้ได้ เดี๋ยวก็หายไป หรือเราไม่เป็นไรน่ะ ช่างเถอะ เอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งเข้ามาตอนนี้งดรับแขก ก็เป็นวิธีหนึ่ง สิ่งสำคัญอย่าให้ความสำคัญกับอารมณ์ดังกล่าว พยายามทำความเข้าใจว่า มันไม่แน่นอน เดี๋ยวมันก็มาเดี๋ยวมันก็ไป ทำบ่อย ๆ ก็จะเห็นชัดขึ้น เมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์ ใจก็ปล่อยวาง