pripun
สุภิศารัศมิ์ ฟ้า พิทักษ์เผ่าสกุล

เขาบอกว่า...เขาเป็นคนมีบุญ


อะไรที่บอกว่าเป็นบุญหรือเป็นบาป

ดิฉันมีโอกาสได้รู้จักและสัมผัสกับครอบครัวหนึ่งมานับสิบปี   ซึ่งครอบครัวนี้มีบุตรหลายคน และตลอดระยะเวลาของการรู้จักและได้พูดคุยกันคนเป็นแม่ของครอบครัวนี้ มักพูดเสมอๆ ว่า  เขาเป็นคนมีบุญ  โดยเขาบอกว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา จนอายุเกือบเจ็ดสิบปีของเขา (เขาแต่งงานตั้งแต่อายุ 18 ปี)   สิ่งที่เขาปฏิบัติเสมอมาคือ

- ทำบุญใส่บาตรนับครั้งได้ (คาดว่าน่าจะประมาณไม่เกิน 15 ครั้งอย่างมาก) 

- ไม่เคยฟังธรรมเทศนา 

- ไม่เคยไปจำวัตรที่วัด  (ที่บ้านเราเรียกว่าจำศิลตามประสาผู้เฒ่าผู้แก่โบราณ)

-ไม่เคยอ่านหนังสือธรรมะ

-ไม่เคยไปสู่ขอลูกสาวของใคร

-เคยร่วมวงรับประทานอาหารร่วมกับคนอื่นที่มิใช่ลูกของตัวเอง หรือแม้แต่พี่น้องตัวเองนับครั้งได้

- เคยรับประทานอาหารร่วมกับแม่บังเกิดเกล้า หลังจากแต่งงานแล้ว ประมาณไม่ถึงสิบครั้ง

- ไม่เคยคบปะเพื่อนฝูงในรุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อแลกเปลี่ยนทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสามี  เรื่องลูก เรื่องหลาน อย่างที่คนรุ่นนี้  ทั่ว ๆ ไปเขาปฏิบัติกัน

- นับแต่วันลูกโต เรียนจบ มีงานทำ (บางคนซึ่งมีอีกหลายคนยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง) ทุกวันหยุดสัปดาห์ ลูกๆ จะต้องพาเขาไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าตามที่เขาต้องการ และพาไปรับประทานตามร้านอาหารหรู ๆ (โดยไม่มีบังเกิดเกล้า หรือที่ลูก ๆ เขาเรียกว่า ยาย ไปด้วย)

- ไม่เคยหุงอาหารให้แม่บังเกิดเกล้า (ยาย) รับประทานอาหาร

และ อีก ฯลฯ

"ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดเกือบ 20 ชั่วโมงในแต่ละวันของฉัน จะวนเวียนอยู่ภายในบ้าน บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่  หลังจากนั่งดูทีวีคนเดียว พร้อมมือขวาถือรีโมท เพื่อกดดูรายการตามใจที่ตนชอบ (แม้คนอื่นจะไม่ชอบ)  ช่วงบ่าย ๆ ของบางวัน ซึ่งไม่บ่อยนัก ถ้าไม่ร้อนเกินไป ก็จะไปนั่งคุยกับแม่ (ยาย) ซึ่งขณะนี้อายุ 88 ปี ที่อาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว ที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร  จะคุยกันประมาณ  5-10 นาที คุยนานกว่านั้นไม่ได้ เพราะต้องทะเลาะกันทุกที" 

"ฉันคิดว่า การที่ฉันอยู่บ้าน ไม่ออกไปพบปะหรือเสวนาใคร ถือว่าเป็นบุญของฉันนะ เพราะฉันนั่งอยู่กับที่ คอยให้คนมาไหว้ มานับถือ  ฉันไม่จำเป็นต้องออกไปไหว้ใครให้เมื่อยมือ"

นี่คือบางส่วน บางเรื่องราวของครอบครัวนี้ที่ดิฉันรับฟัง และสัมผัสมา

ณ วันนี้  ทำให้ดิฉันนึกไม่ออกว่า มีอะไรบ้างที่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่คนจนอายุเกือบเจ็ดสิบปี อย่างคนคนนี้ เขาเสียสละ และทำเพื่อคนอื่น แม้แต่กับลูกหรือสามี  และเขาอ้างตัวว่า เขาเป็นคนมีบุญ

ดิฉันค่อนข้างเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับเกร็ดชีวิต การต่อสู้ชีวิต การให้กำลังใจทั้งกับตนเองและผู้อื่น  รวมทั้งหนังสือธรรมะของพุทธศาสนา ที่มีคำสอนและเรื่องราวเกี่ยวกับบุญหรือบาปอยู่บ้างพอสมควร อีกอย่างดิฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับ มงคลชีวิต 38 ประการอยู่เสมอ ๆ ด้วย แล้ว อืมมม......พยายามหาข้อที่บ่งบอกว่าเขาเป็นคนมีบุญเกี่ยวกับคนคนนี้ และสิ่งที่เป็นมงคลชีวิตของเขา ก็ยังไม่ปรากฎในสาระของหนังสือเล่มใดเลย

 เลยมานึกสงสัยว่า คนมีบุญ คือต้องมีคุณลักษณะอย่างไร

รบกวนเข้ามาแสดงจข้อคิดเห็นเพื่อแนะนำหน่อยนะคะ  ว่าการประพฤติดังกล่าว เขาเรียกว่า เขาเป็นคนมีบุญหรือไม่ จะขอบคุณมากเลยค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #คนมีบุญ
หมายเลขบันทึก: 88529เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2007 16:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 20:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

คงจะเป็นบุญจากชาติที่แล้วมั้งครับ...

ที่ฟังมาชาตินี้เขาแทบไม่ได้ทำบุญอะไรเลย...

แต่ถึงเขาจะไม่ทำอะไรให้ใครอย่างน้อยเขาก็ไม่เบียดเบียนใครครับ...

ขอบคุณครับ...

เห็นด้วยกับคุณDirect ค่ะ

 แต่อย่างน้อยเขาก็อาจไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และไม่สบายใจ มีความสุขตามอัตภาพ การทำบุญอาจจะไม่ต้องไปทำบุญตักบาตรอย่างเดียว เขาอาจจะทำทานกับสัตว์ก็ได้นะค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่นำมาเล่าให้ฟัง

บุญ บุญนี่บ่แม่น แนวปันแจกกันแล่ว

บ่แม่นแนวแบ่งได้ คือไม้ผ่ากลาง

คือจั่งเฮากินข้าว เฮากิน เฮากะอิ่ม

มันบ่ไปอิ่มท้อง เขาพู้น ผู้บ่กิน

 

มีบุญจริง แต่เป็นบุญเก่า ผู้มีปัญญาย่อมไม่ประมาท ใช้โอกาสนี้ในการสร้างบุญกุศลให้งอกงามขึ้นไปอีก

pripun....

ตามที่เล่ามา จะเจือด้วยความเห็นส่วนตัว (มากหรือน้อย) ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้...

ทรัพย์ที่ได้มาทำให้เค้าดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน... เป็นทรัพย์เก่าที่เค้าได้มาจากมรดก หรือจากการประกอบอาชีพของเค้าเอง...

ถ้าเป็นทรัพย์ที่เป็นมรดกตกทอดมาเป็นส่วนใหญ่ หรือจากการประกอบอาชีพของเค้าเองก็ตาม แสดงว่าเค้ามีคุณธรรมในประเด็นนี้ นั่นคือ รักษาทรัพย์สมบัติที่มีอยู่หรือทำมาหากินด้วยความขยันมั่นเพียร...

แต่การรักษาทรัพย์ที่มีอยู่แล้วหรือขยันทำมาหากินก็ตาม... อาจจำแนกได้ว่า โดยสุจริตหรือทุจริต (ขาวหรือดำ หรือถ้าเป็นเทา ก็เทาอ่อนหรือแก่...)

ลูกๆ ของเค้าเป็นอย่างไร ? ถ้าลูกๆ ของเค้าได้รับการเลี้ยงดู อบรม ได้รับการศึกษา และประกอบอาชีพโดยสุจริต ...นั่นคือ เค้ามีคุณธรรมในฐานะเป็นแม่ที่ดี...

เค้าอาจไม่มีเพื่อนหรือมีเพื่อนน้อย ไม่ได้รับความเคารพนับถือจากบรรดาญาติหรือสังคม... นั่น อาจเป็นเพราะเค้าขาดคุณธรรมบางอย่าง.... 

....ฯลฯ..

คำสอนของพระพุทธศาสนาจัดเป็น วิภัชชวาท กล่าวคือ ต้องแยกแยะเฉพาะกรณี ซึ่งประเด็นย่อยๆ เหล่านี้ มีนัยหลากหลายยิ่งนัก....

ในมงคลสูตรมีนัยการเริ่มต้นชีวิต ลองดู ปรัชญามงคลสูตร ๓ : เริ่มต้นแห่งชีวิตใหม่  ...

โดยย่อ...เค้าอาจเกิดมาในครอบครัวที่แนะนำเค้าดีเพื่อความมั่นคงแห่งชีวิต (ปฏิรูปเทสวาโส).. เค้ามีบุญเก่าหนุนนำ (ปุพเพกตปุญญตา)... และเค้าดำรงตนไว้ในแนวทางที่ชอบ (อัตตสัมมาปณิธิ)..

ประเด็นอื่นๆ คุณโยมก็อาจหาคำตอบได้...

เจริญพร

 

ความเห็นเพิ่มเติมค่ะ 

1. การที่เขาไม่เคยไปขอลูกสาวใคร (สะใภ้) แสดงถึงการไม่ยอมเสียเปรียบใครคืหรือเปล่า เพราะประเพณีของไทย เมื่อมีการสู่ขอ ฝ่ายชายต้องพยายามหาสินสอดในการไปสู่ขอมิใช่หรือคะ อีกทั้งพ่อแม่ฝ่ายชายต้องไปบ้านเรือนของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกียรติในการเกี่ยวดองกัน แต่คนคนนี้ไม่เคยทำ

2. การที่เขาไม่เคยอุปการะดูแลเลี้ยงดูอย่างที่บุตรควรพึงปฏิบัติต่อผู้บังเกิดเกล้านี่ละคะ  เพราะตามหลักการปฏิบัติหรือ มงคลชีวิต 38 ประการ กล่าวไว้ว่า การทำบุญกับพ่อแม่หรือที่เราเรียกว่าอรหันต์ที่บ้าน เป็นการทำบุญอันสูงสุดประการสำคัญมิใช่หรือคะ

ยังมีประเด็นน่าสนใจอีกมากนะคะเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะนี่คือวิถีชีวิตจริง ของคนคนนี้ ไม่มีการแต่งเรื่อง

ดิฉันเพียงอยากทราบความเป็นบุญหรือเป็นบาป และเพื่อคาดการณ์ถึงการจบชีวิตของคนคนนี้ ซึ่งเขาไม่มีวันเลี่ยงหนีไปได้แน่นอน แต่ดูเหมือนเขาจะใช้ชีวิตแบบไม่เดือดเนื้อร้อนใจจริง ๆ ค่ะ

แล้วถ้าเช่นนั้น  คนเราจะแสวงหาเรื่องบุญหรือเรื่องบาปกันไปทำไม เพราะหากใช้ชีวิตอย่างคนคนนี้จริงๆ บาปหรือบุญก็ไม่จำเป็นสำหรับเขา ใช่หรือไม่

คงมีบุญติดตัวมาตั้งแต่ชาติที่แล้วเยอะ   บุญในที่นี้คงจะประมาณว่าบุญเก่า  แต่การไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งใดๆในชีวิตชาตินี้ของเขา ทำให้ไม่ยุ่งยาก ไม่เดือดร้อน  แต่เชื่อเถอะว่าการไม่ทำสิ่งดีๆในชีวิต  การไม่พึ่งพาอาศัยใครเลยสักวันก็จะลำบากเมื่อบุญที่สะสมหมดไป บุญใหม่เมื่อไม่สร้างทดแทนตายไปคงลำบากน่าดู

ไม่มีอะไรที่บ่งบอกเลยว่าเขาเป็นคนมีบุญ ที่จะมีคือแค่อายุยืน และพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีเท่านั้นเอง แต่การกระทำปัจจุบันล้วนแต่ไม่ก่อให้เกิดบุญใดๆ

การที่เรามีบุญนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะคนเราล้วนมีบุญด้วยกันทั้งนั้น แล้วแต่ว่าจะออกมาให้เห็นในแบบใดการที่เราบอกมีบุญนั้นเราแนใจแล้วหรือว่าเรามีบุญจริงๆ แต่เราควรสร้างบุญของเราต่อไปให้ต่อเนื่องเพราะเราจะหวังกินบุญเก่าของเราไม่ได้เพราะชาติหน้าเราก้อต้องชดใช้สิ่งที่เขาทำให้เราโดยที่เราม่รู้ว่าเพราะอะไร เหมือนกับที่เขาบอกว่าเขามีบุญโดยที่คุณไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท