โรงเรียนบ้านโพนทองได้มีการจัดทำ KM เกี่ยวกับเรื่องการเบิกสวัสดิการต่าง ๆ ซึ่งการทำ KM เรื่องนี้ มีที่มาจาก เรื่องเล่าของคุณอำนวย ดังนี้
การเบิกเงินสวัสดิการ การเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและการศึกษาของบุตรของครูและภารโรง แต่ก่อนยังเป็นแค่การวางเบิกที่สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอตาคลี ซึ่งเดิมเทคโนโลยียังไม่มีจึงใช้วิธีให้ครูแต่ละคนเขียนใบเบิกเอง โดยกระผมที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารให้รับผิดชอบงานการเงินจึงได้จัดเตรียมเอกสารแบบฟอร์มไว้ให้ ปัญหาที่พบบ่อยๆครูมักจะกรอกแบบฟอร์มผิดหรือเขียนผิดเป็นประจำ การแก้ต้องเซ็นชื่อกำกับ ทำให้ดูสกปรกและเป็นปัญหามาก อีกทั้งแบบฟอร์มที่เตรียมไว้ให้ก็มักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอกระผมจึงให้ครูแต่ละคนส่งแต่ใบเสร็จแล้วจะพิมพ์ให้ เพื่อความถูกต้องและเรียบร้อย ต่อมาเมื่อกระผมได้จัดซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนตัวก็ไม่ได้เตรียมแบบฟอร์มการเบิกเงินสวัสดิการเพราะการทำในคอมพิวเตอร์สามารถลบแก้ไขได้สะดวกกว่าและสะอาดเรียบร้อย โดยจะใช้เวลาทำที่บ้านพักในช่วงที่มีเวลาว่าง จึงมักมีปัญหาคือบางครั้งมีคนเบิกน้อยก็จะคอยรวมใบเสร็จให้มากๆแล้วจะทำครั้งเดียวตอนสิ้นเดือน จึงทำให้การเบิกเกิดการล่าช้า และครูก็กรอกแบบไม่ค่อยเป็นเพราะกระผมจะเป็นผู้จัดทำให้เสร็จทั้งหมด ต่อมาเมื่อ ผู้อำนวยการสมเดช สีแสง ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 3 มีแนวความคิดที่ต้องการบริการครูเพื่อสร้างขวัญกำลังใจโดยดำเนินการ โครงการ One Stop Service เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรวดเร็วภายในวันเดียว กระผมจึงคิดว่าเมื่อ ท่านผอ.เขต ได้เอื้อให้ครูแล้ว ทำอย่างไรครูเราจึงจะสนองนโยบายของท่านให้สมกับที่ท่านตั้งใจ จึงได้นำแนวคิดจากการอบรม Km เกี่ยวกับโรงพยาบาลบ้านตาก มาเสนอท่านผู้บริหาร ว่าน่าจะทดลองกระบวนการ Km ในโรงเรียนเกี่ยวกับการเบิกสวัสดิการ โดยใช้วิธีการถ่ายทอดความรู้ให้ครูได้ฝึกทำด้วยตนเอง โดยกระผมจะทำ แบบฟอร์มการเบิกสวัสดิการ ของครูแต่ละคนในโรงเรียน มาใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน และแนะนำวิธีการกรอกแบบฟอร์ม การตรวจสอบข้อมูลจนครูสามารถทำเรื่องเบิกจ่ายได้ด้วยตนเองภายในวันเดียวตามวัตถุประสงค์ของ โครงการ One Stop Service โดยจะเริ่มจากครูที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้คล่องก่อน แล้วช่วยฝึกผู้ที่ยังไม่คล่องให้สามารถทำได้ ซึ่งผู้บริหาร ได้นำเรื่องการเบิกสวัสดิการเข้าที่ประชุมคณะครู และคณะครูเห็นชอบร่วมฝึกปฏิบัติการเบิกสวัสดิการตามกระบวนการ Km และสามารถนำไปใช้ในการเบิกสวัสดิการได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว เป็นที่พึงพอใจของบุคลากรทุกคน และบรรลุวัตถุประสงค์ของ โครงการ One Stop Serviceจากการที่โรงเรียนบ้านโพนทองของเราได้ทำKm การเบิกสวัสดิการตามนโยบาย One stop service ของท่าน ผอ.เขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 3 ที่ได้จัดให้กับคุณครูทุกท่านที่อยู่ตามอำเภอต่าง ๆ ได้ใช้บริการกัน ทางโรงเรียนของเราได้ทำ Km ในเรื่องนี้ มาตั้งแต่ต้นปีการศึกษา ซึ่งผลจากการทำ KM ทำให้คุณครูของเราภายในโรงเรียนทุกคน สามารถจัดทำแบบเบิกสวัสดิการได้เป็นอย่างดี และประสบผลสำเร็จ จนมาถึงวันนี้ ทางโรงเรียนของเราจึงได้ให้คุณครูทุกท่านประเมินตนเองในเรื่องความพึงพอใจ และจัดทำธารปัญญา บันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องการเบิกสวัสดิการ จนเสร็จเรียบร้อย
เล่าได้ดีแล้วค่ะ เล่าต่อเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ
วันนี้อยู่ที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลาค่ะ