พี่ครับ...วันนี้มีผู้ป่วยที่แพ้ยาหลุดมาถึงผม 3 รายแล้วน่ะ....เราจะทำอย่างไรกันดี...เป็นเสียงของเภสัชกรเอ...(คุณสามารถ)ก่อนที่ผู้ป่วยหรือญาติจะได้รับประทานยาแล้วแพ้ซ้ำอีก....
นั่นนะซี..หลุดไปถึงห้องยาจนได้...พวกเราจะทำอย่างไรกันดี??...เราก็ซักประวัติเรื่องนี้ทุกคนอยู่แล้ว...เอ๋...หรือว่าเขาไม่ยอมบอกความจริงหรือว่าเราหลุดลืมถามเขา...เอางี้แล้วกัน...พวกพี่ๆหน้าห้องตรวจจะพยายามไม่ให้หลุดไปจนถึงห้องยาและจะใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นเพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดจนถึงไม่เกิดปัญหาเลยโดยที่พวกเราจะติดป้ายหรือเขียนด้วยหมึกสีแดงว่าแพ้ยาไปให้ถ้าเขามีประวัติแพ้ยาก็แล้วกัน...แต่ถ้ามีหลุดไปถึงก็ช่วยลงประวัติแพ้ยาลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยเน๊าะ.....ดีน่ะเนี่ยเป็นการตรวจสอบกันอีกที...เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ
นั่นนะซี (เป็นเสียงของเภสัชกร)แล้วผมจะลงประวัติแพ้ยาในคอมฯด้วย...
เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ปัญหา..พร้อมทั้งค้นหาสาเหตุของปัญหาและเปิดใจกว้างเพื่อรับฟังปัญหา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ......โดยคำนึงถึงสิทธิของทั้ง 2 ฝ่าย
อาทิตย์ต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ใช้บริการหน้าห้องตรวจ 3- 4 ที่มีประวัติแพ้ยาหลุดไปถึงห้องยาอีกเลย
จากเหตุการณ์นี้เราจะเห็นได้ว่าการพูดปัญหา และเปิดใจกว้างเพื่อรับฟังปัญหา พร้อมทั้งหาวิธีแก้ปัญหาร่วมกันผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นความปลอดภัยทั้งของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการและมีความสุขด้วยกันทุกฝ่าย สมกับเป็นโรงพยาบาลที่ผ่านรับการรับรองคุณภาพจาก พรพ.แล้ว
บุคลกันไปก่อน....ซึ่งก็ได้ผลดีในระดับหนึ่ง