จากการศึกษาดูงานเกาะลันตา-บ้านน้ำเค็มของคนบ้านในเหมืองนั้นอย่างที่บอกน่าจะเป็นการเข้าค่ายที่เข้มข้นมากกว่านั้น หลังจากการศึกษาดูงานจบแล้วเนามีการถอดบทเรียนกัน จึงเอาบทเรียนของทุกคนมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆเรียนรู้กันโดยจะพยายามเขียนเป็นตอนๆนะคะ
ตอนแรกจะเป็นของน้องโสภาคนเก่ง น้องโสภา เป็นสาวโสดที่มีอัธยาศัยน่ารักมาก เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดีมาก เรียนรู้เร็วและมีความตั้งใจสูง มีความเสียสละและอดทน น้องโสภาเล่าว่า ไปแวะเรียนรู้ที่บ้านโคกยูง อ.เกาะลันตา ที่นั้นแกนนำและชาวบ้านมีแนวคิดที่ว่าร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าโกงกางและการต่อสู้กับปัญหาภายในของคนโคกยูงเองที่ต้องทุบเตาเผาถ่านทิ้ง(อาชีพหลักรายได้มาจากเผาถ่านไม้โกงกางขาย) ที่นั้นบอกกับโสภาว่า ประการแรกที่ต้องทำให้ได้คือชุมชนต้องเข้มแข็งจริงๆ มีแนวร่วมและมีใจคิดเหมือนๆกันเสียก่อน และสร้างกระบวนการเรียนรู้ถึงสิทธิของตนเองและชุมชนที่ต้องต่อสู้ไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เป็นการต่อสู้ไว้เพื่อลูกหลานและท้องถิ่น
ที่ศาลเจ้าโต๊ะบาหลิวได้เรียนรู้ประเด็นปัญหาที่นโยบายรัฐและนายทุนกำลังใช้อำนาจในการขับไล่ให้กลุ่มชาวเลออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่อื่น น้องโสภาบอกว่า เฮ๊ย...นายทุนทุกๆที่ทำไม...ไม่เห็นใจคนจนบ้างเลย ทำไม....ถึงรักผลประโยชน์ตัวเองมากมายขนาดนี้นะ เมื่อไปที่หมู่บ้านสังคาอู้ ก็เหมือนกัน นโยบายรัฐบอกให้ชาวเลไปอยู่บนเขาเพื่อปรับภูมิทัศน์ริมเลให้สวยงาม เอาไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว (เอาคนเลไปไว้บนเขามีหวังอดตายแน่นอน)
เดินทางไปเกาะปอ (ข้ามน้ำข้ามทะเล 3 ครั้ง ข้ามแพ 2 ครั้ง ข้ามเรือในขณะที่มีคลื่นลมแรง 1 ครั้ง )ที่นี้จะมีผู้ร่วมแลกเปลี่ยกับพวกเรามากมายเลย มีการเปิดวีดีโอให้ชมทั้ง"เปิดเล เขเรือ"ของเกาะลันตาและ"ฟื้นเหมืองร้าง สร้างเหมืองทอง ด้วยพลังชุมชน" ของบ้านในเหมือง หลังจากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนถึงบทเรียน ประสบการณ์ ปัญหาและแนวทางการแก้ไขร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย (โอย...ง่วงนอนตาจะปิดอยู่แล้ว) สรุปว่าได้ข้อคิดจากเกาะลันตา คือ จุดสำคัญของงานพัฒนา คือ ร่วมมือร่วมแรงกัน อย่าแบ่งพรรคแบ่งพวก และอย่าให้เอาการเมืองเข้ามาแทรกแซง น้องโสภาบอกว่าจะเก็บเอาประสบการณ์ของพี่น้องเกาะลันตาเพื่อพัฒนาขุมเหมืองบ้านเรา เย้ๆๆๆ
เปิดใจน้องโสภาถึงเพื่อนร่วมทาง(ของแถม)
สาวแสง: เก่งจริงๆนะก้าวไปไกลกว่าที่คิดตั้งเยอะ
สาวแว่น: สนใจงานดีนะกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าเสนอความ
คิดแลกเปลี่ยนปัญหา
สุรางค์: ไม่ผิดหวังเลยที่อุตสาห์ชวนมาด้วย คนอะไรไม่รู้ไม่จน
น้ำใจเล้ยต่อไปคงร่วมงานกันได้อีกยาวๆๆๆๆ
น้อย: ไม่ค่อยพูดคุยเลย แต่รู้นะในแววตาอยากจะพัฒนา
ในเหมืองบ้านเราเหมือนพวกเรานั้นแหละ
หมี: เข้าท่าดีนะตอนแรกก็คิดว่าไม่ค่อยเข้าใจงานของพวก
เราแต่ที่ไหนได้ในใจนะสนใจงานตรงนี้เหมือนกันนะเนี้ยะ
พี่ดา,พี่เขียว,ปุ้ม ไม่กล้าเปิดเผยปัญหาของเราของบ้านในเหมือง
ให้ชาวเกาะลันตารับรู้ เออ..ไม่กล้าก็ไม่เป็นไร
แต่อยากให้มีใจร่วมพัฒนา
น้องปรายฟ้า น่ารักมากๆค่ะ มีความอดทนสูงมาก สมแล้วกับ
การที่จะมาเป็นทายาท(อสูร)นักพัฒนาของพวกเรา
น้องโสภาเขียนได้ยาวมากเลยนี่ยังไม่พูดถึงบ้านน้ำเค็มเลยนะ จบจากทุกคนแล้วสาวคงถอดมาเป็นหนังสือได้ซักเล่มช่วงนี้คงต้องรับภาระเล่าประสบการณ์ของทุกคนที่ไปร่วมเข้าค่ายเสียก่อนคงไม่เบื่อนะคะ เพราะคนบ้านในเหมืองเขาเริ่มตื่นตัวที่จะลุกขึ้นมาพัฒนาตนเองแล้วคะ