บิณฑบาตรวันแรก


โยมแม่ มาถามพระลูกชายว่า : บิณฑบาต เหนื่อยไหม ลำบากไหม

บิณฑบาตวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่มีโอกาสบิณฑบาต ตื่นเช้ามาพยายามใส่จีวร เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของผม เนื่องจากบวชเป็นวันที่สอง ไม่มีพระพี่เลี้ยง เพราะนอนอยู่คนเดียวในกุฏิ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยก็รีบถือบาตรมารอที่หน้ากุฏิ ไม่เห็นพระรูปอื่นเลย คิดในใจว่า พระรูปอื่นคงยังแต่งตัวไม่เสร็จ เราเสร็จก่อนก็ยืนรอก็แล้วกัน พอดีมีเณรเดินผ่านมา เณร แล้วถามผมว่า

เณร : หลวงพี่ ไม่ไปบิณฑบาตหรือครับ ทำไม มายืนอยู่ตรงนี้ ถ้าจะไปเค้าไปยืนรอกันที่หน้าวัดครับ

เรา : งง??  อยู่ในใจ อ้าวไปรอที่หน้าวัดหรอกรึ ? นึกว่ารอที่หน้ากุฏิ

ว่าแล้วก็รีบเดินตามเณรไปที่หน้าวัด เมื่อไปที่หน้าวัดพบว่ามีพระยืนรออยู่เต็มไปหมด (เกือบอดไปโปรดสัตว์ แล้วซิเรา) ผมอ่อนพรรษาที่สุดในวัด เพราะบวชเมื่อวาน อยู่ท้ายแถว พ่วงท้ายด้วยเณรที่คอยถือปิ่นโต ระหว่างทางที่เดินบิณฑบาตร ต้องถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่า ระหว่างทางที่เดินปรากฏว่ามีแต่หินแหลม ต้องอดทน ระหว่างเดินไปก็เดินแบบสำรวม ไม่สอดส่ายสายตา ไปนอกเส้นทาง  ก่อนบิณฑบาตมีพระรูปหนึ่งเล่าให้ฟังว่า  

โยมแม่ มาถามพระลูกชายว่า : บิณฑบาต เหนื่อยไหม ลำบากไหม

พระรูปนั้นตอบว่า :  ถึงลำบากก็ต้องทนเอา นึกถึงแม่มีพระคุณ อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะวางลูกลงก็วางไม่ได้  จะนั่ง จะนอน จะเดิน ก็ลำบาก ไม่บ่น ไม่โกรธ มีแต่ความรัก แต่การอุ้มบาตร ถึงจะร้อน จะหนัก แต่ก็อุ้มไม่นาน พอเสร็จแล้วก็วางลงได้ 

 พอได้ฟังดังนั้น ทำให้ผมเกิดความรู้สึกตื้นตัน นึกถึงพระคุณของแม่ขึ้นมาทันที พร้อมกับตั้งใจที่จะตั้งใจศึกษา ปฏิบัติในสิ่งที่ดี เพื่อตอบแทนพระคุณของแม่  ในการบิณฑบาตครั้งนี้ พบว่า ชาวบ้านแล้วนี้เค้าจะนำข้าวเปล่ามาใส่บาตร ส่วนอาหารจะส่งให้เณรใส่ปิ่นโต หรือย่ามที่ถือมา แตกต่างจะที่ผมเคยทำ คือ ใส่ข้าว ปลา อาหาร น้ำ หรือ ขนม ใส่ลงในบาตรของพระแต่ละรูป เลยนึกถึง มีน้อยใส่น้อย มีมากใส่มาก ทำบุญอยู่ที่ใจ ใช่ว่าทำมากบุญมาก ทำน้อยบุญน้อย ถ้าการทำอะไรหวังผลมากไปน้อยไป ก็จะเกิดทุกข์ได้  (เริ่มศึกษาธรรมะจากประสบการณ์ คิดเองในใจ) หลังจากบิณฑบาตเสร็จแล้ว ในเช้านี้ เมื่อฉันท์อาหารแล้ว ก็สวดมนต์ แผ่ส่วนกุศลให้แก่ ญาติโยมที่ใส่บาตร ทำให้รู้สึกว่ามีความสุขไปด้วย อิ่มอาหาร และอิ่มบุญสำหรับการบิณฑบาตรมื้อแรกของการบวช

หมายเลขบันทึก: 89624เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2007 23:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาแจมด้วยครับ

 ตอนบวชที่วัดเทพศิรินทร์ แล้ขอลาท่านเจ้าอาวาส ไปจาริกแสวงบุญ กลับบ้านเก่าที่ วัดสวนโมกข์ สมัยนั้นหลวงพ่อพุทธทาส ยังมีชีวิต โชคดีได้ฟังท่านเทศน์

 ตอนจำพรรษาที่ไชยา รู้สึกดี เพราะเป็นบ้านเกิดของนามสกุล ออกไปเดินบิณฑบาตร ช่วงนั้นเจ็บเท้าไปหมดครับ ถนนไม่ดีเท่าทุกวันนี้ และ เดินราว ๒ หรือ ๓ กิโลเมตร แปลกครับ ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย ชมธรรมชาติไปเรื่อยๆครับ

เรียน อ.JJ

จริงครับ ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย

เดินเท้าเปล่า 3 เดือน เท้ามีภูมิต้านทานหินเลยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท