ไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทใดก็ตาม การเตรียมตัวให้พร้อม (เท่าที่สามารถทำได้) เป็นสิ่งสำคัญเสมอ ซึ่งในบทบาทผู้ให้การปรึกษาของสถาบันบำราศฯก็เช่นกัน จำเป็นต้องผ่านการอบรมหลักสูตรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำงานทั้งก่อน และระหว่างที่อยู่ในหน้าที่เป็นผู้ให้การปรึกษา เพื่อให้มีความพร้อมต่อการทำงาน เกิดประโยชน์กับผู้รับบริการ ตลอดจนสถาบันมากที่สุด
ข้อดีของการอบรม......แน่นอนผู้ปฏิบัติงานมีความรู้มากขึ้นช่วยให้เกิดความมั่นใจ(ระดับนึง) ในการทำงาน.....แต่จะจริงหรือไม่ ก็ต้องลองลงสนามจริง (ภาคปฏิบัติ) กันดูจึงจะบอกได้..... สำหรับความคิดเห็นของดิฉัน สนามจริงเปรียบเหมือน มะขามป้อม ที่เคี้ยวแล้วทั้งฝาด,ขม(ขื่น) ก่อน แล้วจึงหวานทีหลัง ไม่เชื่อลอง.....ดูซิคะ.
เมื่อตอนเป็นผู้ให้การปรึกษา (มือใหม่) อย่างดิฉัน ซึ่งเชื่อได้ว่า ผู้ให้การปรึกษา (มือเก่า) ทุกคนได้ผ่านมาแล้วทั้งนั้น คำว่า “มือใหม่” หรือ “มือเก่า” ดูจากประสบการณ์ ในการให้การปรึกษา ไม่ได้ดูจากอายุนะคะ......ไม่เช่นนั้น พวกเราก็คงเป็นมือเก่า (แก่) กันหมดแล้ว แหล่ะค่ะ 5555..... จากการที่ได้เคย ลปรร ถึงความรู้สึกซึ่งกันและกัน ว่ารู้สึกแย่ ยิ่งกว่าแย่เสียอีก สำหรับการลงสนามจริงครั้งแรกๆ ซึ่งก็ยังจำกันได้เสมอ แม้เวลาจะผ่านมานาน....ไม่อยากบอกว่าเป็น 10 ปีแล้ว และพี่ๆของเราก็.......(เห็นความเป็นมือเก่า.. แก่อยู่รำไรกันทั่วหน้าแล้วล่ะค่ะตอนนี้)
ถึงตอนนี้มือน้องใหม่เอี่ยมอย่าง น้องติ๊ก, น้องนุ่น และ น้องเอก ก็มีพี่ๆคอยให้กำลังอยู่เรื่อยๆ เพราะกลัวว่าน้องจะหนีไปอยู่ที่อื่นเสียก่อน.... ณ. ขณะนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะเก่งแล้ว ...มีสิ่งท้าทายใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ อย่างเช่น ความพยายามของงานให้การปรึกษาที่จะหาแนวทางที่ทำให้ผู้ติดเชื้อ หรือคู่เพศสัมพันธ์ของผู้ติดเชื้อที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือในคู่สมรสที่ฝ่ายหนึ่งติดเชื้อ (บวก) ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งไม่ติดเชื้อ (ลบ) หันมาปรับลดพฤติกรรมเสี่ยงกัน เพื่อคงสถานะฝ่ายที่ผลเลือดลบไว้ไม่ให้ติดเชื้อ และลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ตลอดจนส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีของคู่เพศสัมพันธ์ ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ และความพยายามอย่างมากของทีมให้การปรึกษาสถาบันบำราศฯ โดยพวกเราหวังว่าจะหาแนวทางที่เหมาะสมกับกลุ่มดังกล่าวออกมาใช้ต่อไป.... เห็นไหมคะว่าถึงขณะนี้ พวกเราก็ยังเป็น “มือใหม่” อย่างเช่นเคย ต่างกันตรงที่ว่า มือใหม่ (อย่างหลัง) เป็นพวกมือใหม่ที่อยากลองทำสิ่งใหม่ๆ ก่อนคนอื่นเขาบ้าง ก็น่าจะดีเหมือนกันนะคะ..... เอ๊าพวกเราสู้ๆๆๆ.
เข้ามาเยี่ยมค่ะ
หายไปนานจริงๆ ด้วย คิดถึงมากนะ ดีใจที่กลับมาเขียน
เข้าใจผู้ให้คำปรึกษามากๆ กรณีที่ต้องเอาผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางซึ่งต้องเข้าถึง เข้าใจ Cli. เป็นtacit เฉพาะจริงๆ
มีพี่ที่รู้จักท่านหนึ่งที่เคยเป็นผู้ให้คำปรึกษา รับไม่ได้กับการที่ผู้รับการปรึกษา ไปทำร้าย(แพร่เชื้อ)คนอื่นต่อ ทั้งที่ช่วงให้การปรึกษาคุยกันรู้เรื่องแล้ว พี่คนนี้ถึงกับเลิกเป็นผู้ให้คำปรึกษา เปลี่ยนงานไปเลยค่ะ
เข้าใจและเป็นกำลังใจเสมอโดยเฉพาะเวลาต้องตอบคำถามว่า "คุณ Csg. กันยังไงคนไข้ถึงไม่ยอมสวมถุงยางอนามัย"
ขอโทษทีค่ะ ที่หายไปนาน.....จริงๆ เพราะว่าต้องดูแลแม่อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ทั้งก่อน และหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า เนื่องจากท่านอายุมากแล้ว วันหยุดก็จะไปดูว่าแม่ทำกายภาพบำบัดได้ถูกหรือเปล่า ซึ่งการกายภาพสำคัญมากๆเลยต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อขา ซึ่งแม่ก็ตั้งใจทำอย่างมาก จนบางครั้งแม่จะเครียดเกินไปบ้าง ลูกๆจะคอยให้กำลังใจกัน บางทีก็ต้องตลกๆ ให้แม่หัวเราะ ......ตอนนี้แม่เดินได้แล้วโดยใช้ walker ช่วย ซึ่งก่อนผ่าตัดแม่เดินไม่ได้ประมาณ 1 ปี ตอนนี้แม่สบายใจขึ้นมาก ส่วนเราก็ happy เช่นกัน.....เดี๋ยวอีกสักระยะ หมอนัดผ่าตัดอีกข้างนึง เราก็จะหายไปอีกคงไม่ว่ากันนะคะ........ขอบคุณทุกคนที่คิดถึง และเข้ามาให้กำลังค่ะ......G2K หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะ ดูดีขึ้นค่ะ เกือบเข้าไม่ถูกแน่ะ.