การที่เราจะสามารถพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องได้นั้น ต้องมีโครงสร้างระบบปฏิบัติงานที่ดี มีประสิทธิผลที่คงที่ ผลตรวจวิเคราะห์ไม่แกว่งไปมา ระบบ ISO 15189 เป็นระบบคุณภาพที่เน้นการบริหารจัดการ และศักยภาพของคน ว่า
1.มีการบริหารจัดการที่ดี
2.ระบบการปฏิบัติงานน่าเชื่อถือ มีคุณภาพดี
3. ผู้ปฏิบัติงานมีศักยภาพเพียงพอ
4. สถานที่ สภาวะแวดล้อมเหมาะสม ปลอดภัย
การประกาศใช้ ISO 15189 ก็เพื่อใช้เป็นรากฐานของการปฏิบัติงานอย่างมีระบบ ที่สามารถติดตาม ตรวจสอบ พัฒนาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองควันหลงจากการตรวจติดตามภายใน ภาควิชาพยาธิวิทยา เมื่อถามเรื่องการประกันคุณภาพงานบริการหรือ KPI มีอะไรบ้าง ก็ได้รับคำตอบว่า
1. การประกันคุณภาพเรื่องรอบเวลาการรายงานผล
2. ผล EQA อยู่ในระดับ ดี - ดีมาก
ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของผมนั้น อาจจะไม่เพียงพอ เพราะในอนาคตอีก 2-3 ปี ดัชนีชี้วัดการประกันคุณภาพ (ซึ่งหมายถึงความต้องการของลูกค้าและประสิทธิผลของเรา) จะอ้างอิง error rate ที่พบในระดับเข้าใกล้ศูนย์ หรือ six sigma ซึ่งนั่นหมายถึง โอกาสที่ห้องปฏิบัติการจะเกิดความผิดพลาดทั้งระบบได้ไม่เกินสามในล้านครั้ง ซึ่งในปัจจุบันมีบางโรงพยาบาลได้ตั้ง KPI แบบนี้แล้ว
การตรวจติดตามที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น บางคนอาจทดท้อ และรู้สึกว่า การขอรับรอง ISO 15189 ยาก มันไกลเกินฝัน ถึงกับบ่นเบาๆว่าอย่างนี้ไปขอรับรองดีกว่า ขอรับรองก็ไม่ผ่านแน่ๆ
พวกเราอย่าเพิ่งทดท้อเลย การที่พบสิ่งที่ต้องพัฒนา ปรับปรุงสัก100 ข้อ ก็เป็นสิ่งที่ปกติ เท่าที่ผมทราบยังไม่มีหน่วยงานเลยที่ตรวจประเมินครั้งสองครั้ง แล้วพบข้อบกพร่องต่ำกว่า 50 ข้อ ขอให้เราเข้าใจวัตถุประสงค์ของการทำระบบคุณภาพ ISO 15189 ว่าทำไมเราต้องทำ เพื่อจักได้มีแรงก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพที่ต่อเนื่อง และยั่งยืน
การตรวจติดตามภายในจะเป็นตัวช่วยให้เรา องค์กรนั้นๆ สำรวจตนเองว่าควรพัฒนาด้านใดบ้าง เมื่อเรารู้ว่าบกพร่องในประเด็นใด เราก็ต้องพัฒนาในประเด็นนั้น แม้ว่าในบางประเด็นอาจจะยากยิ่งต่อการพัฒนา แต่สิ่งนั้นก็สิ่งท้าทายความสามารถของเรา มันไม่เกินไกลฝันแน่นอน มันไม่เกินความสามารถของเราหรอกหากเราเชื่อว่าเราทำได้
ใช้เลยค่ะ ต้องคำถึงถึงความต้องการลูกค้า เช่นเดียวกันค่ะ คุณ ringo น่าจะเขียนสิ่งที่คนอ่านรอคอยอยู่อย่างใจจดจ่อนะคะ ก็บรรยากาศและผลการตรวจติดตามภายในที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ไง แหม ไม่รู้ใจเสียเลย
ขอบคุณครับอาจารย์ ผมเห็นอาจารย์ปลื้มจิตรเป็นผู้สังเกตุการณ์ ก็เลยคิดว่าอาจารย์จะเขียน ซึ่งน่าจะเขียนได้ดีกว่าผม งั้นประเดี๋ยวผมเล่าเรื่องในมุมมองจาก internal audit แล้วกัน เผื่อจะมีมุมมองจากผู้อื่นร่วมแจม