อาจทำแผนที่ของทั้งองค์กร ทำเฉพาะบางหน่วยย่อย หรือเฉพาะบางธุรกิจก็ได้
วิธีทำ : ใช้ "แว่นความรู้" ส่องดู 4 องค์ประกอบ (element) หลักคือ people, process, technology และ content โดยตั้งคำถามดังตัวอย่าง
- ใครรู้อะไร
- มีการแลกเปลี่ยนความรู้แค่ไหน
- มีการสร้างความรู้ที่ไหน ใครเป็นผู้สร้าง
- มีการใช้ความรู้อะไร ใครเป็นผู้ใช้
- ทำไมความรู้จึงสำคัญต่อองค์กร
ในระหว่างพิจารณาคำถามนี้ ต้องพิจารณาประเด็นด้านวัฒนธรรมขององค์กรที่มีผลต่อวิธีคิด พฤติกรรม และมุมมองของสมาชิกระดับบุคคลและระดับกลุ่ม
นอกจากนั้นควรตรวจสอบกิจกรรมที่องค์กรดำเนินการอยู่แล้ว ด้วย "แว่นความรู้" และด้วยคำถามว่า จะใช้กิจกรรมเหล่านั้นส่งเสริมกิจกรรมความรู้ได้อย่างไร ตัวอย่างของกิจกรรม ได้แก่
- Competitive intelligence
- Customer relationship management
- Human computer interaction
- Human resource management
- Information management
- Information systems
- Intellectual property management
- Market research
- Project management
- Quality management
- Records management
- Risk management
ในการตอบคำถามข้างต้น ควรใช้ "ตัวช่วย" (enablers) ซึ่งจะช่วยทำให้เข้าใจว่าในองค์กรมีความรู้อะไร ความรู้ไหลเวียนผ่านความสัมพันธ์ระหว่างคนและผ่านระบบนิเวศความรู้อย่างไร ตัวอย่างของตัวช่วยคือ
- knowledge auditing
- information auditing
- knowledge mapping
- social network analysis
เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยบอกการไหลเวียนความรู้ ซึ่งมักจะสวนทางกับที่ปรากฎใน organization chart ซึ่งเป็นช่วงทางไหลเวียนความรู้แบบเป็นทางการ แต่ "ตัวช่วย" จะทำให้มองเห็นการไหลเวียนความรู้แบบไม่เป็นทางการ
การทำแผนที่ระบบนิเวศความรู้ดังกล่าว จะนำไปสู่ความเข้าใจอุปสรรคเชิงวัฒนธรรมในการใช้เครื่องมือจัดการความรู้
Ref. Standards Australia. Knowledge management - a guide. AS 5037 - 2005
วิจารณ์ พานิช
18 มี.ค.50
ไม่มีความเห็น